This research study addressed BSN s

This research study addressed BSN student competency in administering intramuscular injections with and without simulation
training, and ability to transfer the skill from learning laboratory to patient care. There is a dearth of empirical evidence
supporting simulation in psychomotor skill learning and transfer of these skills to patient care. A two-group repeated measures
pretest/posttest design with three measurement times was used. Scenario-based simulation served as the intervention. All
subjects were posttested in the learning laboratory and clinical settings. The experimental group had higher adjusted means at
both posttesting times, though these results were not statistically significant.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาวิจัยนี้อยู่ความสามารถนักเรียน BSN ในจัดการฉีดบาดทะยักจากที่มี และไม่ มีการจำลองฝึกอบรม และความสามารถในการถ่ายโอนทักษะจากการเรียนรู้ห้องปฏิบัติการดูแลผู้ป่วย มีขาดแคลนหลักฐานประจักษ์การจำลองที่สนับสนุนในการเรียนรู้ทักษะ psychomotor และถ่ายโอนทักษะเหล่านี้ไปดูแลผู้ป่วย การวัดซ้ำสองกลุ่มใช้ออกแบบ pretest/posttest วัดสามครั้ง บริการตามสถานการณ์จำลองเป็นการแทรกแซง ทั้งหมดเรื่องที่ posttested ในห้องปฏิบัติการเรียนรู้และการตั้งค่าทางคลินิก หมายถึงปรับปรุงสูงที่มีกลุ่มทดลองทั้ง posttesting เวลา แต่ผลลัพธ์เหล่านี้ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีการแก้ไขความสามารถของนักเรียนในการบริหาร BSN
ฉีดเข้ากล้ามที่มีและไม่มีการจำลองการฝึกอบรมและความสามารถในการถ่ายโอนทักษะจากห้องปฏิบัติการเรียนรู้ที่จะดูแลผู้ป่วย มีความขาดแคลนของหลักฐานเชิงประจักษ์คือการสนับสนุนการจำลองในทักษะการเรียนรู้จิตและการถ่ายโอนทักษะเหล่านี้การดูแลผู้ป่วย
สองกลุ่มวัดซ้ำก่อนเรียน / หลังเรียนด้วยการออกแบบสามครั้งวัดถูกนำมาใช้
การจำลองสถานการณ์ที่ใช้ทำหน้าที่เป็นแทรกแซง ทุกวิชาที่ถูก posttested ในห้องปฏิบัติการการเรียนรู้และการตั้งค่าทางคลินิก
กลุ่มทดลองมีการปรับสูงขึ้นหมายถึงการที่ทั้งสองครั้ง posttesting แม้ว่าผลการเหล่านี้ไม่ได้มีนัยสำคัญทางสถิติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้กล่าวถึงความสามารถในการบริหารเพื่อการรวมนักศึกษาที่มีและไม่มีการฝึกอบรมการจำลอง
, และความสามารถในการถ่ายโอนทักษะจากการเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการ การดูแลผู้ป่วย มีความขาดแคลนของหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนในด้านการจำลอง
ทักษะการเรียนรู้และการถ่ายโอนทักษะเหล่านี้เพื่อการดูแลผู้ป่วย สองกลุ่มวัดซ้ำ
ออกแบบ / หลังทดลองกับสามวัดเวลาที่ใช้ การจำลองสถานการณ์ที่ใช้เสิร์ฟเป็นการแทรกแซง ทั้งหมดใช้เวลาในการเรียนรู้
จำนวนห้องปฏิบัติการและการตั้งค่าทางคลินิก กลุ่มทดลอง สูงกว่าวิธีการปรับที่
ทั้ง posttesting ครั้ง แม้ว่าผลลัพธ์เหล่านี้มีนัยสำคัญทางสถิติ