The radius of curvature of the corn

The radius of curvature of the corneal lens was larger at the outer surface than that at the inner surface (retinal side) (Figs. 4 and 5). Thus, the corneal lens looked like a combination of a larger upper hemisphere and a smaller lower hemisphere, a geometry that was distinct in SEM images (Fig. 5A). Subsequent morphometry of the corneal lens
was carried out in sections as shown in Fig. 4A, as well as in isolated specimens as shown in Figs. 5B and C. Since a pigmented envelope surrounded the lower part of the corneal lens, this seemed to function as an aperture (Figs. 4A and B). The corneal lens consisted of a thin external cortical layer and a spherical medullar region (Figs. 4A and B). The cortical layer, less than 10 lm in thickness, was continuous
with the surrounding cuticular integument. The medullar region was non-uniform in both structure and staining properties, in epoxy embedded sections being stained densely by toluidine blue in the central part (Figs. 4A and B). Moreover, the medullar region consisted of concentric lamellae, like an onion, which were clearly visible in sections viewed in air, without a coverslip (Fig. 6A). The center of the concentric layers was not positioned at the center of the lens, but displaced into the distal region Fig. 6B). The posterior margin of the corneal lens was separated from the underlying retina by an extracellular matrix. However, the boundary between the lens and the
extracellular matrix was less clear in some specimens, because concentric lamellae were spread toward the extracellular matrix, as shown in Figs. 6A and B.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รัศมีของความโค้งของกระจกตาเลนส์มีขนาดใหญ่ที่พื้นผิวด้านนอกกว่านั้นที่ผิวด้านใน (ด้านจอประสาทตา) (รูปที่ 4 และ 5) ดังนั้นเลนส์แก้วตาเหมือนการรวมกันของซีกโลกตอนบนมีขนาดใหญ่และซีกโลกที่ลดลงมีขนาดเล็กรูปทรงเรขาคณิตที่แตกต่างกันในภาพ SEM (รูปที่ 5A) morphometry ที่ตามมาของ
เลนส์แก้วตาถูกหามออกในส่วนดังแสดงในรูป 4a,เช่นเดียวกับตัวอย่างที่แยกดังแสดงในมะเดื่อ 5b และ C ตั้งแต่ซองจดหมายสีล้อมรอบส่วนล่างของเลนส์แก้วตานี้ดูเหมือนจะทำงานเป็นรูรับแสง (รูปที่ 4a และข) เลนส์แก้วตาประกอบด้วยชั้นเยื่อหุ้มสมองบางภายนอกและภูมิภาค medullar ทรงกลม (รูปที่ 4a และข) ชั้นเยื่อหุ้มสมองน้อยกว่า 10 ไมครอนในความหนาเป็นอย่างต่อเนื่อง
หุ้มด้วยเปลือกโดยรอบ ภูมิภาค medullar เป็นไม่สม่ำเสมอในทั้งโครงสร้างและคุณสมบัติการย้อมสีอีพ็อกซี่ในส่วนที่ฝังอยู่ถูกย้อมหนาแน่นโดย toluidine สีฟ้าในภาคกลาง (รูปที่ 4a และข) นอกจากนี้ยังภูมิภาค medullar ประกอบด้วย lamellae ศูนย์กลางเช่นหัวหอมซึ่งเป็นที่เห็นได้ชัดเจนในส่วนดูได้ในอากาศโดยไม่ต้อง coverslip (รูปที่ 6a)ศูนย์กลางของชั้นศูนย์กลางไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เลนส์ของศูนย์ แต่ย้ายเข้าไปมะเดื่อภาคปลาย 6b) ขอบของเลนส์แก้วตาถูกแยกออกจากจอประสาทตาที่ขีดเส้นใต้โดย extracellular เมทริกซ์ อย่างไรก็ตามเขตแดนระหว่างเลนส์และ
extracellular เมทริกซ์ก็ไม่ชัดเจนในบางตัวอย่าง,เพราะ lamellae ศูนย์กลางกระจายไป extracellular เมทริกซ์ดังแสดงในมะเดื่อ 6a และข

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รัศมีของความโค้งของเลนส์กระจกตามีมากกว่าที่ผิวภายนอกที่ผิวด้านใน (ด้านจอประสาทตา) (Figs. 4 และ 5) ดังนั้น เลนส์กระจกตาดูเหมือนชุดของซีกโลกด้านบนมีขนาดใหญ่และซีกมีขนาดเล็กต่ำกว่าโลก เรขาคณิตที่แตกต่างกันใน SEM ภาพ (ของ 5A Fig.) ต่อมา morphometry ของเลนส์กระจกตา
ถูกดำเนินในส่วนมาก Fig. 4A เช่นกันกับในไว้เป็นตัวอย่างแยกเป็นแสดงใน Figs. 5B และ c เนื่องจากซองมีสีล้อมรอบส่วนด้านล่างของเลนส์กระจกตา นี้ดูเหมือนจะเป็นรูรับแสง (Figs. 4A และ B) เลนส์กระจกตาประกอบด้วยชั้นเนื้อแน่นภายนอกที่บางและภูมิภาค medullar ทรงกลม (Figs. 4A และ B) ชั้นเนื้อแน่น น้อยกว่า 10 lm ความหนา ไม่ต่อเนื่อง
กับ integument cuticular รอบ ภูมิภาค medullar ไม่สม่ำเสมอในโครงสร้างและคุณสมบัติของการย้อมสี อีพ๊อกซี่ในฝังส่วนที่มีสีหนาแน่นไป ด้วย toluidine สีน้ำเงินในส่วนกลาง (Figs. 4A และ B) นอกจากนี้ ภูมิภาค medullar consisted ของ concentric lamellae เช่นความหอม ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนในส่วนในอากาศ โดย coverslip (Fig. 6A) ศูนย์กลางของชั้น concentric ไม่วางตำแหน่งไว้ที่ศูนย์กลางของเลนส์ แต่พลัดถิ่นเข้ามาในภูมิภาคกระดูก Fig. 6B) ขอบด้านหลังของเลนส์กระจกตาแยกออกจากตาต้นแบบโดยการเคลือบ อย่างไรก็ตาม เขตแดนระหว่างเลนส์และ
เคลือบไม่ชัดเจนในบางไว้เป็นตัวอย่าง เนื่องจาก concentric lamellae ได้แพร่กระจายไปทางเคลือบ ดังที่แสดงใน Figs. 6A และ b

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รัศมีของความโค้งของเลนส์ Copyright ที่มีขนาดใหญ่กว่าที่ผิวด้านนอกกว่าที่ที่พื้นผิวด้านใน(ด้าน optical nerve ))(มะเดื่อ 4 และ 5 ) ทำให้เลนส์ Copyright มองเช่นการผสมผสานของซีกโลกส่วนบนมีขนาดใหญ่กว่าได้และอีกซีกโลกที่มีขนาดเล็กกว่าลดลงรูปทรงเรขาคณิตที่มีความหมายอย่างไรต่อที่แตกต่างกันใน รูปภาพ (รูปที่ 5 ) morphometry ต่อมาของเลนส์ Copyright ที่
ซึ่งจะช่วยเป็นการกระทำในส่วนต่างๆตามที่แสดงในรูปที่ 4 ที่และในตัวอย่างแยกตามที่แสดงในมะม่วง. 5 B และ C ตั้งแต่ซองจดหมายมีสีที่โอบล้อมไปส่วนลดของเลนส์ Copyright นี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นช่องรับแสง(มะเดื่อที่ 4 A และ B ) Copyright เลนส์ที่ประกอบด้วยชั้น cortical ภายนอก บางเฉียบและเป็นทรงกลม medullar ภูมิภาค (มะเดื่อที่ 4 A และ B ) ชั้น cortical ที่น้อยกว่า 10 LM ในความหนาเป็น
ตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องพร้อมด้วย cuticular โดยรอบ integument . เขตพื้นที่ medullar ที่เป็นแบบไม่แต่งเครื่องแบบในโครงสร้างและคุณสมบัติเกิดรอยเปื้อนควรทั้งในส่วนเอ็มเบ็ดเด็ดอีพ็อกซีเรซินมีแต้มสีอยู่อย่างหนาแน่นโดย toluidine สีฟ้าในส่วนกลางได้(มะเดื่อ 4 A และ B ) ยิ่งไปกว่านั้นเขตพื้นที่ medullar ที่ประกอบด้วย lamellae ฟองมันเหมือนหัวหอมซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนในส่วนแสดงผลในอากาศโดยไม่ coverslip (รูปที่ 6 )ศูนย์กลางของชั้นฟองมันไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางของเลนส์ที่แต่พลัดถิ่นเข้าสู่เขตพื้นที่ distal ที่รูป 6 b ) ส่วนต่างกำไรที่ก้นของเลนส์ Copyright ที่ถูกแยกจากจอประสาทตาพื้นฐานโดย Matrix Storage extracellular ที่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขตระหว่างเลนส์และ Matrix Storage
extracellular ที่ไม่ชัดเจนในตัวอย่างบางส่วนเนื่องจาก lamellae ฟองมันได้ถูกเผยแพร่ไปยัง Matrix Storage extracellular ตามที่แสดงในมะม่วง 6 A และ B . C .