fter the initial sowing into seed b

fter the initial sowing into seed beds, seedlings at 3 days old can be transplanted into pots.[18] Seedlings typically reach 20-25 centimetres tall after 20 weeks in the nursery, at which point they can be planted out into the field; direct sowing is possible, but its viability largely depends on soil moisture and the degree of insect/rodent threats.[19] Preliminary ploughing “contributes to proper establishment of seedlings in the field with a success rate of 82% four years” in some cases after planting. Seeds can be treated with concentrated sulphuric acid “in a concentration of 97% for 10 minutes and then immersed in water for 24 hours to break their dormancy period.”[20]

Seedlings grow comparatively fast – they can reach a height of 1 metre in just 1 year.[21] They will begin to flower at 5–7 years during the dry season in the Sahel (December to April), while occurring slightly earlier in less dry regions.[22] The tree is pollinated primarily by bats, but can also occur by way of “honeybees, flies, wasps, ants, tenerionid beetles and tettigometid bugs.”[23] Fruiting can occur at anywhere from 5–10 years, and they will start to ripen just before the first rains and continue over most of the season.[24]

Foliage of locust bean has been found to contribute to soil fertility improvement. In one experiment, the isolated relative effect of locust bean in the third year of the experiment was 86%, compared to 138% for neem, a related tree.[25] The relative index of soil productivity during this time clearly appreciated for locust bean, as well as the accumulation of P and organic C compared with neem.[26]

Shade tolerance of other crops planted the near locust bean tree may present additional problems. In a 2-year experiment on shading, Parkia biglobosa was “found to have suppressive effects on vegetative growth and yield of pearl millet in both years.”[27] Eggplant yields were also suppressed by trees to between one third and one tenth of the yield in controlled plots, which themselves were damaged by rain.[28] Despite this, chilli pepper yields (which were also affected by rain in the controlled plots) increased by up to 150% under the canopy of the locust bean tree.[29]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แจกหว่านครั้งแรกในเตียงเมล็ดพันธุ์ต้นกล้าที่ 3 วันเก่าสามารถปลูกลงในกระถาง [18] ต้นกล้าโดยทั่วไปถึง 20-25 เซนติเมตรหลังจาก 20 สัปดาห์ที่ผ่านมาในเรือนเพาะชำจุดที่พวกเขาสามารถที่จะปลูกออกไปในสนาม. หยอดเมล็ดโดยตรงเป็นไปได้ แต่การมีชีวิตของมันใหญ่ขึ้นอยู่กับความชื้นของดินและระดับของภัยคุกคามแมลง / หนู. [19] เบื้องต้นไถ "ก่อให้เกิดการจัดตั้งที่เหมาะสมของต้นกล้าในเขตที่มีอัตราความสำเร็จ 82% สี่ปี" ในบางกรณี หลังการปลูก เมล็ดสามารถรักษาได้ด้วยกรดเข้มข้นกำมะถัน [20] "ในความเข้มข้น 97% เป็นเวลา 10 นาทีและจากนั้นแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมงที่จะทำลายระยะเวลาการพักตัวของพวกเขา." ต้นกล้าเจริญเติบโตเปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็ว - พวกเขาสามารถเข้าถึงความสูงไม่เกิน 1 เมตรใน เพียงแค่ 1 ปี. [21] พวกเขาจะเริ่มดอกไม้ที่ 5-7 ปีในช่วงฤดูแล้งในยึดถือ (ธันวาคมเมษายน) ในขณะที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เล็กน้อยในภูมิภาคแห้งน้อย. [22] ต้นไม้เรณูเป็นหลักโดยค้างคาว แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้โดยวิธีการของ "ผึ้งแมลงวันแตน, มด, แมลง tenerionid และข้อบกพร่อง tettigometid." [23] ผลไม้ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ 5-10 ปีและพวกเขาจะเริ่มต้นในการทำให้สุกก่อนฝนแรกและดำเนินการต่อ ส่วนใหญ่ของฤดูกาล. [24] ใบไม้ถั่วตั๊กแตนได้รับพบว่ามีส่วนร่วมในการปรับปรุงอุดมสมบูรณ์ของดิน หนึ่งในการทดสอบผลของญาติที่แยกจากถั่วปาทังกาในปีที่สามของการทดลองเป็น 86% เมื่อเทียบกับ 138% สำหรับสะเดาต้นไม้ที่เกี่ยวข้อง. [25] ดัชนีญาติของผลผลิตของดินในช่วงเวลานี้การชื่นชมอย่างชัดเจนสำหรับถั่วตั๊กแตน เช่นเดียวกับการสะสมของ P และอินทรีย์ C เมื่อเทียบกับสะเดา. [26] ความอดทน Shade of ปลูกพืชอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ต้นไม้ตั๊กแตนถั่วอาจมีปัญหาเพิ่มขึ้นอีก ในการทดลอง 2 ปีในการแรเงาสะตอ biglobosa ถูก "พบว่ามีผลการปราบปรามในการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวฟ่างมุกทั้งปี." [27] อัตราผลตอบแทนมะเขือก็ถูกปราบปรามโดยต้นไม้ระหว่างหนึ่งในสามและเป็นหนึ่งในสิบของ ผลผลิตในแปลงควบคุมที่ตัวเองได้รับความเสียหายจากฝน. [28] อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ผลผลิตพริกพริกไทย (ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากฝนในแปลงควบคุม) เพิ่มขึ้นถึง 150% ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ตั๊กแตนถั่ว. [29 ]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

fter การหว่านเมล็ดพันธุ์ต้นกล้าเริ่มต้นเป็นเตียง , ที่ 3 วัน สามารถปลูกลงกระถาง [ 18 ] ต้นกล้าสูง 20-25 เซนติเมตร โดยทั่วไปถึงหลัง 20 สัปดาห์ในสถานเลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาสามารถปลูกในนา หว่านโดยตรงก็เป็นไปได้ แต่ชีวิตส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความชื้นในดิน และระดับของ แมลง / หนูคุกคาม [ 19 ] เบื้องต้นไถ " จัดสรรที่เหมาะสมการจัดตั้งต้นกล้าในเขตข้อมูลที่มีอัตราความสำเร็จของ 82 ปี " ในบางกรณีหลังจากปลูก เมล็ดสามารถรักษาด้วยกรดเข้มข้นในระดับความเข้มข้น 97 % นาน 10 นาที แล้วแช่ในน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อทำลายระยะพักตัว " [ 20 ]ต้นกล้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเปรียบเทียบพวกเขาสามารถเข้าถึงความสูง 1 เมตรในเวลาเพียง 1 ปี . [ 21 ] พวกเขาจะเริ่มให้ดอกที่ 5 – 7 ปีในฤดูแล้งในซาเฮล ( ธันวาคม - เมษายน ) ในขณะที่เกิดขึ้นเล็กน้อยก่อนหน้านี้ในภูมิภาคแห้งน้อยลง [ 22 ] ต้นไม้พันธุ์เป็นหลัก โดยค้างคาว แต่ยังสามารถเกิดขึ้นโดยวิธีการ " ผึ้ง แมลงวัน แตน มด ด้วงและแมลง tenerionid tettigometid " [ 23 ] ผลสามารถเกิดขึ้นที่ใดก็ได้จาก 5 – 10 ปีและพวกเขาจะเริ่มสุกก่อนฝนตกก่อนและยังคงเหนือที่สุดของฤดูกาล [ 24 ]ตั๊กแตนใบไม้ของถั่วได้รับการพบเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน ในการทดลองแรก แยกสัมพัทธ์ผลของ Locust Bean ในปีที่สามของการทดลอง 86% เมื่อเทียบกับ 138 , สะเดา , เกี่ยวข้องกับต้นไม้ [ 25 ] เทียบกับดัชนีผลิตภาพของดินในช่วงเวลานี้ชัดเจนชื่นชมปาทังกาถั่ว ตลอดจนการสะสมของอินทรีย์ฟอสฟอรัสและ C เมื่อเทียบกับสะเดา [ 26 ]เงาความอดทนของพืชอื่นปลูกใกล้โลคัสต้นไม้ถั่วอาจเสนอปัญหาเพิ่มเติม ในการทดลองน้อยแรเงา , กะลาปาล์ม biglobosa " พบว่าได้ผลปราบปรามในการเจริญเติบโตทางลำต้นและผลผลิตของหญ้าไข่มุกทั้ง 2 ปี มะเขือ " [ 27 ] ผลผลิตยังปราบโดยต้นไม้ระหว่างหนึ่งในสามและหนึ่งในสิบของผลผลิตในแปลงควบคุม ซึ่งตนเองได้รับความเสียหายจากฝน [ 28 ] แม้ นี้ผลผลิตพริก ( ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากพายุฝนในแปลงควบคุม ) ที่เพิ่มขึ้นถึง 150% ใต้หลังคาของปาทังกาถั่วต้นไม้ [ 29 ]