3.4.1 EnronThe primary catalyst of

3.4.1 Enron
The primary catalyst of the Sarbanes-Oxley legislation was the collapse of Enron. For the
unaffected observer, the story is fascinating. Until 2001, US energy trader Enron was one of
the largest companies in the world. A BBC bulletin dated 8 July 2004 and entitled “Q&A, the
Enron Collapse” succinctly summarises its evolution and the nature of its business:
Enron began life as an energy producer, moved to become an energy trader, and ended up an energy
“bank” providing guaranteed quantities at set prices over the long term. Enron owned power plants,
water companies, gas distributors and other units involved in the delivery of services to consumers
and businesses. But it was the first to realise energy and water could be bought, sold, and hedged
just like shares and bonds. Enron became a huge “market-maker” in the US, acting as the main
broker in energy products, also taking financial gambles far bigger than its actual core business.
The beginning of Enron’s demise can be traced to an announcement in October 2001 which
stated that it was taking a $544 million charge to its reported earnings, after tax, in respect
of transactions with an off-balance sheet entity owned by Enron, but created and controlled
by its chief financial officer (CFO). Hence, to disguise its true balance sheets, the firm had
used complex financial partnerships to conceal mounting debts. In addition, shareholders’
equity was being reduced by $1.2 billion. Less than a month later, the company announced
that it was restating its accounts for the years 1997–2001 because of accounting errors in
relation to off-balance sheet entities controlled by the CFO and other senior managers. The
restatements involved reductions of between 10% and 28% in reported net income in each
of the years affected, with substantial reductions in shareholders’ equity and increases in
reported levels of indebtedness. The company also revealed for the first time that the CFO
had received personal payments from off-balance entities that he controlled. Following these
announcements, investor confidence in Enron’s ability to recover its position collapsed and
the company filed for bankruptcy protection in December 2001.
The fallout from Enron’s failure was considerable. Enron left behind $15 billion of debts,
its shares become worthless and 20 000 workers around the world lost their jobs. Many banks
were exposed to the firm as a result of lending money to and trading with it. JP Morgan
admitted to $900 million of exposure, and Citigroup to nearly $800 million. Former highprofile
bankers Merrill Lynch were charged with fraud in connection with Enron transactions.
Consultants Andersen, which failed to audit Enron accounts correctly, collapsed with the loss
of 7500 jobs in the US and 1500 in the UK.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.4.1 Enronการล่มสลายของ Enron catalyst หลักของกฎหมาย Sarbanes-อ็อกซ์เลย์ได้ สำหรับการแหล่งเก็บข้อมูล เรื่องราวได้น่าสนใจ จนกระทั่งปีค.ศ. 2001 ผู้ประกอบการพลังงานสหรัฐฯ Enron เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข่าว BBC ลงวันที่ 8 2547 กรกฎาคม และได้รับ " Q & A การEnron ยุบ" succinctly summarises ของวิวัฒนาการและธรรมชาติของธุรกิจ:Enron เริ่มชีวิตเป็นผลิตเป็นพลังงาน ย้ายไปเป็น ผู้มีพลังงาน และสิ้นสุดการพลังงาน"ธนาคาร" ให้รับประกันปริมาณที่ราคาที่กำหนดไว้ในระยะยาว Enron เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าบริษัทน้ำ จำหน่ายก๊าซ และหน่วยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการส่งมอบบริการให้กับผู้บริโภคและธุรกิจ แต่มันเป็นคนแรกที่ตระหนักถึงพลังงานและน้ำสามารถจะซื้อ ขาย และ hedgedเหมือนหุ้น และขายหุ้นกู้ Enron เป็น การใหญ่ "ตลาด-maker" ในสหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่เป็นหลักนายหน้าซื้อขายในผลิตภัณฑ์พลังงาน ยัง มีเงิน gambles ไกลใหญ่กว่าธุรกิจหลักที่แท้จริงจุดเริ่มต้นของลูกของ Enron สามารถติดตามการประกาศในเดือน 2544 ตุลาคมซึ่งระบุว่า มันคือการประจุ 544 ล้านเหรียญกำไรของรายงาน หลังภาษี ประการธุรกรรมที่มีการปิดดุล เอนทิตีของ Enron แต่สร้าง และควบคุมโดยเป็นหัวหน้าการเงิน (cfo) ดังนั้น การปลอมตัวของดุลจริง บริษัทมีใช้ความร่วมมือทางการเงินที่ซับซ้อนจะติดหนี้ นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นของequity was being reduced by $1.2 billion. Less than a month later, the company announcedthat it was restating its accounts for the years 1997–2001 because of accounting errors inrelation to off-balance sheet entities controlled by the CFO and other senior managers. Therestatements involved reductions of between 10% and 28% in reported net income in eachof the years affected, with substantial reductions in shareholders’ equity and increases inreported levels of indebtedness. The company also revealed for the first time that the CFOhad received personal payments from off-balance entities that he controlled. Following theseannouncements, investor confidence in Enron’s ability to recover its position collapsed andthe company filed for bankruptcy protection in December 2001.The fallout from Enron’s failure was considerable. Enron left behind $15 billion of debts,its shares become worthless and 20 000 workers around the world lost their jobs. Many bankswere exposed to the firm as a result of lending money to and trading with it. JP Morganadmitted to $900 million of exposure, and Citigroup to nearly $800 million. Former highprofilebankers Merrill Lynch were charged with fraud in connection with Enron transactions.Consultants Andersen, which failed to audit Enron accounts correctly, collapsed with the lossof 7500 jobs in the US and 1500 in the UK.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.4.1 Enron
ตัวเร่งปฏิกิริยาหลักของกฎหมาย Sarbanes-Oxley คือการล่มสลายของ Enron
สำหรับผู้สังเกตการณ์ได้รับผลกระทบเรื่องเป็นที่น่าสนใจ จนกว่าจะถึงปี 2001 ผู้ประกอบการพลังงานของสหรัฐฯ Enron เป็นหนึ่งใน
บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข่าวบีบีซีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2004 และมีสิทธิ "Q & A ที่
Enron ยุบ" ชัดถ้อยชัดคำสรุปวิวัฒนาการและธรรมชาติของธุรกิจ:
Enron เริ่มชีวิตในฐานะผู้ผลิตพลังงานย้ายไปเป็นผู้ประกอบการพลังงานและจบลงด้วยพลังงาน
"ธนาคาร" ให้ปริมาณรับประกันในราคาชุดในระยะยาว Enron เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า
บริษัท น้ำ,
ผู้จัดจำหน่ายก๊าซและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการส่งมอบบริการให้กับผู้บริโภคและธุรกิจ
แต่มันเป็นครั้งแรกที่จะตระหนักถึงการใช้พลังงานและน้ำอาจจะมีการซื้อขายและการป้องกันความเสี่ยงเช่นเดียวกับหุ้นและพันธบัตร Enron กลายเป็นใหญ่ "ตลาดชง"
ในสหรัฐอเมริกาที่ทำหน้าที่เป็นหลักนายหน้าในผลิตภัณฑ์พลังงานยังมีการแทงการเงินไกลขนาดใหญ่กว่าธุรกิจหลักที่แท้จริงของมัน.
จุดเริ่มต้นของการตาย Enron ที่สามารถโยงไปถึงการประกาศในตุลาคม 2001
ซึ่งระบุไว้ว่ามันเป็นการ $ 544,000,000
ค่าใช้จ่ายในการทำกำไรของรายงานหลังหักภาษีในส่วนของการทำธุรกรรมที่มีการออกสมดุลแผ่นนิติบุคคลเป็นเจ้าของโดยEnron
แต่การสร้างและควบคุมโดยเจ้าหน้าที่การเงินของหัวหน้า(CFO) ดังนั้นการที่จะปกปิดงบดุลที่แท้จริงของ บริษัท
ได้ใช้ความร่วมมือทางการเงินที่ซับซ้อนเพื่อปกปิดหนี้การติดตั้ง นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นผู้ถือหุ้นที่ถูกลดลง $ 1200000000
น้อยกว่าหนึ่งเดือนต่อมา บริษัท
ประกาศว่ามันเป็นบัญชีงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับปี1997-2001
เนื่องจากข้อผิดพลาดทางบัญชีในความสัมพันธ์กับหน่วยงานนอกงบดุลควบคุมโดยซีอีโอและผู้บริหารระดับสูงอื่นๆ
restatements ที่เกี่ยวข้องกับการลดลงระหว่าง 10% และ 28% ในรายงานกำไรสุทธิในแต่ละปีได้รับผลกระทบกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในส่วนของผู้ถือหุ้นและการเพิ่มขึ้นของระดับรายงานภาระหนี้ นอกจากนี้ บริษัท ยังเปิดเผยเป็นครั้งแรกที่ซีอีโอได้รับการชำระเงินส่วนบุคคลจากหน่วยงานที่ออกสมดุลที่เขาควบคุม ดังต่อไปนี้ประกาศความเชื่อมั่นของนักลงทุนในความสามารถของ Enron ในการกู้คืนตำแหน่งยุบและ บริษัท ที่ยื่นเพื่อป้องกันการล้มละลายในเดือนธันวาคมปี 2001 ผลกระทบจากความล้มเหลว Enron เป็นอย่างมาก Enron ทิ้ง $ 15000000000 หนี้หุ้นกลายเป็นไร้ค่าและ20 000 คนทั่วโลกตกงาน ธนาคารหลายแห่งได้สัมผัสกับ บริษัท ที่เป็นผลมาจากการให้กู้ยืมเงินเพื่อการซื้อขายและกับมัน JP Morgan เข้ารับการรักษา $ 900,000,000 ของการเปิดรับและซิตี้กรุ๊ปเกือบ $ 800,000,000 อดีต highprofile ธนาคาร Merrill Lynch ถูกเรียกเก็บเงินกับการทุจริตในการเชื่อมต่อกับการทำธุรกรรม Enron. ที่ปรึกษาเซนซึ่งล้มเหลวในการตรวจสอบบัญชี Enron อย่างถูกต้องทรุดตัวลงกับการสูญเสียของงาน7500 ในสหรัฐอเมริกาและ 1500 ในสหราชอาณาจักร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.4.1 รอน
ตัวเร่งปฏิกิริยาหลักของกฎหมายซาร์เบนส์ Oxley คือยุบชท . สำหรับ
สังเกตการณ์ผลกระทบ , เรื่องราวที่น่าสนใจ จนกระทั่ง 2001 เราพลังงานผู้ประกอบการรอนเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก
. บีบีซีประกาศลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2547 เรื่อง " Q & , ยุบ " ชท summarises
ชัดเจนถึงวิวัฒนาการและลักษณะของธุรกิจ :
รอนเริ่มชีวิตในฐานะผู้ผลิตพลังงาน ย้ายไปเป็นผู้ค้าพลังงาน แล้วพลังงาน
" ธนาคาร " ให้รับประกันปริมาณที่กำหนดราคาในระยะยาว รอนเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า
บริษัทน้ำก๊าซ หน่าย และหน่วยอื่น ๆที่เกี่ยวข้องในการส่งมอบบริการเพื่อธุรกิจและผู้บริโภค
. แต่มันเป็นครั้งแรกที่จะได้น้ำ และพลังงานสามารถซื้อ , ขาย , และ 3
เหมือน พันธบัตร หุ้น และ รอนกลายเป็นขนาดใหญ่ " ผู้ผลิตในตลาด " ในสหรัฐฯ ทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลัก
ในผลิตภัณฑ์พลังงาน นอกจากนี้ การพนันทางการเงินที่ใหญ่กว่าที่ธุรกิจหลักของตนจริง
จุดเริ่มต้นของ Enron การตายของสามารถติดตามประกาศในเดือนตุลาคมปี 2001 ซึ่ง
กล่าวว่ามันกำลังชาร์จ $ 544 ล้านของ รายงานกำไรหลังจากหักภาษีในส่วน
, ,รายการที่มีการปิดยอดแผ่นนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของโดยรอน แต่สร้างขึ้นและควบคุมโดยเจ้าหน้าที่การเงินของหัวหน้า
( CFO ) ดังนั้น เพื่อปิดบังความจริงงบดุล บริษัทได้
ใช้ความร่วมมือทางการเงินที่ซับซ้อนเพื่อปกปิดหนี้สินที่ติดตั้ง นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้น
หุ้นถูกลดลงโดย $ 1.2 พันล้าน น้อยกว่าหนึ่งเดือนต่อมา บริษัทประกาศ
นั่นมันที่ของบัญชีสำหรับปี 1997 – 2001 เนื่องจากข้อผิดพลาดทางบัญชีในงบดุล
กับปิดหน่วยงานที่ควบคุมโดย CFO และผู้จัดการอาวุโสอื่น ๆ
restatements เกี่ยวข้อง ( ระหว่าง 10% และ 28% ในรายงานรายได้สุทธิในแต่ละ
ของปีได้รับผลกระทบ กับลดลงอย่างมากในส่วนของผู้ถือหุ้น และเพิ่มขึ้นในระดับของ
รายงานการ .บริษัทยังได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า CFO
ได้รับเงินส่วนตัวจากปิดยอดหน่วยงานที่เขาควบคุม ต่อไปนี้การประกาศเหล่านี้
, ความเชื่อมั่นในความสามารถของ Enron เพื่อกู้คืนตำแหน่งที่ยุบและ
บริษัทยื่นเพื่อป้องกันการล้มละลายในธันวาคม 2001
ผลกระทบจากความล้มเหลวของ Enron เป็นจํานวนมาก เอนไปข้างหลัง $ 15 พันล้านหนี้
หุ้นที่ไร้ค่าและ 20 , 000 คนงานทั่วโลกสูญเสียงานของพวกเขา หลายธนาคาร
เปิดรับ บริษัท เป็นผลมาจากเงิน และ การซื้อขายกับมัน เจพีมอร์แกน
รับ $ 900 ล้าน ของ แสง และ ซิตี้ กรุ๊ป เกือบ $ 800 ล้าน อดีตไฮท์โพรไฟล์
นายธนาคาร Merrill Lynch ถูกตั้งข้อหาในการเชื่อมต่อกับ Enron
ที่ปรึกษาของไทยรายการซึ่งล้มเหลวในการตรวจสอบบัญชีของ Enron อย่างถูกต้อง หมดสติกับการสูญเสีย
7500 งานในสหรัฐอเมริกา และ 1 , 500 ใน UK .