The MACD is usually drawn as two li

The MACD is usually drawn as two lines and a histogram below the graph as seen in Figure 3.1. These are used by traders to predict buy and sell signals. The blue line represents the MACD line, and when this crosses the zero mark or the signal line (indicated in red), a buy/sell signal is given. Again, as seen in Figure 3.1, when the MACD line crosses to above the signal line, the stock tends to increase, so the signal is to buy. Likewise, when the MACD line falls below the signal line, a trader should likely sell the stock [4]. The MACD line can also indicate trends. When the MACD line crosses above the center zero line, this indicates an uptrend, and similarly, a downtrend is when the MACD line crosses below the center line [4]. The signal line can tend to generate many false signals in short-term trading, and the MACD line is used more by traders to determine when a stock is trending [4]. Calculating the MACD line is an important tool in countertrend trading because it predicts that a change is about to happen, which allows traders to more accurately guess the lows and highs of a trending stock [4].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

macd จะวาดมักจะเป็นสองเส้นและกราฟด้านล่างกราฟเท่าที่เห็นในรูปที่ 3.1 เหล่านี้จะใช้โดยผู้ค้าที่จะคาดการณ์สัญญาณซื้อและขาย เส้นสีฟ้าแสดงให้เห็นถึงเส้น macd และเมื่อข้ามเครื่องหมายศูนย์หรือสายสัญญาณ (ที่ระบุไว้ในสีแดง) สัญญาณซื้อ / ขายจะได้รับ อีกครั้งตามที่เห็นในรูปที่ 3.1 เมื่อสาย macd ข้ามไปเหนือเส้นสัญญาณหุ้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นดังนั้นสัญญาณที่จะซื้อ เช่นเดียวกันเมื่อสาย macd ต่ำกว่าสายสัญญาณที่ผู้ประกอบการควรมีโอกาส [4] ขายหุ้น เส้น macd ยังสามารถบ่งบอกถึงแนวโน้ม เมื่อสาย macd ข้ามเหนือเส้นศูนย์ศูนย์นี้บ่งชี้ว่าขาขึ้นและในทำนองเดียวกันแนวโน้มขาลงคือเมื่อเส้น macd ข้ามเส้นศูนย์ [4]สายสัญญาณสามารถมีแนวโน้มที่จะสร้างสัญญาณที่ผิดพลาดจำนวนมากในการซื้อขายระยะสั้นและสาย macd ที่มีการใช้มากขึ้นโดยผู้ค้าเพื่อตรวจสอบเมื่อหุ้นมีแนวโน้ม [4] การคำนวณเส้น macd เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการซื้อขาย countertrend เพราะคาดว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่จะเกิดขึ้นซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการค้าที่จะคาดเดาได้ถูกต้องมากขึ้นต่ำและเสียงสูงของหุ้นแนวโน้ม [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

MACD มักวาดเป็นสองบรรทัดและฮิสโตแกรมด้านล่างที่เห็นในรูปที่ 3.1 กราฟ เหล่านี้จะใช้ โดยผู้ค้าเพื่อทำนายซื้อ และสัญญาณขาย เส้นสีน้ำเงินแสดงถึงเส้น MACD และเมื่อนี้ข้ามหมายศูนย์หรือเส้นสัญญาณ (ระบุสีแดง), สัญญาณซื้อหรือขายของได้ อีกครั้ง ตามที่เห็นในรูป 3.1 เมื่อเส้น MACD ตัดไปเหนือเส้นสัญญาณ หุ้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นสัญญาณให้ ซื้อ ในทำนองเดียวกัน เมื่อเส้น MACD อยู่ต่ำกว่าเส้นสัญญาณ ผู้ประกอบการควรมีแนวโน้มขายหุ้น [4] เส้น MACD ยังสามารถระบุแนวโน้ม เมื่อเส้น MACD ตัดเหนือเส้นศูนย์ศูนย์ ก่อนบ่งชี้ และในทำนองเดียวกัน downtrend เป็นคือเมื่อเส้น MACD ตัดด้านล่างบรรทัดศูนย์ [4] เส้นสัญญาณสามารถมักจะ สร้างสัญญาณเท็จจำนวนมากในการซื้อขายระยะสั้น และเส้น MACD ถูกใช้มากขึ้น โดยผู้ค้าเพื่อกำหนดว่าเมื่อคลัง trending [4] คำนวณ MACD บรรทัดนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขาย countertrend เนื่องจากทำนายว่า การเปลี่ยนแปลงกำลังจะ เกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ค้าแม่นยำเดาแนวและหน้าของหุ้น trending [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

macd จะมาเป็นสองสายและฮิสโตแกรมที่ด้านล่างของกราฟที่ดังที่เห็นในรูปที่ 3.1 โดยปกติแล้ว เหล่านี้จะใช้งานโดยผู้ประกอบการในการทำนายซื้อและขายสัญญาณ เส้นทางสายสีฟ้าที่เป็นสาย macd และเมื่อรายการนี้ข้ามผ่านศูนย์ทำเครื่องหมายหรือสายสัญญาณ(แสดงเป็นสีแดง)ซื้อ/ขายสัญญาณให้ อีกครั้งดังที่เห็นในรูปที่ 3.1 เมื่อสาย macd ข้ามผ่านไปยังสายสัญญาณหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นดังนั้นจึงส่งสัญญาณนั้นคือการซื้อ ในทำนองเดียวกันเมื่อสาย macd ที่อยู่ด้านล่างบรรทัดสัญญาณที่เจ้าของห้องที่จะขายหุ้นที่[ 4 ]มีแนวโน้ม สาย macd ที่สามารถแสดงแนวโน้มยัง เมื่อสาย macd ข้ามผ่านเหนือศูนย์กลางที่ศูนย์สายนี้จะแสดงสูงขึ้นตามและในทำนองเดียวกันอย่างไรก็ดีทิศทางที่มีเมื่อสาย macd ข้ามผ่านด้านล่างบรรทัดศูนย์กลาง[ 4 ]สายสัญญาณที่สามารถมีแนวโน้มที่จะสร้างสัญญาณผิดพลาดจำนวนมากในการซื้อขายระยะสั้นและสาย macd ที่ถูกใช้งานมากขึ้นโดยผู้ประกอบการในการกำหนดว่าเมื่อใดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแนวโน้ม[ 4 ] การคำนวณเส้นทางสาย macd ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขาย countertrend เพราะมันคาดว่าที่มีการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งช่วยให้ผู้ค้าในการเดาได้ว่าตลาดต่างจังหวัดและขยับขึ้นเพราะต้องรอให้มีแนวโน้มที่[ 4 ]ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น