กลุ่มจิตวิทยากลุ่มนี้เน้นความสำคัญของ

กลุ่มจิตวิทยากลุ่มนี้เน้นความสำคัญข

กลุ่มจิตวิทยากลุ่มนี้เน้นความสำคัญของ "จิตไร้สำนึก" (uncoscious mind) ว่ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรม
กลุ่มนี้จัดเป็นกลุ่ม "พลังที่หนึ่ง" (The first force) ที่แหวกวงล้อมจากจิตวิทยายุคเดิม นักจิตวิทยาใน
กลุ่มจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ได้แก่ ฟรอยด์ (Sigmund Freud, 1856-1939)
และส่วนใหญ่แนวคิดในกลุ่มจิตวิเคราะห์นี้เป็นของฟรอยด์ซึ่งเป็นจิตแพทย์ ชาวออสเตรีย เขาอธิบายว่า
จิตของคนเรามี 3 ส่วน คือ จิตสำนึก (conscious mind) จิตกึ่งรู้สำนึก (preconscious mind) และ
จิตไร้สำนึก (unconscious mind) ซึ่งมีลักษณะดังนี้ จิตสำนึก เป็นสภาพที่รู้ตัวว่าคือใคร อยู่ที่ไหน
ต้องการอะไร หรือกำลังรู้สึกอย่างไรต่อสิ่งใด เมื่อแสดงพฤติกรรมอะไรออกไปก็ แสดงออกไปตาม
หลักเหตุและผล แสดงตาม แรงผลักดันจากภายนอก สอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง (principle of reality)
จิตกึ่งรู้สำนึก เป็นจิตที่เก็บสะสมข้อมูลประสบการณ์ไว้มากมาย มิได้รู้ตัวในขณะนั้น แต่พร้อมให้ดึงออกมาใช้
พร้อมเข้ามา อยู่ในระดับจิตสำนึก เดินสวนกับคนรู้จัก เดินผ่านเลยมาแล้วนึกขึ้นได้รีบกลับไปทักทายใหม่
เป็นต้น และอาจถือได้ว่าประสบการณืต่างๆ ที่เก็บไว้ในรูปของความจำก็เป็นส่วนของจิตกึ่งรู้สำนึกด้วย
เช่น ความขมขื่นในอดีต ถ้าไม่คิดถึงก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้านั่ง ทบทวนเหตุการณ์ทีไรก็ทำให้เศร้าได้ทุกครั้งเป็นต้น
จิตไร้สำนึก เป็นส่วนของพฤติกรรมภายในที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลย อาจเนื่องมาจากเจ้าตัวพยายามเก็บกดไว้
เช่น อิจฉาน้อง เกลียดแม่ อยากทำร้ายพ่อ ซึ่งเป็นความต้องการที่สังคมไม่ยอมรับ หากแสดงออกไปมักถูกลงโทษ
ดังนั้นจึงต้องเก็บกดไว้ หรือ พยายามที่จะลืม ในที่สุดดูเหมือนลืมได้ แต่ที่จริงไม่ได้หายไปไหนยัมีอยู่ในสภาพ
จิตไร้สำนึก จิตไร้สำนึกยังอาจเป็นเรื่องของอิด (id) ซึ่งมีอยู่ในตัวเรา เป็นพลังที่ผลักดันให้เราแสดงพฤติกรรม
ตามหลักแห่งความพอใจ (principle of plessure) แต่สิ่งนั้นถูกกดหรือ ข่มไว้จนถอยร่นไปอยู่ในสภาพที่เราไม่รู้ตัว
ส่วนของ
จิตไร้สำนึกจะแสดงออกมาในรูปของความฝัน การละเมอ การพลั้งปากพูด การแสดงออกทางด้าน
จินตนาการ วรรณคดี ศิลป ผลงานด้านวิทยาศาสตร์ การกระทำที่ผิดปกติต่างๆ แม้กระทั่งการระเบิดอารมณ์
์ รุนแรงเกินเหตุ บางครั้งก็เป็นเพราะจิตไร้สำนึกที่เก็บกดไว้ ฟรอยด์มีความเชื่อว่า จิตไร้สำนึกมีอิทธิพลและ
มีบทบาทสำคัญต่อ บุคลิกภาพและการแสดงพฤติกรรมของมนุษย์มากที่สุด ทั้งยังเชื่อว่าความก้าวร้าวและ
ความต้องการทางเพศเป็นแรงผลักดัน ที่ สำคัญ ต่อพฤติกรรม นอกจากจิตสำนึก จิตกึ่งรู้สึกนึก และจิตไร้สำนึก
ฟรอยด์ได้แบ่งองค์ประกอบของพลังจิต (psychic energy) เป็น 3 ส่วน คือ id, ego และ super ego
ซึ่งเป็นแรงขับให้กระทำพฤติกรรมต่างๆดังนี้
อิด (id) เป็นส่วนที่ติดตัวมาโดยกำเนิด จัดเป็นเรื่องของแรงขับตามสัญชาตญาณ ความอยาก ตัณหา เป็นส่วนของจิตที่กระตุ้น
ให้บุคคลแสดงพฤติกรรมตามหลักแห่งความพอใจ ถ้าบุคคลใดแสดงพฤติกรรมตาม id นั่นคือ พฤติกรรมนั้น เป็นไปเพื่อสนอง
ความต้องการของตนเองเป็นส่วนใหญ่
อีโก้ (ego) เป็นพลังส่วนที่ผ่านกระบวนการเรียนรู้มาแล้ว เป็นส่วนที่ควบคุมการแสดงพฤติกรรมของคนๆ นั้นให้ดำเนินไปอย่าง เหมาะสม
ทั้งภายใต้อิทธิพลของอิดและซุปเปอร์อีโก้ พยายามแก้ไขข้อขัดแย้งต่างๆ ของอิดและซุปเปอร์อีโก้ จนในที่สุดบางคนจะ ทุกข์ร้อน
วิตก กระวน กระวาย จนอาจถึงขั้นโรคจิตประสาท ถ้าความขัดแย้งดังกล่าวมีมาก วิธีหนึ่งที่เป็นทางออกของอีโก้ก็คือ
ปรับตนโดยการใช้กลไกการป้องกันตัว (defense mechsnism) ซึ่งหมายถึงการที่บุคคลพยายามแก้ไขความคับข้องใจของตนเอง
โดยที่มิได้จงใจ เป็นไปเพื่อรักษาหน้าและศักดิ์ศรี
ซุปเปอร์อีโก้ (super ego) เป็นพลังจากสังคมที่เกี่ยวกับหลักศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม อุดมคติในการดำเนินชีวิต
เป็นพลัง ส่วนที่ควบคุมให้บุคคลแสดงพฤติกรรมโดยสอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง (principle of reality)
เช่น บัญชาให้คนๆ นั้น เลือกกลไกการป้องกันตัวที่เหมาะสมมาใช้
แนวคิดของฟรอยด์ส่วนใหญ่ได้มาจากการศึกษาคนปกติ เนื่องจากเขาเป็นจิตแพทย์ จึงมุ่งศึกษาสาเหตุความแปรปรวน
ทางแก้ ไขให้คืนดี แนวคิดของกลุ่มจิตวิเคราะห์นี้ช่วยให้เห็นความผิดปกติของพฤติกรรม เข้าใจ ผู้มีปัญหา และเป็นแนวทาง
ในการบำบัด รักษาความผิดปกติ และอาจจะเป็นแนวคิดแก่บุคคลทั่วไปในการระแวดระวัง ตัวเอง มิให้ตกเป็นทาสของ
จิตหรือความคิด ที่หมกมุ่น จนอาจส่งผลต่อความผิดปกติที่มากจนถึงขั้นอาการทางจิตประสาท
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
กลุ่มจิตวิทยากลุ่มนี้เน้นความสำคัญของ "จิตไร้สำนึก" (uncoscious ใจ) ว่ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรม กลุ่มนี้จัดเป็นกลุ่ม "พลังที่หนึ่ง" (กองแรก) ที่แหวกวงล้อมจากจิตวิทยายุคเดิมนักจิตวิทยาในกลุ่มจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไปได้แก่ฟรอยด์ (Sigmund Freud, 1856-1939) และส่วนใหญ่แนวคิดในกลุ่มจิตวิเคราะห์นี้เป็นของฟรอยด์ซึ่งเป็นจิตแพทย์ชาวออสเตรียเขาอธิบายว่า จิตของคนเรามี 3 ส่วนคือจิตสำนึก (ใส่ใจ) จิตกึ่งรู้สำนึก (preconscious ใจ) และ จิตไร้สำนึก (สติใจ) ซึ่งมีลักษณะดังนี้จิตสำนึกเป็นสภาพที่รู้ตัวว่าคือใครอยู่ที่ไหน ต้องการอะไรหรือกำลังรู้สึกอย่างไรต่อสิ่งใดเมื่อแสดงพฤติกรรมอะไรออกไปก็แสดงออกไปตามหลักเหตุและผลแสดงตามแรงผลักดันจากภายนอกสอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง (หลักของความเป็นจริง)จิตกึ่งรู้สำนึกเป็นจิตที่เก็บสะสมข้อมูลประสบการณ์ไว้มากมายมิได้รู้ตัวในขณะนั้นแต่พร้อมให้ดึงออกมาใช้ พร้อมเข้ามาอยู่ในระดับจิตสำนึกเดินสวนกับคนรู้จักเดินผ่านเลยมาแล้วนึกขึ้นได้รีบกลับไปทักทายใหม่ เป็นต้นและอาจถือได้ว่าประสบการณืต่าง ๆ ที่เก็บไว้ในรูปของความจำก็เป็นส่วนของจิตกึ่งรู้สำนึกด้วย เช่นความขมขื่นในอดีตถ้าไม่คิดถึงก็ไม่รู้สึกอะไรแต่ถ้านั่งทบทวนเหตุการณ์ทีไรก็ทำให้เศร้าได้ทุกครั้งเป็นต้นจิตไร้สำนึกเป็นส่วนของพฤติกรรมภายในที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยอาจเนื่องมาจากเจ้าตัวพยายามเก็บกดไว้ เช่นอิจฉาน้องเกลียดแม่อยากทำร้ายพ่อซึ่งเป็นความต้องการที่สังคมไม่ยอมรับหากแสดงออกไปมักถูกลงโทษดังนั้นจึงต้องเก็บกดไว้หรือพยายามที่จะลืมในที่สุดดูเหมือนลืมได้แต่ที่จริงไม่ได้หายไปไหนยัมีอยู่ในสภาพเป็นพลังที่ผลักดันให้เราแสดงพฤติกรรมซึ่งมีอยู่ในตัวเราจิตไร้สำนึกยังอาจเป็นเรื่องของอิด (id) จิตไร้สำนึกตามหลักแห่งความพอใจ (หลักการของ plessure) แต่สิ่งนั้นถูกกดหรือข่มไว้จนถอยร่นไปอยู่ในสภาพที่เราไม่รู้ตัวส่วนของ จิตไร้สำนึกจะแสดงออกมาในรูปของความฝันการละเมอการพลั้งปากพูดการแสดงออกทางด้านจินตนาการวรรณคดีศิลปผลงานด้านวิทยาศาสตร์การกระทำที่ผิดปกติต่าง ๆ แม้กระทั่งการระเบิดอารมณ์โทรศัพท์รุนแรงเกินเหตุบางครั้งก็เป็นเพราะจิตไร้สำนึกที่เก็บกดไว้ฟรอยด์มีความเชื่อว่าจิตไร้สำนึกมีอิทธิพลและมีบทบาทสำคัญต่อบุคลิกภาพและการแสดงพฤติกรรมของมนุษย์มากที่สุดทั้งยังเชื่อว่าความก้าวร้าวและความต้องการทางเพศเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อพฤติกรรมนอกจากจิตสำนึกจิตกึ่งรู้สึกนึกและจิตไร้สำนึกฟรอยด์ได้แบ่งองค์ประกอบของพลังจิต (psychic พลังงาน) เป็น 3 ส่วนคือ id อาตมาและอาตมาซูเปอร์ ซึ่งเป็นแรงขับให้กระทำพฤติกรรมต่างๆดังนี้ อิด (id) เป็นส่วนที่ติดตัวมาโดยกำเนิดจัดเป็นเรื่องของแรงขับตามสัญชาตญาณความอยากเป็นส่วนของจิตที่กระตุ้นตัณหาให้บุคคลแสดงพฤติกรรมตามหลักแห่งความพอใจถ้าบุคคลใดแสดงพฤติกรรมตามรหัสนั่นคือพฤติกรรมนั้นเป็นไปเพื่อสนองความต้องการของตนเองเป็นส่วนใหญ่ อีโก้ (อาตมา) เป็นพลังส่วนที่ผ่านกระบวนการเรียนรู้มาแล้วเป็นส่วนที่ควบคุมการแสดงพฤติกรรมของคน ๆ นั้นให้ดำเนินไปอย่างเหมาะสมทั้งภายใต้อิทธิพลของอิดและซุปเปอร์อีโก้พยายามแก้ไขข้อขัดแย้งต่าง ๆ ของอิดและซุปเปอร์อีโก้จนในที่สุดบางคนจะทุกข์ร้อนวิตกกระวนกระวายจนอาจถึงขั้นโรคจิตประสาทถ้าความขัดแย้งดังกล่าวมีมากวิธีหนึ่งที่เป็นทางออกของอีโก้ก็คือ ซึ่งหมายถึงการที่บุคคลพยายามแก้ไขความคับข้องใจของตนเองปรับตนโดยการใช้กลไกการป้องกันตัว (ป้องกัน mechsnism)โดยที่มิได้จงใจเป็นไปเพื่อรักษาหน้าและศักดิ์ศรี ซุปเปอร์อีโก้ (ซุปเปอร์อาตมา) เป็นพลังจากสังคมที่เกี่ยวกับหลักศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรมอุดมคติในการดำเนินชีวิตเป็นพลังส่วนที่ควบคุมให้บุคคลแสดงพฤติกรรมโดยสอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง (หลักของความเป็นจริง) เช่นบัญชาให้คน ๆ นั้นเลือกกลไกการป้องกันตัวที่เหมาะสมมาใช้ แนวคิดของฟรอยด์ส่วนใหญ่ได้มาจากการศึกษาคนปกติเนื่องจากเขาเป็นจิตแพทย์จึงมุ่งศึกษาสาเหตุความแปรปรวนทางแก้ไขให้คืนดีแนวคิดของกลุ่มจิตวิเคราะห์นี้ช่วยให้เห็นความผิดปกติของพฤติกรรมเข้าใจผู้มีปัญหาและเป็นแนวทางในการบำบัดรักษาความผิดปกติและอาจจะเป็นแนวคิดแก่บุคคลทั่วไปในการระแวดระวังตัวเองมิให้ตกเป็นทาสของจิตหรือความคิดที่หมกมุ่นจนอาจส่งผลต่อความผิดปกติที่มากจนถึงขั้นอาการทางจิตประสาท
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
"จิตไร้สำนึก" (ใจ uncoscious)
"พลังที่หนึ่ง" (มีผลบังคับใช้เป็นครั้งแรก) ที่แหวกวงล้อมจากจิตวิทยายุคเดิม
ได้แก่ ฟรอยด์ (Sigmund Freud,
ชาวออสเตรียเขาอธิบายว่าได้
จิตของคนเรามี 3 ส่วนคือจิตสำนึก (จิตสำนึก) จิตกึ่งรู้สำนึก (ใจ preconscious) และ
จิตไร้สำนึก (จิตไร้สำนึก) ซึ่งมีลักษณะดังนี้จิตสำนึกเป็นสภาพที่รู้ตัวว่าได้คือใครอยู่ที่ไหน
ต้องการอะไรหรือกำลัง รู้สึกอย่างไรต่อสิ่งใดเมื่อแสดงพฤติกรรมอะไรออกไปก็แสดงออกไปตาม
หลักเหตุและผลแสดงตามแรงผลักดันจากภายนอกสอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง (หลักการของความเป็นจริง)
จิตกึ่งรู้สำนึก มิได้รู้ตัวในขณะนั้น แต่พร้อมให้ดึงออกมาใช้
พร้อมเข้ามาอยู่ในระดับจิตสำนึกเดินสวนกับคนรู้จัก
และอาจถือได้ว่าประสบการณืต่างๆ
ความขมขื่นในอดีตถ้าไม่คิดถึงก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้านั่ง อิจฉาน้องเกลียดแม่อยากทำร้ายพ่อ หรือพยายามที่จะลืมในที่สุดดูเหมือนลืมได้ จิตไร้สำนึกยังอาจเป็นเรื่องของอิด (ID) ซึ่งมีอยู่ในตัวเรา (หลักการของ plessure) แต่สิ่งนั้นถูกกดหรือ การละเมอการพลั้งปากพูดการแสดงออกทางด้านจินตนาการวรรณคดีศิลปผลงานด้านวิทยาศาสตร์การกระทำที่ผิดปกติต่างๆแม้กระทั่งการระเบิดอารมณ์์รุนแรงเกินเหตุ ฟรอยด์มีความเชื่อว่า ที่สำคัญต่อพฤติกรรมนอกจากจิตสำนึกจิตกึ่งรู้สึกนึก (พลังจิต) เป็น 3 ส่วนคือรหัสอัตตาและซุปเปอร์ (ID) เป็นส่วนที่ติดตัวมาโดยกำเนิด ความอยากตัณหา ถ้าบุคคลใดแสดงพฤติกรรมตามรหัสนั่นคือพฤติกรรมนั้น (อัตตา) นั้นให้ดำเนินไปอย่าง พยายามแก้ไขข้อขัดแย้งต่างๆของอิดและซุปเปอร์อีโก้จนในที่สุดบางคนจะทุกข์ร้อนวิตกกระวนกระวายจนอาจถึงขั้นโรคจิตประสาทถ้าความขัดแย้งดังกล่าวมีมาก (การป้องกัน mechsnism) (อัตตาสุด) คุณธรรมจริยธรรมอุดมคติในการดำเนินชีวิตเป็นพลัง (หลักการของความเป็นจริง) เช่นบัญชาให้คน ๆ นั้น เนื่องจากเขาเป็นจิตแพทย์ ไขให้คืนดี เข้าใจผู้มีปฐมวัยและเป็นแนวทางในการบำบัดรักษาความผิดปกติ ตัวเองมิให้ตกเป็นทาสของจิตหรือความคิดที่หมกมุ่น



























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
กลุ่มจิตวิทยากลุ่มนี้เน้นความสำคัญของ " จิตไร้สำนึก " ( uncoscious จิตใจ ) ว่ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรม
กลุ่มนี้จัดเป็นกลุ่ม " พลังที่หนึ่ง " ( แรง ) ที่แหวกวงล้อมจากจิตวิทยายุคเดิมนักจิตวิทยาใน
กลุ่มจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไปได้แก่ฟรอยด์ ( ซิกมันด์ ฟรอยด์ 1856-1939 )

และส่วนใหญ่แนวคิดในกลุ่มจิตวิเคราะห์นี้เป็นของฟรอยด์ซึ่งเป็นจิตแพทย์ชาวออสเตรียเขาอธิบายว่าจิตของคนเรามี 3 ส่วนความจิตสำนึก ( จิตสำนึก ) จิตกึ่งรู้สำนึก ( preconscious จิตใจ ) และ
จิตไร้สำนึก ( นึก ) ซึ่งมีลักษณะดังนี้จิตสำนึกเป็นสภาพที่รู้ตัวว่าคือใครอยู่ที่ไหน
ต้องการอะไรหรือกำลังรู้สึกอย่างไรต่อสิ่งใดเมื่อแสดงพฤติกรรมอะไรออกไปก็แสดงออกไปตาม
หลักเหตุและผลแสดงตามแรงผลักดันจากภายนอกสอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง ( หลักความจริง )
จิตกึ่งรู้สำนึกเป็นจิตที่เก็บสะสมข้อมูลประสบการณ์ไว้มากมายมิได้รู้ตัวในขณะนั้นแต่พร้อมให้ดึงออกมาใช้อยู่ในระดับจิตสำนึกเดินสวนกับคนรู้จักเดินผ่านเลยมาแล้วนึกขึ้นได้รีบกลับไปทักทายใหม่

พร้อมเข้ามาเป็นต้นและอาจถือได้ว่าประสบการณืต่างๆที่เก็บไว้ในรูปของความจำก็เป็นส่วนของจิตกึ่งรู้สำนึกด้วย
เช่นความขมขื่นในอดีตถ้าไม่คิดถึงก็ไม่รู้สึกอะไรแต่ถ้านั่งทบทวนเหตุการณ์ทีไรก็ทำให้เศร้าได้ทุกครั้งเป็นต้น
จิตไร้สำนึกเป็นส่วนของพฤติกรรมภายในที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยอาจเนื่องมาจากเจ้าตัวพยายามเก็บกดไว้
เช่นอิจฉาน้องเกลียดแม่อยากทำร้ายพ่อซึ่งเป็นความต้องการที่สังคมไม่ยอมรับหากแสดงออกไปมักถูกลงโทษ
ดังนั้นจึงต้องเก็บกดไว้ค็อคพยายามที่จะลืมในที่สุดดูเหมือนลืมได้แต่ที่จริงไม่ได้หายไปไหนยัมีอยู่ในสภาพ
จิตไร้สำนึกจิตไร้สำนึกยังอาจเป็นเรื่องของอิด ( ID ) ซึ่งมีอยู่ในตัวเราเป็นพลังที่ผลักดันให้เราแสดงพฤติกรรม
ตามหลักแห่งความพอใจ ( หลักการ plessure ) แต่สิ่งนั้นถูกกดหรือข่มไว้จนถอยร่นไปอยู่ในสภาพที่เราไม่รู้ตัว
ส่วนของ
จิตไร้สำนึกจะแสดงออกมาในรูปของความฝันการละเมอการพลั้งปากพูดการแสดงออกทางด้าน
จินตนาการวรรณคดีศิลปผลงานด้านวิทยาศาสตร์การกระทำที่ผิดปกติต่างๆแม้กระทั่งการระเบิดอารมณ์
์รุนแรงเกินเหตุบางครั้งก็เป็นเพราะจิตไร้สำนึกที่เก็บกดไว้ฟรอยด์มีความเชื่อว่าจิตไร้สำนึกมีอิทธิพลและบุคลิกภาพและการแสดงพฤติกรรมของมนุษย์มากที่สุดทั้งยังเชื่อว่าความก้าวร้าวและ

มีบทบาทสำคัญต่อความต้องการทางเพศเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อพฤติกรรมนอกจากจิตสำนึกจิตกึ่งรู้สึกนึกและจิตไร้สำนึก
ฟรอยด์ได้แบ่งองค์ประกอบของพลังจิต ( พลังจิต ) เป็น 3 ส่วนความอัตตาและ Super ego
IDซึ่งเป็นแรงขับให้กระทำพฤติกรรมต่างๆดังนี้
อิด ( ID ) เป็นส่วนที่ติดตัวมาโดยกำเนิดจัดเป็นเรื่องของแรงขับตามสัญชาตญาณความอยากตัณหาเป็นส่วนของจิตที่กระตุ้น
ให้บุคคลแสดงพฤติกรรมตามหลักแห่งความพอใจถ้าบุคคลใดแสดงพฤติกรรมตาม ID นั่นคือพฤติกรรมนั้นเป็นไปเพื่อสนอง

ความต้องการของตนเองเป็นส่วนใหญ่อีโก้ ( อัตตา ) เป็นพลังส่วนที่ผ่านกระบวนการเรียนรู้มาแล้วเป็นส่วนที่ควบคุมการแสดงพฤติกรรมของคนๆนั้นให้ดำเนินไปอย่างเหมาะสม
ทั้งภายใต้อิทธิพลของอิดและซุปเปอร์อีโก้พยายามแก้ไขข้อขัดแย้งต่างๆของอิดและซุปเปอร์อีโก้จนในที่สุดบางคนจะทุกข์ร้อน
วิตกกระวนกระวายจนอาจถึงขั้นโรคจิตประสาทถ้าความขัดแย้งดังกล่าวมีมากวิธีหนึ่งที่เป็นทางออกของอีโก้ก็คือ
ปรับตนโดยการใช้กลไกการป้องกันตัว ( mechsnism ป้องกัน ) ซึ่งหมายถึงการที่บุคคลพยายามแก้ไขความคับข้องใจของตนเองเป็นไปเพื่อรักษาหน้าและศักดิ์ศรี

โดยที่มิได้จงใจซุปเปอร์อีโก้ ( super ego ) เป็นพลังจากสังคมที่เกี่ยวกับหลักศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรมอุดมคติในการดำเนินชีวิต
เป็นพลังส่วนที่ควบคุมให้บุคคลแสดงพฤติกรรมโดยสอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง ( หลักความจริง )
เช่นบัญชาให้คนๆนั้นเลือกกลไกการป้องกันตัวที่เหมาะสมมาใช้เนื่องจากเขาเป็นจิตแพทย์จึงมุ่งศึกษาสาเหตุความแปรปรวน

แนวคิดของฟรอยด์ส่วนใหญ่ได้มาจากการศึกษาคนปกติทางแก้ไขให้คืนดีแนวคิดของกลุ่มจิตวิเคราะห์นี้ช่วยให้เห็นความผิดปกติของพฤติกรรมเข้าใจผู้มีปัญหาและเป็นแนวทาง
ในการบำบัดรักษาความผิดปกติและอาจจะเป็นแนวคิดแก่บุคคลทั่วไปในการระแวดระวังตัวเองมิให้ตกเป็นทาสของ
จิตหรือความคิดที่หมกมุ่นจนอาจส่งผลต่อความผิดปกติที่มากจนถึงขั้นอาการทางจิตประสาท
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: