Although chelates can enhance remed

Although chelates can enhance remediation efficiency in phytoremediation, they can cause adverse ecosystem effects. The purpose of this research was to investigate the potential effects of chelating agents on plant and soil ecosystems. The effects of ethylene diamine tetraacetic acid (EDTA), ethylene diamine disuccinate (EDDS), and humic acids (HAs) on soil microbial properties, plant biomass, and metal accumulation were investigated in soils contaminated with Cd, Cu, Pb, Zn, and Ni. Four herbaceous plants were used for experimental purposes: Brassica juncea, Brassica campestris, Sorghum bicolor, and Helianthus annuus. EDTA was most effective for heavy metal uptake by plants, but had significant effects on plants and soils. Although EDDS addition can increase metal uptake, its effects are restricted to some plants and metal species. Plant selection can therefore be a more important factor than use of EDDS. HAs had limited influence on increases in heavy metal uptake but had favorable effects on plants and soil. Decreased plant biomass was strongly related to decreased chlorophyll content caused by increased metal concentrations in plant shoots. Results suggest that more efficient chelates may have higher toxicity. Long-term monitoring is therefore necessary to assess soil quality changes after the addition of chelating agents. Furthermore, the effects of the latter on ecosystems, as well as their metal removal efficiency, should be considered when selecting chelating agents for improved phytoremediation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่า chelates สามารถเพิ่มเพื่อ phytoremediation พวกเขาจะทำร้ายระบบนิเวศผลกระทบ วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เป็นการ ตรวจสอบผลเป็น chelating ตัวแทนในระบบนิเวศของพืชและดิน ผลของเอทิลีน diamine tetraacetic กรด (EDTA), disuccinate diamine เอทิลีน (EDDS), และกรดฮิวมิค (มี) คุณสมบัติจุลินทรีย์ดิน พืชชีวมวล และสะสมโลหะถูกตรวจสอบในดินเนื้อปูนปนเปื้อน Cd, Cu, Pb, Zn และ Ni ใช้พืชสี่ herbaceous ประสงค์ทดลอง: juncea ผัก ผัก campestris ข้าวฟ่าง bicolor และ Helianthus annuus EDTA มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดูดซับโลหะหนักโดยพืช แต่มีลักษณะพิเศษที่สำคัญในพืชและดินเนื้อปูน แม้ว่า EDDS นี้สามารถเพิ่มการดูดซับโลหะ ผลถูกจำกัดบางพืชและชนิดโลหะ เลือกพืชจึงได้ปัจจัยสำคัญกว่าใช้ EDDS มีจำกัดอิทธิพลเพิ่มขึ้นในการดูดซับโลหะหนัก แต่มีผลดีกับพืชและดิน ชีวมวลของพืชลดลงถูกขอเกี่ยวข้องกับเนื้อหาคลอโรฟิลล์ลดลงเกิดจากความเข้มข้นโลหะเพิ่มขึ้นในการถ่ายภาพโรงงาน ผลแนะนำว่า chelates มากอาจมีความเป็นพิษสูง ตรวจสอบระยะยาวจึงจำเป็นต้องประเมินการเปลี่ยนแปลงคุณภาพดินหลังจากการเพิ่มของตัวแทน chelating นอกจากนี้ ผลของหลังในระบบนิเวศ ตลอดจนประสิทธิภาพในการกำจัดโลหะการ ควรพิจารณาเมื่อเลือกตัวแทน chelating สำหรับ phytoremediation ปรับปรุง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่า chelates สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูบำบัดในพวกเขาสามารถทำให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ของระบบนิเวศ วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากตัวแทนคีเลตในโรงงานและระบบนิเวศดิน ผลของกรด diamine เอทิลีน tetraacetic (EDTA) diamine เอทิลีน disuccinate (EDDS) และกรดฮิวมิค (มี) เกี่ยวกับคุณสมบัติของจุลินทรีย์ดินชีวมวลอาคารและการสะสมโลหะถูกตรวจสอบในดินที่ปนเปื้อนแคดเมียมทองแดงตะกั่วสังกะสีและ Ni สี่พืชสมุนไพรถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดลอง: Brassica juncea, Brassica campestris, ข้าวฟ่างและทานตะวัน EDTA มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการดูดซึมโลหะหนักจากพืช แต่มีผลอย่างมีนัยสำคัญในพืชและดิน นอกจากนี้แม้ว่า EDDS สามารถเพิ่มการดูดซึมโลหะผลกระทบของมันถูก จำกัด ให้พืชบางชนิดและโลหะ เลือกพืชจึงสามารถเป็นปัจจัยที่สำคัญมากขึ้นกว่าการใช้ EDDS มีอิทธิพล จำกัด ในการเพิ่มขึ้นของการดูดซึมโลหะหนัก แต่มีผลดีกับพืชและดิน ชีวมวลของพืชลดลงมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งที่จะลดลงเนื้อหาคลอโรฟิลที่เกิดจากความเข้มข้นของโลหะที่เพิ่มขึ้นในใบพืช ผลการชี้ให้เห็นว่า chelates มีประสิทธิภาพมากขึ้นอาจจะมีความเป็นพิษสูง การตรวจสอบในระยะยาวดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเ​​ป็นที่จะต้องประเมินการเปลี่ยนแปลงคุณภาพดินหลังจากที่นอกเหนือจากตัวแทนคีเลต นอกจากนี้ผลกระทบของหลังต่อระบบนิเวศเช่นเดียวกับโลหะประสิทธิภาพในการกำจัดควรพิจารณาเมื่อมีการเลือกตัวแทนคีเลตสำหรับบำบัดที่ดีขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ว่าคีเลตสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบําบัดฟื้นฟู พวกเขาสามารถก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ระบบนิเวศ ผลกระทบ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลที่มีศักยภาพของสารคีเลตในพืชและระบบนิเวศของดิน ผลของเอทิลีนไดอะ tetraacetic acid ( EDTA ) และเอทิลีนไดเอมีน disuccinate ( edds ) และกรดฮิวมิค ( มี ) ต่อคุณสมบัติของ จุลินทรีย์ดินพืชชีวมวลการสะสมของโลหะในดินและทำการปนเปื้อนแคดเมียม , ทองแดง , ตะกั่ว , สังกะสี และ นิ สี่ต้นไม้พืชถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดลอง : Brassica จันเซีย Brassica campestris , ข้าวฟ่าง , และ , Annuus . EDTA เป็นมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการใช้โลหะหนักในพืช แต่อิทธิพลต่อพืชและดิน แม้ว่า edds นอกจากนี้สามารถเพิ่มการดูดซึมโลหะผลของมันจะถูก จำกัด ให้พืชบางชนิดและชนิดโลหะ การเลือกพืชจึงสามารถเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่าการใช้ edds . มีอำนาจจำกัดเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นในการดูดซึมโลหะหนักแต่ได้ผลที่ดีต่อพืชและดิน ลดลงชีวมวลพืช เป็นอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับปริมาณคลอโรฟิลล์ลดลงเกิดจากปริมาณโลหะที่เพิ่มขึ้นในต้นพืชพบว่าซีเลตมีประสิทธิภาพมากขึ้นอาจจะสูงกว่าความเป็นพิษ การตรวจสอบระยะยาว จึงจำเป็น ต้องประเมินการเปลี่ยนแปลงคุณภาพดิน หลังจากเติมสารคีเลต . นอกจากนี้ ผลของหลังในระบบนิเวศ รวมทั้งการกำจัดของโลหะ ควรพิจารณาเมื่อเลือกตัวแทนคีเลติ้งสำหรับการปรับปรุงบําบัด .