Sufficient intake of fortified dair

Sufficient intake of fortified dairy products is of significant importance for the serum vitamin D level in primary school children, shows a new study from the University of Eastern Finland. Children who drink at least three glasses of milk per day had a higher serum vitamin D level than their peers who drink milk in lesser amounts. The use of vitamin D supplements was also associated with a higher serum vitamin D level. Furthermore, children who exercise more than 2 hours per day had a higher serum vitamin D level than children who exercise less than 1.5 hours per day. The article "Determinants of Serum 25-Hydroxyvitamin D Concentration in Finnish Children: The PANIC Study" was published online in British Journal of Nutrition and was selected as the Nutrition Society Paper of the Month for January 2016.

Low levels of vitamin D are common

Very few children had severely low serum levels of vitamin D. However, 20% had a serum vitamin D level lower than 50 nmol/l, which is often considered as a sufficient level. Children whose blood samples were taken in the autumn had the highest serum vitamin D levels. This may be explained by the fact that in the summer, vitamin D is formed on the skin due to sunlight exposure. In northern latitudes, there is not enough sun exposure to maintain sufficient vitamin D levels in the winter season, and vitamin D supplementation is often required. A sufficiently high serum vitamin D level is associated with better bone health and there is some evidence that it may also be associated with a lower risk of many chronic diseases.

Milk fortified with vitamin D is children's most important source of vitamin D

More than 80% of the children had a lower intake of vitamin D from food and vitamin supplements than recommended 10 μg per day in Finland. Furthermore, as many as 40% of the children did not use any vitamin D supplements at all. Milk was the most important source of vitamin D, amounting to nearly 50% of the children's intake. Approximately 30% of the vitamin D intake was from dietary fats and approximately 10% from fish. The majority of milk products and spreads available in Finland are fortified with vitamin D. The level of fortification of milk has been increased from 0.5 µg/100g to 1 µg/100g since the collection of the study data and therefore we suppose milk is even more important source of vitamin D in Finland at the moment. Vitamin D fortification of milk products could be an effective way to improve vitamin D status also in other countries where milk consumption is high.

Adherence to nutrition recommendations can improve serum vitamin D levels

The Finnish nutrition recommendations published in 2014 recommend a vitamin D supplement of 7.5μg per day to all 2-18 year old children and adolescents all year round. In addition, 5-6 dl (2.5-3 glasses) of dairy products fortified with vitamin D per day and 2-3 servings of fish per week are recommended. The diet should also contain vegetable oil based spreads which are fortified with vitamin D. Moreover, sufficient exercise -- and especially exercise taking place outdoors -- should be encouraged among children.

Population-based study provides insight into health and well-being of children and adolescents

The Physical Activity and Nutrition in Children (PANIC) Study is an on-going lifestyle intervention study in the Institute of Biomedicine at the University of Eastern Finland. A total of 512 children aged 6 to 8 years participated in the baseline measurements in 2007-2009, constituting a representative sample of their age group. The PANIC Study produces scientifically valuable information on children's lifestyles, health and well-being. The next follow-up round will begin in early 2016.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพียงพอบริโภคผลิตภัณฑ์นมที่เสริมมีความสำคัญอย่างมากสำหรับเซรั่มวิตามินระดับเด็กประถม แสดงผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์ เซรั่มวิตามินระดับสูงมากกว่าเพื่อนที่ดื่มนมในปริมาณที่น้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมต่อวันน้อยแก้ว ได้ การใช้อาหารเสริมวิตามิน D ก็เกี่ยวข้องกับซีรั่มวิตามินระดับสูง นอกจากนี้ เด็กที่ออกกำลังกายมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันได้ระดับวิตามินซีรั่มสูงกว่าเด็กที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 1.5 ชั่วโมงต่อวัน บทความ "ดีเทอร์มิแนนต์ของเซรั่มเข้มข้น 25 Hydroxyvitamin D ในฟินแลนด์เด็ก: การศึกษาตกใจ" ถูกเผยแพร่ออนไลน์ในอังกฤษวารสารโภชนาการ และเลือกเป็นกระดาษสังคมโภชนาการของเดือนสำหรับ 2016 มกราคมระดับต่ำของวิตามินดีใช้กันทั่วไปเด็กน้อยมีซีรั่มต่ำรุนแรงระดับของวิตามินดี อย่างไรก็ตาม 20% ได้ระดับวิตามินซีรั่มต่ำกว่า 50 นาโนโมล/ลิตร ซึ่งมักจะถือว่าเป็นระดับเพียงพอ เด็กที่มีตัวอย่างเลือดที่ถ่ายในฤดูใบไม้ร่วงมีวิตามินดีระดับสูงสุดของเซรั่ม นี้อาจจะอธิบายความจริงที่ว่า ในฤดูร้อน วิตามิน D จะเกิดบนผิวหนังเนื่องจากแสงแดด ในละติจูดเหนือ ไม่มีการรักษาระดับวิตามินดีที่เพียงพอในฤดูหนาวแสงแดดเพียงพอ และจะต้องเสริมวิตามินดี ในซีรั่มสูงพอระดับวิตามินดีเกี่ยวข้องกับสุขภาพกระดูกที่ดี และมีหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังนมที่มีวิตามินดีเป็นเด็กแหล่งสำคัญของวิตามินดีกว่า 80% ของเด็กที่มีปริมาณต่ำกว่าวิตามินดีจากอาหาร และวิตามินเสริมมากกว่า 10 ไมโครกรัมต่อวันในฟินแลนด์ที่แนะนำ นอกจากนี้ เป็น 40% ของเด็กที่ไม่ได้ใช้วิตามินเสริมใด ๆ เลย นมเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินดี จำนวนเกือบ 50% ของการบริโภคของเด็ก ประมาณ 30% ของการบริโภควิตามินดีได้จากอาหารไขมันและประมาณ 10% จากปลา ส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์นมและแพร่กระจายอยู่ในประเทศฟินแลนด์มีรูปวิตามินดี ระดับของระบบป้อมปราการช่วยนมเพิ่มขึ้นจาก 0.5 µg / 100g ไป 1 µg / 100g ตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูลศึกษา และดังนั้น เราคิดว่า นมเป็นแหล่งที่สำคัญยิ่งของวิตามินในฟินแลนด์ในขณะนี้ ระบบป้อมปราการช่วยวิตามินของผลิตภัณฑ์น้ำนมอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงสถานะของวิตามินดีในประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณนมสูงยึดมั่นในคำแนะนำโภชนาการสามารถเพิ่มระดับวิตามินซีรั่มคำแนะนำโภชนาการฟินแลนด์ประกาศแนะนำอาหารเสริมวิตามิน D ของ 7.5μg ต่อวัน 2-18 ปีเด็กและเยาวชนตลอดทั้งปี นอกจากนี้ 5-6 dl (2.5-3 แว่น) ผลิตภัณฑ์นมที่มีวิตามินดีต่อวันและรับประทานปลาสัปดาห์ละ 2-3 มีการแนะนำ อาหารควรจะประกอบด้วยช่วงราคาน้ำมันพืชที่ใช้ซึ่งมีรูปวิตามินดี นอกจากนี้ สนับสนุนการออกกำลังกายที่เพียงพอและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายการทำกลางแจ้ง - ในเด็กตามประชากรศึกษามีความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของเด็กและวัยรุ่นกายและโภชนาการในเด็ก (ตกใจ) เป็นการศึกษาการแทรกแซงจะไลฟ์สไตล์ในสถาบันเวชศาสตร์ชีวภาพที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์ จำนวน 512 เด็กอายุ 6-8 ปีได้เข้าร่วมในหน่วยวัดพื้นฐานใน 2550 2552 ประกอบตัวอย่างตัวแทนของกลุ่มอายุ การศึกษาเสียขวัญให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในชีวิตเด็ก สุขภาพ และความเป็น ติดตามรอบถัดไปจะเริ่มในช่วงต้นปี 2559

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปริมาณที่เพียงพอของผลิตภัณฑ์นมเสริมมีความสำคัญที่สำคัญสำหรับเซรั่มวิตามิน D ระดับในเด็กโรงเรียนประถมศึกษาแสดงให้เห็นว่าการศึกษาใหม่จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์ เด็กที่ดื่มอย่างน้อยสามแก้วนมต่อวันมีระดับ D เซรั่มวิตามินสูงกว่าเพื่อนของพวกเขาที่ดื่มนมในปริมาณที่น้อย การใช้งานของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินดียังมีความสัมพันธ์กับเซรั่มระดับวิตามินดีที่สูงขึ้น นอกจากนี้เด็กที่ออกกำลังกายมากขึ้นกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันมีระดับเซรั่มวิตามิน D สูงกว่าเด็กที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 1.5 ชั่วโมงต่อวัน บทความ "ปัจจัยของเซรั่ม 25 hydroxyvitamin D ความเข้มข้นในเด็กฟินแลนด์: ตื่นตระหนกศึกษา" ได้รับการตีพิมพ์ออนไลน์ในวารสาร British Journal of โภชนาการและได้รับเลือกเป็นสมาคมโภชนาการกระดาษของเดือนสำหรับเดือนมกราคม 2016 อยู่ในระดับต่ำของวิตามินดีเป็นเรื่องธรรมดามาก เด็กไม่กี่มีระดับซีรั่มต่ำอย่างรุนแรงของวิตามินดีอย่างไรก็ตาม 20% มีซีรั่มวิตามินดีในระดับต่ำกว่า 50 นาโนโมล / ลิตรซึ่งมักจะถือว่าเป็นระดับที่เพียงพอ เด็กที่มีเลือดถูกนำตัวอย่างในฤดูใบไม้ร่วงได้สูงสุดระดับซีรั่มวิตามินดี นี้อาจจะอธิบายได้ด้วยความจริงที่ว่าในช่วงฤดูร้อน, วิตามินดีจะเกิดขึ้นบนผิวหนังจากการสัมผัสแสงแดด ในละติจูดเหนือไม่มีแสงแดดเพียงพอที่จะรักษาระดับที่เพียงพอวิตามินดีในฤดูหนาวและเสริมวิตามินดีมักจะต้อง เซรั่มวิตามินดีในระดับที่สูงพอสมควรมีความเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพกระดูกที่ดีขึ้นและมีหลักฐานบางอย่างที่มันก็อาจจะเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลาย. นมเสริมด้วยวิตามิน D เป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กของวิตามินดีมากกว่า 80% ของเด็กที่มีลดลงของปริมาณวิตามินดีจากอาหารเสริมและวิตามินกว่าที่แนะนำ 10 ไมโครกรัมต่อวันในฟินแลนด์ นอกจากนี้เป็นจำนวนมากถึง 40% ของเด็กที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินดีที่ทุกคน นมเป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดของวิตามินดีเป็นจำนวนเงินเกือบ 50% ของการบริโภคของเด็ก ประมาณ 30% ของปริมาณวิตามินดีที่เกิดจากการบริโภคอาหารและไขมันประมาณ 10% จากปลา ส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์นมและแพร่กระจายที่มีอยู่ในประเทศฟินแลนด์จะเสริมด้วยวิตามินดีระดับของป้อมปราการของนมได้เพิ่มขึ้นจาก 0.5 ไมโครกรัม / 100 กรัมถึง 1 ไมโครกรัม / 100 กรัมตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูลการศึกษาและดังนั้นเราคิดว่านมมากยิ่งขึ้น แหล่งสำคัญของวิตามินดีในฟินแลนด์ในขณะนี้ วิตามิน D ป้อมปราการของผลิตภัณฑ์นมอาจจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุง D สถานะวิตามินยังอยู่ในประเทศอื่น ๆ ที่บริโภคนมสูง. การปฏิบัติตามคำแนะนำด้านโภชนาการสามารถปรับปรุงเซรั่มวิตามิน D ระดับคำแนะนำด้านโภชนาการฟินแลนด์ตีพิมพ์ในปี 2014 แนะนำอาหารเสริมวิตามินดี 7.5 ไมโครกรัมต่อวันทุกเด็กอายุ 2-18 ปีและวัยรุ่นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ 5-6 DL (2.5-3 แก้ว) ของผลิตภัณฑ์นมเสริมด้วยวิตามินดีต่อวันและ 2-3 เสิร์ฟของปลาต่อสัปดาห์ได้รับการแนะนำ อาหารที่ควรมีการแพร่กระจายตามน้ำมันพืชที่มีการเสริมด้วยวิตามินดีนอกจากนี้การออกกำลังกายที่เพียงพอ - และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายที่เกิดขึ้นนอก -. ควรได้รับการส่งเสริมในหมู่เด็กการศึกษาประชากรตามให้ลึกเข้าไปในสุขภาพและความเป็นอยู่ของเด็ก และวัยรุ่นออกกำลังกายและโภชนาการในเด็ก (PANIC) การศึกษาเป็นที่กำลังศึกษาการแทรกแซงการดำเนินชีวิตในสถาบัน Biomedicine ที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์ รวมเด็ก 512 อายุ 6-8 ปีที่ผ่านมามีส่วนร่วมในการวัดพื้นฐานใน 2007-2009 ประกอบเป็นตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของกลุ่มอายุของพวกเขา การศึกษา PANIC ผลิตข้อมูลที่มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ในการดำเนินชีวิตของเด็ก, สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ถัดไปติดตามรอบที่จะเริ่มต้นในช่วงต้นปี 2016

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การบริโภคเพียงพอของเสริมนมเป็นสำคัญที่สำคัญสำหรับเซรั่มวิตามิน D ระดับในเด็กวัยประถมศึกษา แสดงการศึกษาใหม่จากมหาวิทยาลัยตะวันออกฟินแลนด์ เด็กๆ ที่ดื่มนมวันละอย่างน้อย 3 แก้ว มีสูงกว่า เซรั่มวิตามิน D ระดับกว่าเพื่อนที่ดื่มนมในปริมาณน้อย การใช้วิตามินอาหารเสริมยังเกี่ยวข้องกับเซรั่มวิตามิน D สูงกว่าระดับ นอกจากนี้ เด็กที่ออกกำลังกายมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน มีเซรั่มวิตามิน D ระดับที่สูงกว่าเด็กที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 1.5 ชั่วโมงต่อวัน บทความ " ปัจจัยของซีรั่ม 25 hydroxyvitamin D สมาธิเด็กฟินแลนด์ : Panic ศึกษา " ถูกตีพิมพ์ออนไลน์ในวารสารโภชนาการของอังกฤษ และได้รับเลือกเป็นโภชนาการสังคมกระดาษของเดือนมกราคม 2016 .ระดับต่ำของวิตามินดีมีทั่วไปเด็ก น้อยมาก มีเซรั่มระดับวิตามิน D ต่ำอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 20 มีเซรั่มวิตามิน D ระดับต่ำกว่า 50 nmol / ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่เพียงพอ เด็กที่มีตัวอย่างเลือดที่ถ่ายในฤดูใบไม้ร่วงได้สูงสุดเซรั่มวิตามิน D ระดับ นี้อาจอธิบายได้ว่า ในฤดูร้อน วิตามิน D จะเกิดขึ้นบนผิวหนังเนื่องจากการเปิดรับแสงแดด ในละติจูดเหนือ ไม่มีแสงแดดเพียงพอที่จะรักษาระดับวิตามิน D ในฤดูหนาว และวิตามิน D เสริมมักจะต้อง สูงพอสมควร เซรั่มวิตามิน D ระดับที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพกระดูกที่ดี และมีหลักฐานบางอย่างที่มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ มากมายนมที่เสริมวิตามิน D เป็นเด็กสำคัญที่สุดแหล่งที่มาของวิตามิน ดีกว่า 80% ของเด็กมีปริมาณต่ำของวิตามินดีจากอาหารและอาหารเสริมวิตามินกว่าแนะนำ 10 μกรัมต่อวันในฟินแลนด์ นอกจากนี้ เท่าที่ 40% ของเด็กที่ไม่ใช้วิตามินอาหารเสริมใด ๆที่ทั้งหมด นมเป็นแหล่งสำคัญของวิตามิน D เป็นเกือบ 50% ของเด็กบริโภค ประมาณ 30% ของการบริโภควิตามินดีจากอาหารไขมันและประมาณ 10% จากปลา ส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์นมและแพร่กระจายของฟินแลนด์จะเสริมด้วยวิตามิน D ระดับการเสริมน้ำนมได้เพิ่มขึ้นจาก 0.5 µกรัม / 100 กรัม ถึง 1 µกรัม / 100 กรัม ตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูลศึกษาและดังนั้นเราจึงคิดว่านมเป็นแหล่งสำคัญของวิตามิน D ในฟินแลนด์ในขณะนี้ วิตามิน D การดื่มนมอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อปรับปรุงสถานะของวิตามิน D ในประเทศอื่น ๆที่บริโภคนมสูงการแนะนำโภชนาการสามารถเพิ่มระดับวิตามิน D ระดับฟินแลนด์โภชนาการแนะนำเผยแพร่ในปี 2014 แนะนำวิตามิน D เสริม 7.5 μกรัมต่อวัน เด็กและวัยรุ่น 2-18 ปีเก่าทั้งหมดตลอดทั้งปี นอกจากนี้ 5-6 DL ( 2.5-3 แก้วของนมที่เสริมวิตามิน D วันละ 2-3 เสิร์ฟของปลาต่อสัปดาห์จะได้รับ อาหารควรประกอบด้วยน้ำมันพืชที่ใช้กระจายที่เสริมวิตามิน D และเพียงพอ ออกกำลังกาย และโดยเฉพาะการออกกำลังกาย การสถานที่กลางแจ้ง -- ควรให้ในเด็ก .ศึกษาจากประชากรให้ลึกเข้าไปในสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและวัยรุ่นกิจกรรมทางกายภาพและโภชนาการในเด็ก ( panic ) การศึกษาต่อวิถีชีวิตการแทรกแซงการศึกษาสถาบัน Biomedicine ในมหาวิทยาลัยตะวันออกฟินแลนด์ ทั้งหมด 512 เด็กอายุ 6 ถึง 8 ปี มีส่วนร่วมใน ( วัดใน 2007 , ที่ประกอบตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของกลุ่มอายุของพวกเขา ความน่าศึกษาสร้างข้อมูลที่มีคุณค่าในชีวิตของเด็ก สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รอบติดตามต่อไปจะเริ่มต้นในช่วงต้นปี 2016 .