In 1990,a Lisu man moved to Hua Fai

In 1990,a Lisu man moved to Hua Fai and rented a house there. Born in Mea Chan district, Chiang Rai province, he and his family had to move once before to escape the turmoil caused by communist insurgency, government troops, and local mafia, to a village in Mae Taeng district, Chiang Mai province. There he grew rice and maize, while his wife did sewing and embroidery for sale. He found that while his agriculture income was falling because of the pressure on land availability and rising input costs, his wife’s income was increasing. Then an Akha man to asked him to go into the city and sell old ethnic objects at the Night Bazaar. He sold his piece of land in Mae Taeng, and used the money obtained to buy wood carvings and traditional objects to sell to tourist. He rented a space in the Night Bazaar to sell those objects and a house in Hua Fai for his accommodation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1990 ชายลีย้ายไปหัวฝาย และเช่าบ้านมี เกิดในอำเภอพระธาตุแม่จัน จังหวัดเชียงราย เขา และครอบครัวได้ย้ายทันทีก่อนจะหลบหนีความวุ่นวายที่เกิดจากแดนคอมมิวนิสต์ พลรัฐ และ มาเฟียท้องถิ่น หมู่บ้านในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีเขาเติบโตข้าวและข้าวโพด ในขณะที่ภรรยาของเขาไม่ได้เย็บผ้าและเย็บปักถักร้อยขาย เขาพบว่า ในขณะที่รายได้ของเกษตรก็ตกลงเนื่องจากแรงกดดัน บนที่ดินมีอยู่ และเพิ่ม ขึ้นต้นทุนนำเข้า รายได้ของภรรยาของเขาเกิดขึ้น แล้วมีอาข่าชายเพื่อขอให้เขาไปในเมือง และขายวัตถุชนเผ่าเดิมที่ไนท์บาซาร์ เขาขายที่ดินในแม่แตงชิ้นของเขา และใช้เงินที่รับซื้อไม้แกะสลักและวัตถุโบราณเพื่อขายให้นักท่องเที่ยว เขาเช่าพื้นที่ในไนท์ขายวัตถุเหล่านั้นและบ้านหัวฝายในที่พักของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1990 คนลีซูย้ายไปอยู่ที่หัวฝายและเช่าบ้านอยู่ที่นั่น เกิดในอำเภอแม่จันทร์จังหวัดเชียงรายเขาและครอบครัวของเขาต้องย้ายอีกครั้งก่อนที่จะหลบหนีความวุ่นวายที่เกิดจากการก่อความไม่สงบคอมมิวนิสต์กองกำลังรัฐบาลและมาเฟียท้อ​​งถิ่นไปยังหมู่บ้านในเขตอำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ ที่นั่นเขาปลูกข้าวและข้าวโพดในขณะที่ภรรยาของเขาได้เย็บผ้าและเย็บปักถักร้อยเพื่อขาย เขาพบว่าในขณะที่รายได้ภาคเกษตรของเขาถูกลดลงเพราะแรงกดดันกับความพร้อมที่ดินและค่าใช้จ่ายในการป้อนข้อมูลที่เพิ่มขึ้นรายได้ของภรรยาของเขาเพิ่มขึ้น แล้วคนอาข่าที่จะขอให้เขาไปเข้ามาในเมืองและขายวัตถุชาติพันธุ์เก่าที่ไนท์บาซาร์ เขาขายชิ้นส่วนของที่ดินในแม่แตงและใช้เงินที่ได้รับที่จะซื้อไม้แกะสลักและวัตถุโบราณที่จะขายให้นักท่องเที่ยว เขาเช่าพื้นที่ในไนท์บาซาร์ที่จะขายวัตถุเหล่านั้นและบ้านหัวฝายในที่พักของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1990 , ลีซูแมน ย้ายมาเช่าบ้าน หัวฝาย และมี เกิดในแม่จัน จ. เชียงราย เขาและครอบครัวของเขาต้องย้ายอีกครั้ง ก่อนที่จะหนีความวุ่นวายที่เกิดจากการจลาจลคอมมิวนิสต์ของรัฐบาล , ทหาร , และมาเฟียท้องถิ่น หมู่บ้านในเขตอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่นั่นเขาปลูกข้าวและข้าวโพด ขณะที่ภรรยาของเขาได้จักรเย็บผ้าและเย็บปักถักร้อยขายเขาพบว่าในขณะที่รายได้การเกษตรของเขาถูกล้มเพราะแรงดันอินพุตว่างที่ดินและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของรายได้ของภรรยาของเขาเพิ่มขึ้น จากนั้นอีก้อคนที่บอกให้เขาไปในเมืองและขายวัตถุชาติพันธุ์เก่า ไนท์บาซาร์ เขาขายชิ้นของเขาที่ดิน อำเภอแม่แตง และใช้เงินที่ได้ซื้อไม้แกะสลักโบราณวัตถุและขายให้กับนักท่องเที่ยวเขาเช่าพื้นที่ในตลาดไนท์บาซาร์ขายวัตถุเหล่านั้น และบ้านหัวฝาย ที่พักของเขา