Vegetable oil based hyperbranched p

Vegetable oil based hyperbranched poly(ester amide) (HBPEA) has enormous importance because of
its unique characteristics. Thus the synthesis of HBPEA using N,N
-bis(2-hydroxy ethyl) castor oil fatty
amide, maleic anhydride, phthalic anhydride and isophthalic acid as A2 monomers and diethanol amine,
as B3 monomer was reported for the first time. The chemical structure of the synthesized resin was
characterized by Fourier transform infrared (FTIR) and nuclear magnetic resonance (1H NMR and 13C
NMR) spectroscopic techniques. The degree of branching (DB) (as vouched by 1H NMR analysis) and
initial degradation temperature were found to increase with the increment in B3 monomer content.
Resins with 5 and 10 wt% of B3 monomer showed shear thinning behavior while rheopectic nature of
HBPEA with 15 wt% of B3 content was observed. The evaluation of tensile strength, elongation at break,
abrasion resistance, adhesion strength, scratch hardness, gloss, impact strength and chemical resistance
complemented by microbial and lipolytic degradation forward the epoxy cured thermosets as advanced
biodegradable surface coating materials.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำมันพืชที่ใช้ hyperbranched poly(ester amide) (HBPEA) มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากลักษณะเฉพาะของ ดังนั้นการสังเคราะห์ HBPEA ใช้ N, N-ไขมันน้ำมันละหุ่ง bis (2 hydroxy เอทิล)amide, maleic anhydride, phthalic anhydride และกรด isophthalic A2 monomers และ diethanol amineเป็น B3 น้ำยามีรายงานเป็นครั้งแรก มีโครงสร้างทางเคมีของยางสังเคราะห์โดยฟูรีเยแปลงอินฟราเรด (FTIR) และนิวเคลียร์แม่เหล็กสั่นพ้อง (NMR 1H และ 13CNMR) ด้านเทคนิค ระดับของการโยงหัวข้อ (DB) (เป็น vouched โดยวิเคราะห์ 1H NMR) และอุณหภูมิการสลายตัวเริ่มต้นพบเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มขึ้นในเนื้อหาน้ำยา B3เรซิ่น 5 และ 10 wt %ของน้ำยา B3 พบบางลักษณะในขณะที่ rheopectic ลักษณะของแรงเฉือนHBPEA 15 wt % B3 เนื้อหาถูกตรวจสอบ การประเมินผลของแรง elongation ที่แบ่งขูด ยึดเกาะความแข็งแรง ความแข็งรอยขีดข่วน เงา แรงกระแทก และทนสารเคมีครบครัน ด้วยจุลินทรีย์ และ lipolytic ลดประสิทธิภาพไป thermosets อีพ็อกซี่หายเป็นขั้นสูงวัสดุเคลือบผิวสลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำมันพืชที่ใช้โพลี hyperbranched (เอไมด์เอสเตอร์) (HBPEA) มีความสำคัญอย่างมากเพราะ
ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นการสังเคราะห์ HBPEA ใช้เอ็น, N
-bis (2 เอทิลไฮดรอกซี) น้ำมันละหุ่งไขมัน
เอไมด์, แอนไฮอัตราส่วน, แอนไฮพาทาลิกและกรด isophthalic เป็นโมโนเมอร์และเอ A2 diethanol,
B3 เป็นโมโนเมอร์ได้รับการรายงานเป็นครั้งแรก โครงสร้างทางเคมีของเรซินสังเคราะห์ก็
โดดเด่นด้วยการแปลงฟูริเยอินฟราเรด (FTIR) และนิวเคลียร์ด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (1H NMR และ 13C
NMR) เทคนิคสเปกโทรสโก ระดับของการแตกแขนง (DB) (ที่ปริยายโดยการวิเคราะห์ 1H NMR) และ
อุณหภูมิการย่อยสลายเบื้องต้นพบว่าเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มขึ้นในเนื้อหาของโมโนเมอร์ B3.
เรซินกับ 5 และ 10% โดยน้ำหนักของโมโนเมอร์ B3 แสดงพฤติกรรมบางเฉือนในขณะที่ธรรมชาติของ rheopectic
HBPEA กับ 15% ของน้ำหนักเนื้อหา B3 เป็นที่สังเกต การประเมินผลของแรงดึงยืดเมื่อขาด,
ความต้านทานการกัดกร่อนแรงยึดเกาะที่มีความแข็งรอยขีดข่วนเงาแรงกระแทกและทนต่อสารเคมี
ที่สมบูรณ์โดยการย่อยสลายของจุลินทรีย์และ lipolytic ไปข้างหน้า Thermosets หายอีพ็อกซี่เป็นขั้นสูง
วัสดุเคลือบผิวที่ย่อยสลายได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำมันจากพืช hyperbranched พอลิเอสเทอร์และ ) ( hbpea ) มีมหาศาลความสำคัญเพราะ
ลักษณะที่มีเอกลักษณ์ ดังนั้น การสังเคราะห์ hbpea ใช้ n , n
- บิส ( 2-hydroxy เอทิล ) กรดไขมันน้ำมันละหุ่งและมาเลอิกแอนไฮไดรด์
, , กรดพทาลิกแอนไฮไดรด์ และไอโซทาลิก A2 เมอร์ diethanol ละลาย
เป็น B3 โมโนเมอร์ถูกรายงานครั้งแรกโครงสร้างทางเคมีของสังเคราะห์เรซินถูก
ลักษณะฟูเรียร์ Infrared ( FTIR ) และนิวเคลียร์แมกเนติกเรโซแนนซ์ ( 1H NMR และ 13C NMR
) เทคนิคทางสเปกโทรสโกปี ระดับของการแยก ( dB ) ( รับรองโดย 1 ในการวิเคราะห์ NMR ) และอุณหภูมิการสลายตัว
เริ่มต้น พบว่าเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นในเนื้อหามอนอเมอร์ B3
.เรซิ่นด้วย 5 และ 10 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก พบว่าบางพฤติกรรมในขณะที่ B3 เมอร์แรงของธรรมชาติ rheopectic
hbpea 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักของปริมาณน้ำมัน ) การประเมินค่าความต้านทานแรงดึง การยืดตัวที่จุดแตกหัก , ความต้านทานการขีดความแข็งแรงขัดถูเงา

ผลกระทบต่อความแข็งแรงและทนต่อสารเคมีครบครันด้วยจุลินทรีย์และการส่งต่อกับอีพ็อกซี่หาย thermosets เป็นขั้นสูง

ใช้เคลือบผิววัสดุ