This point is powerfully illustrate

This point is powerfully illustrated by the fact that even the notoriously racist apartheid regime in South Africa had to designate the Japanese ‘honorary whites’. There was no way the Japanese executives running the local Toyota and Nissan factories could go and live in townships like Soweto, where non- whites were forced to live under apartheid law. Therefore, the white-supremacist South Africans had to swallow their pride and pretend that the Japanese were whites, if they wanted to drive around in Japanese cars. That is the power of the market.


The power of the market as a ‘leveller’ is more widespread than we think. As the British writer Alan Bennett’s play-turned-movie, History Boys, so poignantly shows, students from disadvantaged groups tend to lack intellectual and social confidence and are thus disadvantaged in getting into elite universities – and by extension, better-paying jobs. Obviously, universities do not have to respond to market pressures as quickly as firms have to. However, if some university consistently discriminated against ethnic minorities or working-class kids and took in only people from the ‘right’ backgrounds despite their inferior quality, potential employers would come to prefer the graduates from non-racist universities. The narrow-minded university, if it is to recruit the best possible students, would have to abandon its prejudices sooner or later.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดนี้เป็น powerfully ดังความจริงที่ว่า แม้ระบอบ apartheid ฉาวเหยียดสีผิวในแอฟริกาใต้มีการใช้ภาษาญี่ปุ่น 'ขาวกิตติมศักดิ์' ไม่มีผู้บริหารญี่ปุ่นที่ทำงานโตโยต้าในท้องถิ่น และโรงงานนิสสันสามารถไป และอาศัยอยู่ใน townships เช่นโซเวโต ที่ไม่ใช่ขาวถูกบังคับให้อยู่ภายใต้กฎหมายแบ่งแยกสีผิว ดังนั้น ที่ขาว-supremacist แอฟริกาใต้ได้กลืนความภาคภูมิใจของพวกเขา และทำเป็นว่า ญี่ปุ่นถูกขาว ถ้าพวกเขาอยากขับรอบในรถญี่ปุ่น นั่นคือพลังงานของตลาด


ของตลาดเป็น 'leveller' จะแพร่หลายมากขึ้นกว่าที่เราคิด เป็นชาวอังกฤษผู้เขียนเบนเนต Alan ของเล่นเปิดภาพยนตร์ ประวัติบอย poignantly เพื่อแสดง นักเรียนจากกลุ่มผู้ด้อยโอกาสมักจะ ขาดความมั่นใจทางปัญญา และทางสังคม และเป็นจึงเสียเปรียบในโครงการในการ เข้ามหาวิทยาลัยอีลิท และนาม สกุล งานชำระเงินดีขึ้น อย่างชัดเจน มหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องตอบสนองตลาดดันรวดเร็ว ตามที่บริษัทต้อง อย่างไรก็ตาม ถ้ามหาวิทยาลัยบาง discriminated กับชนกลุ่มน้อยหรือเด็ก working-class อย่างสม่ำเสมอ และเอาคนจากพื้นหลัง 'ขวา' แม้มีคุณภาพของพวกเขาน้อย นายจ้างอาจจะมาใช้บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยไม่ใช่ racist มหาวิทยาลัย narrow-minded ถ้าต้องการรับสมัครนักเรียนได้ดีที่สุด จะต้องละทิ้งอคติช้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดนี้คือตัวอย่างที่มีอำนาจด้วยความจริงที่ว่าแม้ระบอบการปกครองแบ่งแยกชนชั้นฉาวโฉ่ในแอฟริกาใต้มีการกำหนดญี่ปุ่นขาวกิตติมศักดิ์ ' ไม่มีทางที่ผู้บริหารระดับสูงของญี่ปุ่นที่ใช้โตโยต้าและนิสสันโรงงานในท้องถิ่นอาจจะไปและอาศัยอยู่ในเมืองเช่น Soweto ซึ่งคนผิวขาวที่ไม่ถูกบังคับให้อยู่ภายใต้กฎหมายการแบ่งแยกสีผิวไม่ได้ ดังนั้นสีขาว supremacist แอฟริกาใต้ต้องกลืนความภาคภูมิใจของพวกเขาและแกล้งทำเป็นว่าญี่ปุ่นเป็นคนผิวขาวถ้าพวกเขาต้องการที่จะขับรถไปรอบ ๆ ในรถญี่ปุ่น นั่นคือพลังของตลาดพลังงานของตลาดเป็น 'leveler' เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นกว่าที่เราคิด ในฐานะที่เป็นนักเขียนชาวอังกฤษอลันเบนเน็ตต์เล่นหันภาพยนตร์ประวัติเด็กดังนั้นปวดร้าวแสดงให้เห็นนักเรียนจากกลุ่มที่ด้อยโอกาสมักจะขาดความเชื่อมั่นทางปัญญาและทางสังคมและจึงด้อยโอกาสในการเป็นมหาวิทยาลัยยอด - และนามสกุลที่ดีกว่าค่าจ้าง เห็นได้ชัดว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้มีการตอบสนองต่อแรงกดดันของตลาดเป็นอย่างที่ บริษัท ต้อง แต่ถ้าบางมหาวิทยาลัยเลือกปฏิบัติอย่างต่อเนื่องกับชนกลุ่มน้อยหรือเด็กที่ทำงานชั้นและเอาในคนเท่านั้นจาก 'ขวา' ภูมิหลังที่แม้จะมีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานของพวกเขานายจ้างที่มีศักยภาพจะเข้ามาจะชอบที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ มหาวิทยาลัยใจแคบถ้ามันคือการรับสมัครนักเรียนที่ดีที่สุดจะต้องละทิ้งอคติที่ไม่ช้าก็เร็ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดนี้คือ powerfully ภาพประกอบโดยข้อเท็จจริงที่ว่าแม้ว่าอพาร์ธีตกระฉ่อนเหยียดผิวในแอฟริกาใต้ได้แต่งตั้งญี่ปุ่นกิตติมศักดิ์ขาว ' ' ไม่มีทางที่ญี่ปุ่นผู้บริหารท้องถิ่นวิ่งโรงงานโตโยต้า และนิสสัน อาจไปอยู่ในเมือง เช่น โซเวโต ที่ไม่ใช่ผ้าขาวถูกบังคับให้อยู่ภายใต้กฎหมายการแบ่งแยกสีผิวอยู่ ดังนั้นส่วนขาวสุดโต่งแอฟริกาใต้มีความภาคภูมิใจที่จะกลืน และแกล้งทำเป็นว่าญี่ปุ่นขาวหากพวกเขาต้องการที่จะขับรถไปรอบ ๆในรถญี่ปุ่น นั่นคือพลังของตลาด


พลังของตลาดเป็นผู้วัดระดับ ' ' เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นกว่าที่เราคิด เป็นอังกฤษเขียนอลันเบนเน็ตต์เล่นเปิดหนังประวัติเด็ก ดังนั้น poignantly แสดงนักเรียนกลุ่มด้อยโอกาสมีแนวโน้มที่จะขาดปัญญาและสังคม ความมั่นใจ และดังนั้นจึง ด้อยโอกาสในการเข้าสู่มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม ) และโดยส่วนขยาย ดีกว่าจ่ายงาน เห็นได้ชัดว่า มหาวิทยาลัยไม่ได้มีเพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันของตลาดได้อย่างรวดเร็ว บริษัท มี อย่างไรก็ตามถ้าบางมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง discriminated ต่อชนกลุ่มน้อย หรือชนชั้นกรรมกร และเอาเด็กในคนเท่านั้น จาก ' ' หลังมีคุณภาพด้อยกว่าของพวกเขา นายจ้างอาจจะชอบไม่เหยียดสีผิว จบจากมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยใจแคบ ถ้าเป็นการรับสมัครนักเรียนที่ดีที่สุด จะต้องทิ้งความอคติ ไม่ช้าก็เร็ว