Environmental responsibility is ves

Environmental responsibility is vested. As air act which maintain air quality was adopted in 1971 and amended in 1975 and 1980 by the clean air regulations. Environmental responsibility for Singapore is vested in the Ministry of the Environment and its Anti-Pollution Unit. Air pollution from the transportation is main problem in the nation's growing urban areas. In 1992, Singapore was among 50 nations with the world's highest levels of industrial carbon dioxide emissions, which totaled 49.8 million metric tons, a per capita level of 17.99 metric tons. In 1996 it rose to 65.8 million metric tons.
Water Pollution Control and Drainage Act made in 1975 and the Trade Effluent Regulations of 1976, which control water quality. Singapore does not have enough water to support the needs of its people. The nation hardly have about has 0.1 cubic miles of water. 4% of it is used for farming and 51% for industrial purposes. Pollution from the nation's oil industry is also a significant problem, and its cities produce about 0.9 million tons of solid waste per year. As to solve the problem of water shortage waste water is treated and recycled to conserve water supplies.
Singapore has lost 20 to 30% of its original mangrove area. In 2001, two plant species, six mammal species, and nine bird species were considered to be in danger of extinction. Ridley's leaf-nosed bat, Chinese egret, yellow-crested cockatoo, batagur, tigers, and the Singapore round leaf horseshoe bat are in endangered mammal species in Singapore.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ่งแวดล้อมเป็น vested เป็นพระราชบัญญัติอากาศอากาศที่ คุณภาพถูกนำมาใช้ใน และแก้ไขใน 1975 และ 1980 ตามระเบียบพัก รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของสิงคโปร์เป็น vested ในกระทรวงของหน่วยต่อต้านมลภาวะและสิ่งแวดล้อม มลพิษทางอากาศจากการขนส่งเป็นปัญหาหลักในพื้นที่เขตเมืองในการเจริญเติบโตของประเทศ ในปี 1992 สิงคโปร์ถูกระหว่างประเทศ 50 กับระดับสูงสุดในโลกของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อุตสาหกรรม ซึ่งรวม 49.8 ล้านตันวัด ระดับ 17.99 เมตริกตันต่อหัว ในปี 1996 มันกุหลาบไป 65.8 ล้านเมตริกตันน้ำ ควบคุมมลภาวะ และในปี 1975 ทำระบายน้ำ และ บังคับน้ำค้า 1976 การควบคุมคุณภาพน้ำ สิงคโปร์ไม่มีน้ำเพียงพอเพื่อรองรับความต้องการของคน ประเทศไม่มีประมาณมีน้ำ 0.1 ลูกบาศก์ไมล์ 4% ของใช้สำหรับการทำฟาร์มและ 51% ในอุตสาหกรรม มลพิษจากอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศยังเป็นปัญหาสำคัญ และเมืองการผลิตขยะต่อปีประมาณ 0.9 ล้านตัน เพื่อแก้ปัญหาน้ำ ขาดแคลนน้ำจะรับ และรีไซเคิลเพื่อประหยัดน้ำสิงคโปร์มีหายไป 20 ถึง 30% ของพื้นที่ป่าชายเลนของเดิม ในปีค.ศ. 2001 พืชสองชนิด ชนิดเท้า 6 และ 9 นกพันธุ์ได้ถือเป็นอันตรายในการสูญพันธุ์ หญ้าของค้างคาวคุณใบไม้ อีเกรตจีน นกกระตั้วใหญ่หงอนเหลืองเหลือง batagur เสือ และสิงคโปร์รอบใบฮอร์สชูค้างคาวอยู่ในเท้าที่ใกล้สูญพันธุ์ในสิงคโปร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมตกเป็น เป็นการกระทำอากาศที่รักษาคุณภาพอากาศถูกนำมาใช้ในปี 1971 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในปี 1975 และปี 1980 โดยกฎระเบียบอากาศที่สะอาด ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสิงคโปร์ตกเป็นของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและหน่วยต่อต้านมลพิษของ มลพิษทางอากาศจากการขนส่งเป็นปัญหาหลักในพื้นที่เขตเมืองที่เพิ่มขึ้นของประเทศ ในปี 1992 สิงคโปร์เป็นหนึ่งใน 50 ประเทศที่มีระดับสูงที่สุดในโลกของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 49,800,000 ตันซึ่งเป็นระดับที่ได้ต่อหัวของ 17.99 เมตริกตัน ในปี 1996 ก็เพิ่มขึ้นเป็น 65,800,000 เมตริกตัน.
น้ำควบคุมมลพิษและการระบายน้ำพระราชบัญญัติที่เกิดขึ้นในปี 1975 และข้อบังคับของน้ำทิ้งจากการค้าปี 1976 ซึ่งควบคุมคุณภาพน้ำ สิงคโปร์ไม่ได้มีน้ำเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของประชาชน ประเทศแทบจะไม่ได้เกี่ยวกับการมี 0.1 ไมล์ลูกบาศก์น้ำ 4% ของมันถูกนำมาใช้เพื่อการเพาะเลี้ยงและ 51% เพื่อการอุตสาหกรรม มลพิษจากอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศที่ยังเป็นปัญหาที่สำคัญและเมืองที่ผลิตประมาณ 0,900,000 ตันของขยะมูลฝอยต่อปี ขณะที่การแก้ปัญหาน้ำเสียปัญหาการขาดแคลนน้ำได้รับการปฏิบัติและนำกลับมาใช้ในการอนุรักษ์แหล่งน้ำ.
สิงคโปร์ได้หายไป 20-30% ของพื้นที่ป่าชายเลนเดิม ในปี 2001 ทั้งสองสายพันธุ์พืชสายพันธุ์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมหกเก้าและนกชนิดได้รับการพิจารณาที่จะตกอยู่ในอันตรายของการสูญเสีย ริดลีย์ใบค้างคาวจมูกนกกระยางจีน, นกกระตั้วหงอนเหลือง, batagur เสือและค้างคาวเกือกม้าใบรอบสิงคโปร์อยู่ในสายพันธุ์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้สูญพันธุ์ในสิงคโปร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิทธิ์ เป็นเครื่องแสดงที่รักษาคุณภาพอากาศถูกประกาศใช้ใน พ.ศ. 2514 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในปี 1975 และ 1980 โดยอากาศสะอาดระเบียบ ความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับสิงคโปร์ตกกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป้องกันมลพิษต่อหน่วย อากาศมลพิษจากการขนส่งเป็นปัญหาหลักของประเทศที่เติบโตในเมืองพื้นที่ ใน ปี 1992สิงคโปร์เป็นหนึ่งใน 50 ประเทศกับโลกสูงสุดระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อุตสาหกรรม ซึ่งรวมทั้งสิ้น 49.8 ล้านตัน ต่อประชากรระดับ 17.99 เมตริกตัน ในปี 1996 มันเพิ่มขึ้น 65.8 ล้านเมตริกตัน
ควบคุมมลพิษน้ำ และการระบายทำให้ในปี 1975 และการค้าและข้อบังคับของ 1976 ซึ่งควบคุมน้ำคุณภาพสิงคโปร์ไม่มีน้ำเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของประชาชน ประเทศแทบไม่มีเรื่องได้ 0.1 ไมล์ ลูกบาศก์น้ำ 4 ) มีการใช้เพื่อการเกษตร และ 51% เพื่อการอุตสาหกรรม . มลพิษจากอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศยังเป็นปัญหาสำคัญ และเมืองของตนผลิตประมาณ 0.9 ล้านตันของขยะต่อปีเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและน้ำเสียการรีไซเคิลเพื่อประหยัดน้ํา .
สิงคโปร์ได้ลด 20 30% ของพื้นที่ป่าชายเลนของต้นฉบับ ในปี 2001 , พืชสองชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 6 ชนิด และนกเก้าชนิด ถือว่าอยู่ในอันตรายของการสูญเสีย ค้างคาว นกยางจีน จมูกริดลีย์ใบสีเหลืองและนกกระตั้ว batagur , เสือ ,และสิงคโปร์รอบใบค้างคาวเกือกม้าในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ในสิงคโปร์