It is possible that distillation wa

It is possible that distillation was practised by the Babylonians in Mesopotamia in the 2nd millennium BC, with perfumes and aromatics being distilled[3] but this is subject to uncertain and disputable interpretation of evidence.[4] The earliest certain chemical distillations were by Greeks in Alexandria in about the 3rd century (AD), but these were not distillations of alcohol. The medieval Arabs adopted the distillation technique of the Alexandrian Greeks, and written records in Arabic begin in the 9th century, but again these were not distillations of alcohol.[4] Distilling technology passed from the medieval Arabs to the medieval Latins, with the earliest records in Latin in the early 12th century.[4][5] The earliest records of the distillation of alcohol are in Italy in the 13th century, where alcohol was distilled from wine.[4] An early description of the technique was given by Ramon Llull (1232 – 1315).[4] Its use spread through medievalmonasteries,[6] largely for medicinal purposes, such as the treatment of colic and smallpox.[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นไปได้ว่าการกลั่นได้รับการปฏิบัติโดยบาบิโลเนียในโสโปเตเมียใน 2 พันปีก่อนคริสต์ศักราชที่มีน้ำหอมและอะโรเมติกถูกกลั่น [3] แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนและการตีความเป็นปัญหาของหลักฐาน. [4] ที่เก่าแก่ที่สุดกลั่นสารเคมีบางคนโดยชาวกรีก ในซานเดรียในประมาณศตวรรษที่ 3 (โฆษณา) แต่เหล่านี้ไม่ได้กลั่นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชาวอาหรับในยุคนำเทคนิคการกลั่นของชาวกรีกกระทิงและมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในภาษาอาหรับเริ่มต้นในศตวรรษที่ 9 แต่อีกครั้งเหล่านี้ไม่ได้กลั่นแอลกอฮอล์. [4] เทคโนโลยีการกลั่นผ่านจากชาวอาหรับในยุคที่จะ Latins ยุคกลางที่เก่าแก่ที่สุดด้วย ระเบียนในละตินในศตวรรษที่ 12 ในช่วงต้นของ[4] [5] บันทึกเก่าแก่ที่สุดของการกลั่นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่ในอิตาลีในศตวรรษที่ 13 ที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกกลั่นจากไวน์ [4] คำอธิบายแรกของเทคนิคได้รับโดย ramon Llull (1232-1315).. [ 4] การใช้งานแพร่กระจายผ่าน medievalmonasteries [6] ส่วนใหญ่เพื่อการรักษาโรคเช่นการรักษาอาการจุกเสียดและไข้ทรพิษ. [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สามารถกลั่นได้ปฏิบัติ โดย Babylonians ใน Mesopotamia ในเนียม 2 BC น้ำหอมและอะโรเมติกส์กำลังกลั่น [3] ว่า แต่นี้มีความไม่แน่นอน และ disputable หลักฐานได้[4] ที่เร็วที่สุด distillations สารเคมีบางอย่างได้ โดยกรีกใน Alexandria ในเกี่ยวกับศตวรรษ 3 (AD), แต่เหล่านี้ไม่ได้ distillations ของแอลกอฮอล์ อาหรับยุคกลางหมายถึงเทคนิคการกลั่นของกรีก Alexandrian และเขียนระเบียนในอาหรับเริ่มต้นในศตวรรษ 9 แต่อีกครั้ง นี้ไม่ distillations ของแอลกอฮอล์[4] Distilling เทคโนโลยีส่งผ่านจากอาหรับยุคกลางได้ไป Latins ยุคกลาง มีระเบียนแรกสุดในละตินในศตวรรษที่ 12 ต้น[4][5] ระเบียนแรกสุดของการกลั่นแอลกอฮอล์ที่อยู่ในอิตาลีในศตวรรษที่ 13 ที่มีกลั่นแอลกอฮอล์จากไวน์[4] คำอธิบายก่อนเทคนิคได้รับ โดย Llull รามอน (1232 – 1315)[4] ใช้แพร่กระจายผ่าน medievalmonasteries, [6] ส่วนใหญ่ประสงค์ยา เช่นรักษาอาการโคลิกมาและไข้ทรพิษ[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นไปได้ว่าการกลั่นเป็นจุดเริ่มต้นของชาวเมโสโปเตเมียในสุดใน 2 ที่พร้อมด้วยบริษัทอะโรเมติกส์และการกลั่นน้ำหอม[ 3 ]แต่นี่เป็นเรื่องการตีความความไม่แน่นอนและเป็นปัญหาของหลักฐาน.[ 4 ] distillations สารเคมีบางอย่างเร็วที่สุดโดยชาวกรีกที่มีใน Alexandria ใน 3 ศตวรรษ( ad )แต่คนเหล่านี้ไม่ distillations ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในยุคกลางที่นำมาใช้กับชาวอาหรับที่กลั่นเทคนิคของ alexandrian ชาวกรีก,และเขียนบันทึกข้อมูลใน ภาษา อารบิกเริ่มใน 9 ศตวรรษที่แต่อีกครั้งนี้ไม่ได้ distillations ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์.[ 4 ]กลั่นเทคโนโลยีผ่านไปจากที่แห่งยุคกลางชาวอาหรับในแบบยุคกลาง latins ,พร้อมด้วยข้อมูลที่เร็วที่สุดในละตินในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 .[ 4 ]:[ 5 ]ข้อมูลบันทึกโดยเร็วที่สุดของการกลั่นแอลกอฮอล์อยู่ในอิตาลีในศตวรรษที่ 13 ที่มีแอลกอฮอล์กลั่นจากไวน์.[ 4 ]รายละเอียดช่วงแรกของเทคนิคที่ได้รับโดยรามอน llull ( 1232 - 1315 )[ 4 ]การใช้แพร่กระจายผ่านทาง medievalmonasteries [ 6 ]เพื่อการใช้งานเป็นยาเช่นการปฏิบัติของไข้ทรพิษและอาการจุกเสียดแบบโคลิค.[ 7 ]