เอกสารระบบควบคุมภายใน (J-SOX) ประกอ

เอกสารระบบควบคุมภายใน (J-SOX)

ประกอบไปด้วย 3 รายการคือ Flowchart, Description, RCM.

​1. Flowchart (แผนผังงาน) เป็นแผนผังงานเป็นแผนผังที่เรียบเรียงและแสดงแต่ละขั้นตอนการปฏิบัติงาน เช่น การเริ่มซื้อขาย อนุมัติ บันทึก ประมวลผล และรายงานโดยใช้ลูกศรเชื่อมโยง อันจะช่วยให้เข้าใจลำดับวงจรการเริ่มซื้อขาย อนุมัติ บันทึก ประมวลผล และรายงานในกระบวนการปฏิบัติงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

4. ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงาน

2. แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการ

3. แสดงชื่อกระบวนการทำงาน

​



1. แสดงแผนกที่เกี่ยวข้องในการทำงานในแต่ละกระบวนการ

7. แสดงจุดที่เกิดความเสี่ยง

9. แสดงการใช้ Computer ในการทำงานในจุดนั้น ๆ

11.แสดงการเชื่อมต่อหน้าถัดไป

8. แสดงจุดที่มีการควบคุมความเสี่ยง

5. แสดงชื่อเอกสารที่ไม่ได้มีการจัดทำจากระบบ (เช่นจาก Excel)

6. แสดงชื่อเอกสารที่มีการจัดทำจากระบบ เช่น จากระบบ As.400

10. แสดงฐานข้อมูล




รายละเอียดในแต่ละหัวข้อ
1. แสดงแผนกที่เกี่ยวข้องในการทำงานแต่ละกระบวนการ คือในหนึ่งกระบวนการอาจจะมีแผนกที่ที่เกี่ยวข้องหลายแผนก ในการรับส่งเอกสารระหว่างกันก็ต้องทำการระบุให้ครบถ้วน
2. แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการ คือ MAP-TH หมายถึง บริษัท มูซาชิออโตพาร์ท จำกัด (ประเทศไทย) ส่วน 07-25-058 เป็นรหัสคุมในกระบวนการ จะเรียงลำดับ โดยแยกเป็นหมวดใหญ่ ๆ เช่น Sales จะขึ้นต้นด้วย 01-XX-XXX เป็นต้น
3. แสดงชื่อกระบวนการในการทำงาน โดยระบุให้เห็นชัดเจนว่าในกระบวนการดังกล่าวเป็นการทำงานเกี่ยวกับเรื่องใด หมวดงานใด และในจุดใด
4. ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงาน ให้เขียนในแบบสั้น ๆ ให้เข้าใจ, ให้ใส่เพียงการทำงานในขั้นตอนเดียวห้ามรวมขั้นตอนการทำงานไว้ด้วยกัน และใส่ผู้รับผิดชอบไว้ในวงเล็บด้านล่างของข้อความ
5. สัญลักษณ์แสดงว่าเป็นการจัดทำเอกสารแบบ Manual รวมถึงการจัดทำโดยใช้ Ms-Excel. หรือเป็นรูปแบบเอกสารในรูปแบบกระดาษที่รับมาจากบริษัทภายนอก
6. สัญลักษณ์แสดงว่าเป็นการจัดทำเอกสารที่แสดงผลข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ที่รายงานออกมาเป็นรูปแบบกระดาษ
7. สัญลักษณ์แสดงในจุดที่เกิดความเสี่ยง (ใช้วงรีสีแดง มีอักษร R และตามด้วยลำดับหมายเลข)
8. สัญลักษณ์แสดงในจุดที่มีการควบคุม (ใช้วงรีสีเหลือ มีอักษร C และตามด้วยลำดับหมายเลข)
9. สัญลักษณ์การทำงานโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ในการบันทึกข้อมูลเข้าระบบ หรือออกรายงานข้อมูลจากระบบ
10. สัญลักษณ์แสดงฐานข้อมูลที่การทำงานในเครื่องคอมพิวเตอร์ และจุดที่เก็บข้อมูลดังกล่าว
11. สัญลักษณ์แสดงการเชื่อมต่อของข้อมูลระหว่างหน้าปัจจุบัน และหน้าถัดไป

Flowchart พอก่อน เข้าใจนะ เดี๋ยวไปต่อ...













2. Description (เอกสารแสดงหน้าที่งาน) เอกสารแสดงหน้าที่งานเป็นเอกสารที่เขียนลำดับการปฏิบัติงานออกมาเป็นข้อความเสริมแผนผังงาน จะกล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่ละประเภทที่ไม่แสดงในแผนผังงานได้ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจลำดับวงจรกระบวนการปฏิบัติงานที่เป็นเป้าหมาย

4.รายละเอียดงาน

3. ช่วงเวลาของการทำงาน

2. ขั้นตอนการทำงาน

1. ลำดับที่ของงาน




รายละเอียดในแต่ละหัวข้อ
​1. ลำดับที่ของงาน คือลำดับที่ขั้นตอนในการทำงาน จะต้องตรงกับรายการใน Flowchart
​2. ขั้นตอนการทำงาน คือลำดับที่ของขั้นตอนในการทำงาน จะตรงตาม Flowchart
​3. ช่วงเวลาของการทำงาน คือต้องให้เข้าใจก่อนว่างานในจุดที่ปฏิบัตินั้นมีความถี่ในการทำงานเป็นอย่างไร เช่น ประจำเดือน คือทำเดือนละครั้ง หรือประจำปี คือทำปีละครั้ง เป็นต้น
​4. รายละเอียดของงาน คือ คำอธิบายในหัวข้อที่ 2 โดยจะอธิบายโดยละเอียดว่างานที่ทำนั้น ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร มีเอกสารอะไรเกี่ยวข้องบ้าง ไว้อย่างละเอียด

จบและ Description เป็นอย่างไร รบกวนอ่านต่อนะ...


3. ผู้รับผิดชอบ
3. Rick Control Matrix (RCM) ตาราง Risk Control Matrix (RCM) เป็นรายการจับคู่ความสัมพันธ์โดยจะคัดเลือกความเสี่ยงและการควบคุมที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานเพื่อชี้ให้เห็นว่าในจุดที่เกิดความเสี่ยงได้มีการควบคุมเรียบร้อยแล้ว และในทางกลับกันในจุดที่มีความเสี่ยงแต่ยังไม่มีการควบคุม ก็ต้องมีการหาวิธีการในการปฏิบัติงานที่จะมาควบคุมความเสี่ยงนั้น

2. การควบคุม

1. ความเสี่ยง



6.การควบคุมหลัก

5.การควบคุมประเภทที่ 2

4.การควบคุมประเภทที่ 1

การควบคุม


รายละเอียดในแต่ละหัวข้อ
​1. ความเสี่ยง R คือ Risk = ความเสี่ยง จะเขียนด้วย R และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับ และตามด้วยรายละเอียดของความเสี่ยงที่เกิดขึ้น โดยต้องระบุให้ชัดเจนว่าเสี่ยงอย่างไร ที่ใด ทำให้เกิดผลกระทบอะไร
​2. การควบคุม C คือ Control = การควบคุม จะเขียนด้วย C และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับ และตามด้วยรายละเอียดของการควบคุมในจุดนั้น ๆ โดยระบุให้ชัดเจนว่ามีการปฏิบัติอย่างไรจึงสามารถเป็นการป้องกันความเสี่ยงในจุดนั้นได้
​3. ผู้รับผิดชอบ คือ เป็นผู้ปฏิบัติงานในจุดที่เป็นการควบคุมนั้น ๆ
​4. การควบคุมประเภทที่ 1 เป็นการอธิบายว่าในการควบคุมนั้นเป็นแบบ Manual หรือ อัตโนมัติ เช่นบอกว่าผู้จัดการแผนกมีการตรวจสอบเอกสาร ก็ถือว่าเป็นแบบ Manual แต่ถ้าบอกว่าถ้าป้อนวันที่ผิดงวดระบบจะขึ้นข้อความเตือน ก็ถือว่าเป็นแบบอัตโนมัติ
​5. การควบคุมประเภทที่ 2 เป็นการอธิบายเสริมอีกว่าในการควบคุมที่กระทำนั้นเป็นแบบป้องกันหรือค้นพบ ถ้าอธิบายต่อจากข้อ 4 ก็คือถ้าเป็นการตรวจสอบเอกสารก็ถือว่าเป็นการควบคุมแบบค้นพบ แต่ถ้าเป็นการที่ระบบมีข้อความเตือนถ้าบันทึกผิดก็ถือเป็นการป้องกัน
​6. การควบคุมหลัก คือ สำหรับความเสี่ยงหนึ่งเรื่องอย่างน้อยต้องมีการควบคุมหนึ่งหัวข้อ ก็จะถือว่าเป็นการควบคุมหลัก แต่ถ้าในบางความเสี่ยงที่มีการควบคุมหลายข้อ ก็ให้เลือกหัวข้อของการควบคุมที่ถือว่าสำคัญที่สุดเป็นการควบคุมหลัก และการควบคุมหลักก็เป็นหัวข้อที่จะใช้ในการประเมินของผู้ตรวจสอบด้วย

Risk and Control Matrix ก็จบเหมือนกัน เป็นอย่างไร...


​สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติงานให้เข้ากับระบบควบคุมภายใน (J-SOX) คือ
1. ผู้ปฏิบัติงานต้องรับทราบว่าตัวเราเองเกี่ยวข้องกับระบบควบคุมภายใน (J-SOX) ในกระบวนการใดบ้าง ให้ทำการศึกษาเอกสารทั้งสามอย่าง คือ 1. Flowchart 2. Description 3. RCM. ให้เข้าใจอย่างละเอียดในทุกขั้นตอนว่าตรงกับงานประจำวันที่ปฏิบัติอยู่หรือไม่
- ถ้าตรงกับการปฏิบัติที่ทำอยู่ก็ขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป
- ถ้าไม่ตรง ให้ผู้รับผิดชอบในจุดนั้น ๆ ทำการติดต่อกับทางผู้รับผิดชอบในการจัดทำเอกสารระบบควบคุมภายใน (J-SOX) เพื่อหาวิธีการใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอกสารระบบควบคุมภายใน (เจท่าน)ประกอบไปด้วย 3 รายการคือแผนผังลำดับงาน คำอธิบาย RCM1. แผนผังลำดับงาน (แผนผังงาน) เป็นแผนผังงานเป็นแผนผังที่เรียบเรียงและแสดงแต่ละขั้นตอนการปฏิบัติงานเช่นการเริ่มซื้อขายอนุมัติบันทึกประมวลผลและรายงานโดยใช้ลูกศรเชื่อมโยงอันจะช่วยให้เข้าใจลำดับวงจรการเริ่มซื้อขายอนุมัติบันทึกประมวลผลและรายงานในกระบวนการปฏิบัติงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น4. ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงาน2. แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการ3. แสดงชื่อกระบวนการทำงาน​1. แสดงแผนกที่เกี่ยวข้องในการทำงานในแต่ละกระบวนการ7. แสดงจุดที่เกิดความเสี่ยง9. แสดงการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานในจุดนั้นๆ11.แสดงการเชื่อมต่อหน้าถัดไป8. แสดงจุดที่มีการควบคุมความเสี่ยง5. แสดงชื่อเอกสารที่ไม่ได้มีการจัดทำจากระบบ (เช่นจาก Excel)6. แสดงชื่อเอกสารที่มีการจัดทำจากระบบเช่นจากระบบ As.40010. แสดงฐานข้อมูลรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ1. แสดงแผนกที่เกี่ยวข้องในการทำงานแต่ละกระบวนการคือในหนึ่งกระบวนการอาจจะมีแผนกที่ที่เกี่ยวข้องหลายแผนกในการรับส่งเอกสารระหว่างกันก็ต้องทำการระบุให้ครบถ้วน2. แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการคือแผนที่ TH หมายถึงบริษัทมูซาชิออโตพาร์ท(ไรประเทศไทย) จำกัดส่วน 07-25-058 เป็นรหัสคุมในกระบวนการจะเรียงลำดับโดยแยกเป็นหมวดใหญ่ๆ เช่นจะขึ้นต้นด้วยขาย 01-XX-XXX เป็นต้น3. แสดงชื่อกระบวนการในการทำงานโดยระบุให้เห็นชัดเจนว่าในกระบวนการดังกล่าวเป็นการทำงานเกี่ยวกับเรื่องใดหมวดงานใดและในจุดใด4. ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงานให้เขียนในแบบสั้นๆ ให้เข้าใจ ให้ใส่เพียงการทำงานในขั้นตอนเดียวห้ามรวมขั้นตอนการทำงานไว้ด้วยกันและใส่ผู้รับผิดชอบไว้ในวงเล็บด้านล่างของข้อความ5. สัญลักษณ์แสดงว่าเป็นการจัดทำเอกสารแบบรวมถึงการจัดทำโดยใช้คู่มือ Ms-Excel หรือเป็นรูปแบบเอกสารในรูปแบบกระดาษที่รับมาจากบริษัทภายนอก6. สัญลักษณ์แสดงว่าเป็นการจัดทำเอกสารที่แสดงผลข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ที่รายงานออกมาเป็นรูปแบบกระดาษ7. สัญลักษณ์แสดงในจุดที่เกิดความเสี่ยง (ใช้วงรีสีแดงมีอักษร R และตามด้วยลำดับหมายเลข)8. สัญลักษณ์แสดงในจุดที่มีการควบคุม (ใช้วงรีสีเหลือมีอักษร C และตามด้วยลำดับหมายเลข)9. สัญลักษณ์การทำงานโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการบันทึกข้อมูลเข้าระบบหรือออกรายงานข้อมูลจากระบบ10. สัญลักษณ์แสดงฐานข้อมูลที่การทำงานในเครื่องคอมพิวเตอร์และจุดที่เก็บข้อมูลดังกล่าว11. สัญลักษณ์แสดงการเชื่อมต่อของข้อมูลระหว่างหน้าปัจจุบันและหน้าถัดไปแผนผังลำดับงานพอก่อนเข้าใจนะเดี๋ยวไปต่อ...2. คำอธิบาย (เอกสารแสดงหน้าที่งาน) เอกสารแสดงหน้าที่งานเป็นเอกสารที่เขียนลำดับการปฏิบัติงานออกมาเป็นข้อความเสริมแผนผังงานจะกล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่ละประเภทที่ไม่แสดงในแผนผังงานได้ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจลำดับวงจรกระบวนการปฏิบัติงานที่เป็นเป้าหมาย4.รายละเอียดงาน3. ช่วงเวลาของการทำงาน2. ขั้นตอนการทำงาน1. ลำดับที่ของงานรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ1. ลำดับที่ของงานคือลำดับที่ขั้นตอนในการทำงานจะต้องตรงกับรายการในแผนผังลำดับงาน2. ขั้นตอนการทำงานคือลำดับที่ของขั้นตอนในการทำงานจะตรงตามแผนผังลำดับงาน3. ช่วงเวลาของการทำงานคือต้องให้เข้าใจก่อนว่างานในจุดที่ปฏิบัตินั้นมีความถี่ในการทำงานเป็นอย่างไรเช่นประจำเดือนคือทำเดือนละครั้งหรือประจำปีคือทำปีละครั้งเป็นต้น4. รายละเอียดของงานคือคำอธิบายในหัวข้อที่ 2 โดยจะอธิบายโดยละเอียดว่างานที่ทำนั้นทำอะไรที่ไหนอย่างไรมีเอกสารอะไรเกี่ยวข้องบ้างไว้อย่างละเอียดจบและอธิบายเป็นอย่างไรรบกวนอ่านต่อนะ...3. ผู้รับผิดชอบ3. ความเสี่ยงตารางเมตริกซ์ (RCM) ริคควบคุมควบคุมเมทริกซ์ (RCM) เป็นรายการจับคู่ความสัมพันธ์โดยจะคัดเลือกความเสี่ยงและการควบคุมที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานเพื่อชี้ให้เห็นว่าในจุดที่เกิดความเสี่ยงได้มีการควบคุมเรียบร้อยแล้วและในทางกลับกันในจุดที่มีความเสี่ยงแต่ยังไม่มีการควบคุมก็ต้องมีการหาวิธีการในการปฏิบัติงานที่จะมาควบคุมความเสี่ยงนั้น2. การควบคุม1. ความเสี่ยง6.การควบคุมหลัก5.การควบคุมประเภทที่ 24.การควบคุมประเภทที่ 1การควบคุมรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ1. ความเสี่ยงคือ R ความเสี่ยง =ความเสี่ยงจะเขียนด้วย R และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับและตามด้วยรายละเอียดของความเสี่ยงที่เกิดขึ้นโดยต้องระบุให้ชัดเจนว่าเสี่ยงอย่างไรที่ใดทำให้เกิดผลกระทบอะไร2. การควบคุม C คือควบคุม =การควบคุมจะเขียนด้วย C และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับและตามด้วยรายละเอียดของการควบคุมในจุดนั้นๆ โดยระบุให้ชัดเจนว่ามีการปฏิบัติอย่างไรจึงสามารถเป็นการป้องกันความเสี่ยงในจุดนั้นได้3. ผู้รับผิดชอบคือเป็นผู้ปฏิบัติงานในจุดที่เป็นการควบคุมนั้นๆ4. การควบคุมประเภทที่ 1 เป็นการอธิบายว่าในการควบคุมนั้นเป็นแบบด้วยตนเองหรืออัตโนมัติเช่นบอกว่าผู้จัดการแผนกมีการตรวจสอบเอกสารก็ถือว่าเป็นแบบด้วยตนเองแต่ถ้าบอกว่าถ้าป้อนวันที่ผิดงวดระบบจะขึ้นข้อความเตือนก็ถือว่าเป็นแบบอัตโนมัติ5. การควบคุมประเภทที่ 2 เป็นการอธิบายเสริมอีกว่าในการควบคุมที่กระทำนั้นเป็นแบบป้องกันหรือค้นพบถ้าอธิบายต่อจากข้อ 4 ก็คือถ้าเป็นการตรวจสอบเอกสารก็ถือว่าเป็นการควบคุมแบบค้นพบแต่ถ้าเป็นการที่ระบบมีข้อความเตือนถ้าบันทึกผิดก็ถือเป็นการป้องกัน6. การควบคุมหลักคือสำหรับความเสี่ยงหนึ่งเรื่องอย่างน้อยต้องมีการควบคุมหนึ่งหัวข้อก็จะถือว่าเป็นการควบคุมหลักแต่ถ้าในบางความเสี่ยงที่มีการควบคุมหลายข้อก็ให้เลือกหัวข้อของการควบคุมที่ถือว่าสำคัญที่สุดเป็นการควบคุมหลักและการควบคุมหลักก็เป็นหัวข้อที่จะใช้ในการประเมินของผู้ตรวจสอบด้วยความเสี่ยงและเมทริกซ์ตัวควบคุมเป็นอย่างไร... ก็จบเหมือนกันสำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติงานให้เข้ากับระบบควบคุมภายใน (เจท่าน) คือ1. ผู้ปฏิบัติงานต้องรับทราบว่าตัวเราเองเกี่ยวข้องกับระบบควบคุมภายใน (เจท่าน) ในกระบวนการใดบ้างให้ทำการศึกษาเอกสารทั้งสามอย่างคือ 1 แผนผังลำดับงาน 2 คำอธิบาย 3 RCM ให้เข้าใจอย่างละเอียดในทุกขั้นตอนว่าตรงกับงานประจำวันที่ปฏิบัติอยู่หรือไม่-ถ้าตรงกับการปฏิบัติที่ทำอยู่ก็ขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป-เพื่อหาวิธีการในถ้าไม่ตรงให้ผู้รับผิดชอบในจุดนั้นๆ ทำการติดต่อกับทางผู้รับผิดชอบในการจัดทำเอกสารระบบควบคุมภายใน (เจท่าน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เอกสารระบบควบคุมภายใน (J-SOX) ประกอบไปด้วย 3 รายการคือผัง, คำอธิบาย, RCM. 1 ผัง (แผนผังงาน) เช่นการเริ่มซื้อขายอนุมัติบันทึกประมวลผลและรายงานโดยใช้ลูกศรเชื่อมโยง อนุมัติบันทึกประมวลผล ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงาน2 แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการ3 แสดงชื่อกระบวนการทำงาน1 แสดงจุดที่เกิดความเสี่ยง9 แสดงการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานในจุดนั้น ๆ11. แสดงการเชื่อมต่อหน้าถัดไป8 แสดงจุดที่มีการควบคุมความเสี่ยง5 (เช่นจาก Excel) 6 เช่นจากระบบ As.400 10 แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการคือ MAP-TH หมายถึง บริษัท มูซาชิออโตพาร์ท จำกัด (ประเทศไทย) ส่วน 07-25-058 เป็นรหัสคุมในกระบวนการจะเรียงลำดับโดยแยกเป็นหมวดใหญ่ ๆ เช่นการขายจะขึ้นต้นด้วย 01-XX-XXX เป็นต้น3 แสดงชื่อกระบวนการในการทำงาน หมวดงานใดและในจุดใด4 ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงานให้เขียนในแบบสั้น ๆ ให้เข้าใจ, คู่มือการใช้งานรวมถึงการจัดทำโดยใช้ MS-Excel (ใช้วงรีสีแดงมีอักษร R และตามด้วยลำดับหมายเลข) 8 สัญลักษณ์แสดงในจุดที่มีการควบคุม (ใช้วงรีสีเหลือมีอักษร C และตามด้วยลำดับหมายเลข) 9 ในการบันทึกข้อมูลเข้าระบบหรือออกรายงานข้อมูลจากระบบ10 และจุดที่เก็บข้อมูลดังกล่าว11 และหน้าถัดไปผังพอก่อนเข้าใจนะเดี๋ยวไปต่อ ... 2 คำอธิบาย (เอกสารแสดงหน้าที่งาน) ช่วงเวลาของการทำงาน2 ขั้นตอนการทำงาน1 ลำดับที่ของงานคือลำดับที่ขั้นตอนในการทำงานจะต้องตรงกับรายการในผัง2 ขั้นตอนการทำงานคือลำดับที่ของขั้นตอนในการทำงานจะตรงตามผัง3 ช่วงเวลาของการทำงาน เช่นประจำเดือนคือทำเดือนละครั้งหรือประจำปีคือทำปีละครั้งเป็นต้น4 รายละเอียดของงานคือคำอธิบายในหัวข้อที่ 2 ทำอะไรที่ไหนอย่างไรมีเอกสารอะไรบ้างเกี่ยวข้องไว้อย่างละเอียดและจบรายละเอียดเป็นอย่างไรรบกวนอ่านต่อนะ ... 3 ผู้รับผิดชอบ3 ริกควบคุมเมทริกซ์ (RCM) ตาราง Matrix ควบคุมความเสี่ยง (RCM) การควบคุม1 2 4. การควบคุมประเภทที่ ความเสี่ยงคือความเสี่ยง R = ความเสี่ยงจะเขียนด้วย R และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับ ที่ใดทำให้เกิดผลกระทบอะไร2 การควบคุม C คือการควบคุม = การควบคุมจะเขียนด้วย C และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับ ๆ ผู้รับผิดชอบคือ ๆ4 การควบคุมประเภทที่ 1 คู่มือการใช้งานหรืออัตโนมัติ ก็ถือว่าเป็นแบบแมนนวล ก็ถือว่าเป็นแบบอัตโนมัติ5 การควบคุมประเภทที่ 2 ถ้าอธิบายต่อจากข้อ 4 การควบคุมหลักคือ ก็จะถือว่าเป็นการควบคุมหลัก และการควบคุมเมทริกซ์ก็จบเหมือนกัน (J-SOX) คือ1 (J-SOX) ในกระบวนการใดบ้างให้ทำการศึกษาเอกสารทั้งสามอย่างคือ 1. ผัง 2. คำอธิบาย 3. RCM ถ้าไม่ตรงให้ผู้รับผิดชอบในจุดนั้น ๆ (J-SOX) เพื่อหาวิธีการใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอกสารระบบควบคุมภายใน ( j-sox )

ประกอบไปด้วย 3 รายการคือ Flowchart อธิบายจำนวน

​ 1ผังงาน ( แผนผังงาน ) เป็นแผนผังงานเป็นแผนผังที่เรียบเรียงและแสดงแต่ละขั้นตอนการปฏิบัติงานเช่นการเริ่มซื้อขายอนุมัติบันทึกประมวลผลและรายงานโดยใช้ลูกศรเชื่อมโยงอันจะช่วยให้เข้าใจลำดับวงจรการเริ่มซื้อขายบันทึกประมวลผลและรายงานในกระบวนการปฏิบัติงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

4 ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงาน

2 แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการ

3 ​แสดงชื่อกระบวนการทำงาน





1 แสดงแผนกที่เกี่ยวข้องในการทำงานในแต่ละกระบวนการ

7 แสดงจุดที่เกิดความเสี่ยง

9 แสดงการใช้ในการทำงานในจุดนั้น

ไม่มีคอมพิวเตอร์11 . แสดงการเชื่อมต่อหน้าถัดไป

8 แสดงจุดที่มีการควบคุมความเสี่ยง

5 แสดงชื่อเอกสารที่ไม่ได้มีการจัดทำจากระบบ ( เช่นจาก Excel )

6 แสดงชื่อเอกสารที่มีการจัดทำจากระบบเช่นจากระบบ . 400

10 แสดงฐานข้อมูล




รายละเอียดในแต่ละหัวข้อ
1 แสดงแผนกที่เกี่ยวข้องในการทำงานแต่ละกระบวนการคือในหนึ่งกระบวนการอาจจะมีแผนกที่ที่เกี่ยวข้องหลายแผนกในการรับส่งเอกสารระหว่างกันก็ต้องทำการระบุให้ครบถ้วน
2แสดงรหัสคุมในแต่ละกระบวนการความ map-th หมายถึงบริษัทมูซาชิออโตพาร์ทจำกัด ( ประเทศไทย ) ส่วน 07-25-058 เป็นรหัสคุมในกระบวนการขายจะเรียงลำดับโดยแยกเป็นหมวดใหญ่จะเช่นจะขึ้นต้นด้วย 01-xx-xxx เป็นต้น
3แสดงชื่อกระบวนการในการทำงานโดยระบุให้เห็นชัดเจนว่าในกระบวนการดังกล่าวเป็นการทำงานเกี่ยวกับเรื่องใดหมวดงานใดและในจุดใด
4 ชื่อขั้นตอนการปฏิบัติงานจะให้เข้าใจให้เขียนในแบบสั้น ,ให้ใส่เพียงการทำงานในขั้นตอนเดียวห้ามรวมขั้นตอนการทำงานไว้ด้วยกันและใส่ผู้รับผิดชอบไว้ในวงเล็บด้านล่างของข้อความ
5 สัญลักษณ์แสดงว่าเป็นการจัดทำเอกสารแบบคู่มือรวมถึงการจัดทำโดยใช้ MS Excelหรือเป็นรูปแบบเอกสารในรูปแบบกระดาษที่รับมาจากบริษัทภายนอก
6 สัญลักษณ์แสดงว่าเป็นการจัดทำเอกสารที่แสดงผลข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ที่รายงานออกมาเป็นรูปแบบกระดาษ
7สัญลักษณ์แสดงในจุดที่เกิดความเสี่ยง ( ใช้วงรีสีแดงมีอักษร R และตามด้วยลำดับหมายเลข )
8 สัญลักษณ์แสดงในจุดที่มีการควบคุม ( ใช้วงรีสีเหลือมีอักษร C และตามด้วยลำดับหมายเลข )
9สัญลักษณ์การทำงานโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการบันทึกข้อมูลเข้าระบบหรือออกรายงานข้อมูลจากระบบ
10 สัญลักษณ์แสดงฐานข้อมูลที่การทำงานในเครื่องคอมพิวเตอร์และจุดที่เก็บข้อมูลดังกล่าว
11สัญลักษณ์แสดงการเชื่อมต่อของข้อมูลระหว่างหน้าปัจจุบันและหน้าถัดไปผังพอก่อนเข้าใจนะเดี๋ยวไปต่อ

. . .













2รายละเอียด ( เอกสารแสดงหน้าที่งาน ) เอกสารแสดงหน้าที่งานเป็นเอกสารที่เขียนลำดับการปฏิบัติงานออกมาเป็นข้อความเสริมแผนผังงานจะกล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่ละประเภทที่ไม่แสดงในแผนผังงานได้
4 รายละเอียดงาน

3 ช่วงเวลาของการทำงาน

2 ขั้นตอนการทำงาน

1 ลำดับที่ของงาน





รายละเอียดในแต่ละหัวข้อ​ 1 ลำดับที่ของงานคือลำดับที่ขั้นตอนในการทำงานจะต้องตรงกับรายการในผังงาน
​ 2ขั้นตอนการทำงานคือลำดับที่ของขั้นตอนในการทำงานจะตรงตามผังงาน
​ 3ช่วงเวลาของการทำงานคือต้องให้เข้าใจก่อนว่างานในจุดที่ปฏิบัตินั้นมีความถี่ในการทำงานเป็นอย่างไรเช่นประจำเดือนคือทำเดือนละครั้งหรือประจำปีคือทำปีละครั้งเป็นต้น
​ 4รายละเอียดของงานความคำอธิบายในหัวข้อที่ 2 โดยจะอธิบายโดยละเอียดว่างานที่ทำนั้นทำอะไรที่ไหนอย่างไรมีเอกสารอะไรเกี่ยวข้องบ้างไว้อย่างละเอียด

จบและรายละเอียดเป็นอย่างไรรบกวนอ่านต่อนะ . . . . . . .


3 ผู้รับผิดชอบ
3เมทริคควบคุม ( จำนวน ) เมทริกซ์ตารางควบคุมความเสี่ยง ( จำนวน ) เป็นรายการจับคู่ความสัมพันธ์โดยจะคัดเลือกความเสี่ยงและการควบคุมที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานเพื่อชี้ให้เห็นว่าในจุดที่เกิดความเสี่ยงได้มีการควบคุมเรียบร้อยแล้วก็ต้องมีการหาวิธีการในการปฏิบัติงานที่จะมาควบคุมความเสี่ยงนั้น

2 . การควบคุม

1 ความเสี่ยง



6 การควบคุมหลัก

5 . การควบคุมประเภทที่ 2

4 . การควบคุมประเภทที่ 1





การควบคุมรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ​ 1ความเสี่ยง R ความเสี่ยง = ความเสี่ยงจะเขียนด้วย R และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับและตามด้วยรายละเอียดของความเสี่ยงที่เกิดขึ้นโดยต้องระบุให้ชัดเจนว่าเสี่ยงอย่างไรที่ใดทำให้เกิดผลกระทบอะไร
​ 2การควบคุม C ความควบคุม = การควบคุมจะเขียนด้วย C และตามด้วยลำดับที่เรียงตามลำดับและตามด้วยรายละเอียดของการควบคุมในจุดนั้นจะโดยระบุให้ชัดเจนว่ามีการปฏิบัติอย่างไรจึงสามารถเป็นการป้องกันความเสี่ยงในจุดนั้นได้
​ 3 ผู้รับผิดชอบความเป็นผู้ปฏิบัติงานในจุดที่เป็นการควบคุมนั้นไม่มี
​ 4การควบคุมประเภทที่คู่มือ 1 เป็นการอธิบายว่าในการควบคุมนั้นเป็นแบบค็อคอัตโนมัติเช่นบอกว่าผู้จัดการแผนกมีการตรวจสอบเอกสารก็ถือว่าเป็นแบบแต่ถ้าบอกว่าถ้าป้อนวันที่ผิดงวดระบบจะขึ้นข้อความเตือนคู่มือ​ 5การควบคุมประเภทที่ 2 เป็นการอธิบายเสริมอีกว่าในการควบคุมที่กระทำนั้นเป็นแบบป้องกันหรือค้นพบถ้าอธิบายต่อจากข้อ 4 ก็คือถ้าเป็นการตรวจสอบเอกสารก็ถือว่าเป็นการควบคุมแบบค้นพบ​ 6การควบคุมหลักความสำหรับความเสี่ยงหนึ่งเรื่องอย่างน้อยต้องมีการควบคุมหนึ่งหัวข้อก็จะถือว่าเป็นการควบคุมหลักแต่ถ้าในบางความเสี่ยงที่มีการควบคุมหลายข้อและการควบคุมหลักก็เป็นหัวข้อที่จะใช้ในการประเมินของผู้ตรวจสอบด้วย

ความเสี่ยงและการควบคุมเมทริกซ์ก็จบเหมือนกันเป็นอย่างไร . . . . . . .


​สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติงานให้เข้ากับระบบควบคุมภายใน ( j-sox ) ความ
1ผู้ปฏิบัติงานต้องรับทราบว่าตัวเราเองเกี่ยวข้องกับระบบควบคุมภายใน ( j-sox ) ในกระบวนการใดบ้างให้ทำการศึกษาเอกสารทั้งสามอย่างความ 1 ผังงาน 2 รายละเอียด 3 . จำนวน .ให้เข้าใจอย่างละเอียดในทุกขั้นตอนว่าตรงกับงานประจำวันที่ปฏิบัติอยู่หรือไม่
-
ถ้าตรงกับการปฏิบัติที่ทำอยู่ก็ขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป- ถ้าไม่ตรงให้ผู้รับผิดชอบในจุดนั้นจะทำการติดต่อกับทางผู้รับผิดชอบในการจัดทำเอกสารระบบควบคุมภายใน ( j-sox ) เพื่อหาวิธีการใน