ข้อแนะนำในการเลือกใช้บริการสปาปลา
1. ควรอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ
2. แหล่งน้ำต้องมีแร่ธาตุสำคัญในการบำบัดผิว
3. มีแสงแดดแสงอัลตราไวโอเลตในระดับที่เหมาะสม
โรคเสี่ยงจากสปาปลาที่ขาดสุขอนามัย
- การแช่รวมกันหลายๆคน ทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อโรค เช่น เชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย ได้ง่าย โดยมีน้ำเป็นตัวนำพา ซึ่งโรคนั้นเรียกว่า วัณโรคเทียม เป็นโรคที่ไม่ติดต่อระหว่างคนต่อคน เหมือนกับวัณโรคปอด ยกเว้นมีแผล เป็นโรคที่ทนต่อคลอรีน ทำให้เกิดแผลบริเวณผิวหนัง ตุ่มหนอง เรื้อรังไม่หาย ดังนั้นก่อนใช้บริการ ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่ามีแผลที่เท้าหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคผ่านเข้าไปได้
ในประเทศไทยมีการนำปลาหมอสี มาใช้ในการให้บริการด้านการทำสปาปลาเช่นกัน ซึ่งความแตกต่างระหว่างปลาการา รูฟา จากประเทศญี่ปุ่น กับปลาหมอสีของประเทศไทยนั้นอยู่ที่การบำบัดให้บริการ ปลาหมอสีจะบำบัดทุกส่วนของร่างกาย แต่ปลาการารูฟาจะบำบัดเฉพาะที่เท้าเท่านั้น และในด้านลักษณะทางกายภาพของตัวปลา ปลาหมอสีนั้นจะโตเร็วมาก ทำให้ต้องหาพันธุ์ปลามาทดแทนตัวเก่าตลอดเวลาเนื่องจากไม่สามารถใช้ปลาที่มีขนาดของตัวใหญ่มาทำการเกาะและดูดที่ผิวหนังของมนุษย์ได้เพราะจะทำให้เกิดแผลและเลือดออกมาก และจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่การใช้ปลาการา รูฟา นั้นมีข้อดีตรงที่ปลาจะเจริญเติบโตเต็มที่ในขนาดของลำตัวที่ 7 เซนติเมตรเท่านั้นภายในระยะเวลา 7 ปี และไม่เป็นขนาดที่ใหญ่จนเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์ในการเลือกใช้เพื่อดูแลรักษาสภาพผิว