The question that originally inspir

The question that originally inspired this thesis was: which sector is best at social
innovation? I asked this question after reviewing information about the new Social
Innovation Fund grant program administered by the Corporation for National and
Community Service, a federal agency. (The organization I work for considered applying.)
The most interesting requirement to me was that it required the applicant to be a grantmaking
nonprofit or foundation, with a commitment from a foundation or the private
sector to match 100% of government funding. This implies that the Obama
Administration thinks that nonprofits are the best source of innovation, and that the role
both the government and the private sector should play is that of funder.
That got me thinking… are nonprofits really the best source of social innovation?
Shouldn’t the government and the private sector be doing more to solve problems
through social innovation besides throwing money at others’ innovation? Clearly, the
public and private sectors are just as influential, if not more so, than nonprofits and
individuals. The government can legislate an innovation into existence; the private sector
can easily harness the power of the market to spread an innovation. It seems governments
and the private sector have let themselves off the hook for social innovation. Both
government and business will continue to do good, of course, but let the truly innovative
ideas and new solutions from the nonprofit sector

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำถามที่วิทยานิพนธ์นี้เป็นแรงบันดาลใจแรก เป็น: ภาคที่ดีสุดในสังคมนวัตกรรมหรือไม่ ถามคำถามนี้หลังจากการทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับสังคมใหม่โปรแกรมที่จัดการ โดยบริษัทสำหรับแห่งชาติให้กองทุนนวัตกรรม และบริการชุมชน หน่วยงานของรัฐบาลกลาง (องค์กรที่ทำงานสำหรับถือว่าใช้)ความน่าสนใจให้ฉันเป็นที่มันกำหนดผู้สมัครต้อง เป็น grantmakingไม่แสวงผลกำไร หรือ มูลนิธิ มาจากรากฐานหรือส่วนตัวภาคตรงกับ 100% ของทุนรัฐบาล นี้หมายถึงการที่ Obamaบริหารคิด nonprofits แหล่งที่มาของนวัตกรรม และที่สุดบทบาทรัฐบาลและภาคเอกชนควรเล่นคือฟันเดอร์ที่มีฉันคิด...เป็น nonprofits จริงต้นดีที่สุดของนวัตกรรมทางสังคมไม่ควรที่รัฐบาลและภาคเอกชนสามารถทำเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาผ่านนวัตกรรมสังคมนอกจากโยนเงินที่นวัตกรรมของคนอื่นหรือไม่ ชัดเจน การภาครัฐและเอกชนมีเพียงว่ามีอิทธิพล ถ้าไม่เช่นนั้น กว่า nonprofits และคน รัฐบาลสามารถ legislate นวัตกรรมใหม่ในการดำรงอยู่ ภาคเอกชนสามารถเดินพลังของตลาดแพร่กระจายนวัตกรรมใหม่ เหมือนรัฐบาลและภาคเอกชนจะให้ตัวเองออกจากเบ็ดนวัตกรรมสังคม ทั้งสองอย่างธุรกิจและรัฐบาลยังคงทำ แน่นอน แต่ให้เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างแท้จริงความคิดเห็นและวิธีแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ จากภาคต่าง ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำถามที่ได้แรงบันดาลใจมา แต่เดิมวิทยานิพนธ์ฉบับนี้คือ:
ซึ่งเป็นภาคที่ดีที่สุดในสังคมนวัตกรรม? ผมถามคำถามนี้หลังจากตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสังคมใหม่กองทุนนวัตกรรมโครงการมอบทุนการบริหารงานโดย บริษัท แห่งชาติและบริการชุมชนเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลาง (องค์การผมทำงานพิจารณาการใช้.) ความต้องการที่น่าสนใจที่สุดของผมก็คือว่ามันจำเป็นต้องมีผู้สมัครที่จะเป็น grantmaking ที่ไม่แสวงหากำไรหรือมูลนิธิที่มีความมุ่งมั่นจากรากฐานหรือภาคเอกชนภาคเพื่อให้ตรงกับ 100% ของเงินทุนของรัฐบาล นี่ก็หมายความว่าโอบามาบริหารคิดว่าไม่หวังผลกำไรเป็นแหล่งที่ดีที่สุดของนวัตกรรมและว่าบทบาททั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรจะเล่นเป็นที่ของfunder. ที่มีฉันคิดว่า ... มีไม่หวังผลกำไรจริงๆแหล่งที่ดีที่สุดของนวัตกรรมสังคม? ไม่ควร 'T รัฐบาลและภาคเอกชนจะทำมากขึ้นในการแก้ปัญหาด้วยนวัตกรรมทางสังคมนอกเหนือจากการขว้างปาเงินที่คนอื่นๆ ' นวัตกรรม? เห็นได้ชัดว่าภาครัฐและเอกชนเป็นเพียงที่มีอิทธิพลถ้าไม่มากเกินกว่าที่หวังผลกำไรและบุคคล รัฐบาลสามารถออกกฎหมายนวัตกรรมเป็นชาติส; ภาคเอกชนสามารถควบคุมพลังของตลาดที่จะแพร่กระจายนวัตกรรม ดูเหมือนว่ารัฐบาลและภาคเอกชนได้ให้ตัวเองออกจากเบ็ดสำหรับนวัตกรรมทางสังคม ทั้งภาครัฐและธุรกิจจะยังคงทำดีแน่นอนแต่ให้ใหม่อย่างแท้จริงความคิดและการแก้ปัญหาใหม่จากภาคที่ไม่แสวงหากำไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำถามที่สร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจ วิทยานิพนธ์นี้คือภาคที่ดีที่สุดที่นวัตกรรมทางสังคม
? ผมถามคำถามนี้ หลังจากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนนวัตกรรมใหม่ให้สังคม
โปรแกรมบริหารงานโดย บริษัท ในประเทศและ
บริการชุมชน หน่วยงานของรัฐ ( องค์กรที่ผมทำงานให้พิจารณาการใช้
)ความต้องการที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผมคือ มันต้องสมัครเป็น grantmaking
แสวง หรือ มูลนิธิ ด้วยความมุ่งมั่นจากมูลนิธิหรือเอกชน
ให้ตรงกับ 100% ของรัฐบาลเดิม เห็นว่าการบริหารโอบามา
คิดว่าไม่หวังผลกําไรเป็นแหล่งที่ดีที่สุดของนวัตกรรมและบทบาท
ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรเล่นของ funder .
ที่ฉันคิด . . . . . . . จะไม่หวังผลกําไรจริงๆแหล่งที่ดีที่สุดของนวัตกรรมสังคม
ไม่ควรที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องทำมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหา
ผ่านนวัตกรรมทางสังคม นอกจากโยนเงินที่นวัตกรรมของผู้อื่น ? อย่างชัดเจน ,
ภาครัฐและเอกชนเป็นผู้มีอิทธิพล หากไม่ได้มากขึ้นดังนั้น