King Prachao Sua “Tiger King” Eraki

King Prachao Sua “Tiger King” Era

king-prachao-sua2King Prachao Sua loved competing in Muay Thai. He was known for entering tournaments in small cities and villages disguised as a commoner. Because no one recognized him as the King, he was allowed to participate in a tournament against several notable fighters.

According to the legend, he defeated three fighters named Nai Klan Madthai (Killing Fists), Nai Yai Madklek (Fists of Iron), and Nai Lek Madnok (Strong Fists). The “Tiger King” was forced to disguise himself because Thai people hold their King in such high regard that out of respect, no one would have fought him.

Prachao Sua loved the sport so much that he made his two sons, the princes of Thailand, study Muay Thai, sword fighting and wrestling. During this time the Department of Royal Boxing was founded with the responsibility of finding and recruiting worthy men to fight as entertainment for royalty and to become guards in Thani Lir, the royal court. As royal guards, they were also given the task of training the members of royalty in combat and Muay Thai, as they were still at war with Cambodia and Burma.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยุค "ไทเกอร์คิงคิง Prachao Suaคิง-prachao-sua2King Prachao เสือรักการแข่งขันมวยไทย เขาเป็นที่รู้จักสำหรับใส่แข่งขันในเมืองเล็ก ๆ และหมู่บ้านที่ปลอมตัวเป็นองค์ เนื่องจากไม่มีใครรู้จักเขาเป็นกษัตริย์ เขาได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในการแข่งขันกับนักสู้ที่โดดเด่นหลายตามตำนาน ปล้ำสู้ที่สามชื่อนาย Madthai คลาน (ฆ่าหมัด), นายใหญ่ Madklek (หมัดเหล็ก), และนายเล็ก Madnok (แข็งหมัด) "คิงไทเกอร์" ถูกบังคับให้การปกปิดตัวเองเนื่องจากคนไทยถือกษัตริย์ในเรื่องดังกล่าวสูงให้ความเคารพต่อ ไม่มีใครจะต่อสู้เขาเสือ Prachao รักกีฬามากว่า เขาทำให้บุตรทั้งสอง เจ้าชายแห่งประเทศไทย เรียนมวย ดาบต่อสู้ และมวยปล้ำ ในระหว่างนี้ กรมมวยหลวงก่อ ด้วยความรับผิดชอบการค้นหา และสรรหาคนต่อสู้เป็นความบันเทิงสำหรับราชวงศ์ และเป็น ยามใน Lir ธานี รอยัลคอร์ทที่คุ้มค่า เป็นทหารรักษาพระองค์ พวกเขายังได้รับงานในการฝึกอบรมสมาชิกของราชวงศ์ในการต่อสู้และมวยไทย ตามที่พวกเขาทำสงครามยังคงกัมพูชาและพม่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คิงขัดสมาธิเสือ "ไทเกอร์คิง" ยุค

คิงขัดสมาธิ-sua2King ขัดสมาธิเสือที่รักในการแข่งขันมวยไทย เขาเป็นที่รู้จักสำหรับการป้อนการแข่งขันในเมืองเล็ก ๆ และหมู่บ้านปลอมตัวเป็นคนธรรมดาสามัญ เพราะไม่มีใครจำเขาได้ในฐานะกษัตริย์เขาได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในการแข่งขันกับหลายนักรบที่โดดเด่น.

ตามตำนานเขาพ่ายแพ้นักรบสามชื่อนายคลาน Madthai (ฆ่าหมัด) นายใหญ่ Madklek (กำปั้นเหล็ก) และ นายเล็ก Madnok (กำปั้นแรง) ว่า "ไทเกอร์คิง" ถูกบังคับให้ต้องปลอมตัวเพราะคนไทยถือพระมหากษัตริย์ของพวกเขาในเรื่องที่สูงเช่นที่ออกจากการเคารพไม่มีใครจะได้ต่อสู้กับเขา.

ขัดสมาธิเสือที่รักการเล่นกีฬามากว่าเขาทำบุตรชายทั้งสองของเจ้าชายแห่งประเทศไทย การศึกษามวยไทยต่อสู้ดาบและมวยปล้ำ ในช่วงเวลานี้กรมหลวงมวยก่อตั้งขึ้นด้วยความรับผิดชอบของการค้นหาและการสรรหาคนที่คุ้มค่าที่จะต่อสู้กับความบันเทิงสำหรับเจ้านายและจะกลายเป็นยามในธานี Lir, ราชสำนัก ในขณะที่เจ้าหน้าที่พระราชพวกเขายังได้รับงานของการฝึกอบรมสมาชิกของพระบรมวงศานุวงศ์ในการต่อสู้และมวยไทยที่เป็นพวกเขายังคงทำสงครามกับกัมพูชาและพม่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กษัตริย์ prachao เสือ " ยุคไทเกอร์คิง "king-prachao-sua2king prachao เสือรักการแข่งขันมวยไทย เขาเป็นที่รู้จักสำหรับการเข้าสู่การแข่งขันในเมืองเล็ก ๆและหมู่บ้านที่ปลอมตัวเป็นสามัญชน เพราะไม่มีใครจำเขาได้เป็นกษัตริย์ เขาได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการแข่งขันกับหลายนักรบเด่นตามตำนาน เขาเอาชนะนักสู้สามชื่อในแคลน madthai ( ฆ่าหมัด ) , หาดใหญ่ madklek ( หมัดเหล็ก และนายเล็ก madnok ( หมัดที่แข็งแกร่ง ) " เสือ " กษัตริย์ถูกบังคับให้ต้องปลอมตัวเพราะคนไทยถือกษัตริย์ของพวกเขาในเรื่องดังกล่าวสูงที่ออกมาจากการเคารพไม่มีใครสู้เขาได้prachao เสือรักกีฬามากที่เขาได้บุตรชายทั้งสองของเขา เจ้าชายไทย เรียนมวยไทย การต่อสู้ด้วยดาบ และมวยปล้ำ ในช่วงเวลานี้ กรมหลวงมวยก่อตั้งขึ้นที่มีความรับผิดชอบในการค้นหาและการสรรหาน่าผู้ชายต่อสู้เป็นความบันเทิงสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์และเป็นยามในธานี lir ราชสำนัก . องครักษ์แล้ว พวกเขายังได้รับงานในการฝึกอบรมสมาชิกของราชวงศ์ในการรบ และ มวยไทย เป็นพวกเขายังคงทำสงครามกับกัมพูชาและพม่า