In traditional medicine, several me

In traditional medicine, several medicinal plants or their
extracts are widely used in many countries for the treatment
of diabetes such asMomordica charantiaand Tinospora
cordifolia[8]. Mulberry tree (Morus albaL. [MA]) is widely
grown throughout Thailand. Mulberry leaves are commonly
used as silkworm diet, and mulberry leaf extract has been
promoted for good health, especially in diabetic patients. An
antidiabetic activity of mulberry leaf extract in experimental
animals has been reported[9-11]. In addition, mulberry leaf
extract has been demonstrated to contain several substances
that can act as potent antioxidants or free radical scavengers
such as flavonoids and moracins[12,13]. Importantly, there
has been scientific evidence showing that the antioxidant
compounds found in mulberry leaf ethanol extract are
absorbed from the small intestine into the blood circulation
and retain their antioxidant activity in the animal [14].
Therefore, we hypothesized that by hypoglycemic and
antioxidant activities of mulberry leaf extract, the consumption of the extract might decrease blood glucose and improve
vascular reactivity of chronic diabetics. This potential would
be beneficial for the treatment and alleviation of vascular
complication in diabetic patients

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในแพทย์แผนโบราณ ยาพืชต่าง ๆ หรือบางส่วนใช้ในหลายประเทศสำหรับการรักษาของโรคเบาหวานเช่น charantiaand asMomordica Tinosporacordifolia [8] ต้นหม่อน (Morus albaL [MA]) ได้อย่างกว้างขวางปลูกทั่วประเทศ หม่อนมีทั่วไปใช้เป็นอาหารไหม และสารสกัดจากใบหม่อนได้ส่งเสริมเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีกิจกรรม antidiabetic ของใบหม่อนสารสกัดในการทดลองสัตว์มีการรายงาน [9-11] ในนอกจากนี้ จากใบไม้สารสกัดได้แสดงให้เห็นว่ามีหลายสารที่สามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพหรือ scavengers อนุมูลอิสระflavonoids และ moracins [12,13] สำคัญ มีได้รับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แสดงที่ที่สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารประกอบที่พบในสารสกัดเอทานอลใบหม่อนดูดซึมจากลำไส้เล็กเข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือดและรักษากิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระในสัตว์ [14]ดังนั้น เราตั้งสมมติฐานว่าที่ โดย②ฤทธิ์ลดน้ำตาล และแยกกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของใบหม่อน ปริมาณของสารสกัดอาจลดน้ำตาลในเลือด และปรับปรุงการเกิดปฏิกิริยาของหลอดเลือดของโรคเบาหวาน ศักยภาพนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาและบรรเทาของหลอดเลือดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในยาแผนโบราณ,
พืชสมุนไพรหลายของพวกเขาหรือสารสกัดใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศสำหรับการรักษาของโรคเบาหวานเช่น
asMomordica charantiaand Tinospora
cordifolia [8] ต้นหม่อน (Morus Albal. [MA])
เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางที่ปลูกในประเทศไทย ใบหม่อนมักจะถูกนำมาใช้เป็นอาหารของหนอนไหมและสารสกัดจากใบหม่อนได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับสุขภาพที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวาน กิจกรรมเบาหวานของสารสกัดจากใบหม่อนในการทดลองสัตว์ได้รับรายงาน [9-11] นอกจากนี้ใบหม่อนสารสกัดที่ได้รับการแสดงให้เห็นถึงมีสารหลายอย่างที่สามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพหรือดักจับอนุมูลอิสระเช่นflavonoids และ moracins [12,13] ที่สำคัญมีได้รับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระสารที่พบในสารสกัดเอทานอลจากใบหม่อนจะถูกดูดซึมจากลำไส้เล็กในการไหลเวียนเลือดและรักษาสารต้านอนุมูลอิสระในสัตว์[14]. ดังนั้นเราจึงตั้งสมมติฐานว่าด้วยการลดน้ำตาลในเลือดและต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากใบหม่อนการบริโภคสารสกัดอาจลดระดับน้ำตาลในเลือดและปรับปรุงการเกิดปฏิกิริยาของผู้ป่วยโรคเบาหวานหลอดเลือดเรื้อรัง ที่อาจเกิดขึ้นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการรักษาและบรรเทาหลอดเลือดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน