Teacher Professional DevelopmentAs

Teacher Professional Development

As with the development of human capital in business, the productivity of education can be
significantly improved by upgrading the skills and knowledge of teachers and their ability to
apply these in the classroom. Educational researchers have identified two kinds of teacher knowledge that can significantly improve their practice: their understanding of their subject
matter and the pedagogical knowledge about how students learn the subject and how it is best
taught (Darling-Hammond, 1997; Shulman, 1986). Teachers must understand their subject
thoroughly enough to organize it so that students can understand underlying concepts, procedures, and principles. Teachers must also know what students know and what they believe about their subject, what students typically misunderstand, and how students learn. Teacher professional development in these areas that are connected to classroom practice could improve the effectiveness of instruction.
Beyond improvements in teacher knowledge, the transformation of education into a
source of sustained knowledge creation and innovation requires teachers likewise to engage in sustained learning, knowledge creation, innovation, and knowledge sharing. In this regard,
researchers advocate an approach to teacher professional development that builds a community of practice focused on continuous improvement (Bransford, Darling-Hammond,
& LePage, 2005; McLaughlin & Talbert 2001). With this approach, teachers work together, within subject areas and across schools, to identify problems of practice, collaboratively generate and try out solutions, share resources and best practices, and build a body of professional knowledge that influences classroom instruction (Little, 1993; Talbert & McLaughlin, 1993).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครูมืออาชีพพัฒนาสามารถเป็นผลผลิตของการศึกษากับการพัฒนาบุคลากรในธุรกิจมากขึ้น โดยการปรับปรุงทักษะและความรู้ของครูและความสามารถในการใช้ในห้องเรียน นักวิจัยทางการศึกษาได้ระบุความรู้ครูที่สามารถปรับปรุงการปฏิบัติอย่างมีนัยสำคัญสองชนิด: ความเข้าใจเรื่องของพวกเขาเรื่องและรู้ว่านักเรียนเรียนรู้เรื่องและวิธีดีที่สุดคือการสอนเรียนรู้ (ดาร์ลิงแฮมมอนด์ 1997 Shulman, 1986) ครูต้องเข้าใจเรื่องของพวกเขาอย่างละเอียดเพียงพอที่จะจัดระเบียบเพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าใจแนวคิดพื้นฐาน ขั้นตอน และหลักการ ครูต้องรู้ว่าสิ่งที่เรียนรู้ และสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเรื่องของพวกเขา ที่นักเรียนมักจะหลงผิด และวิธีการเรียนรู้ของนักเรียน การพัฒนาครูมืออาชีพในพื้นที่เหล่านี้ที่เชื่อมต่อกับห้องเรียนปฏิบัติสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของคำสั่ง นอกเหนือจากการปรับปรุงความรู้ครู การเปลี่ยนแปลงของการศึกษาเป็นการแหล่งที่มาของนวัตกรรมและการสร้างความรู้ sustained ต้องการครูในทำนองเดียวกันการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ sustained สร้างความรู้ นวัตกรรม และแบ่งปันความรู้ ในเรื่องนี้นักวิจัยสนับสนุนวิธีการพัฒนาวิชาชีพครูที่สร้างชุมชนของการปฏิบัติที่มุ่งเน้นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Bransford ดาร์ลิ่งแฮม มอนด์& LePage, 2005 แม็กลาฟลินและ Talbert 2001) ด้วยวิธีนี้ ครูทำงานร่วมกัน ภาย ในพื้นที่ และ ใน โรงเรียน การระบุปัญหาของการปฏิบัติ ร่วมกันสร้างออกโซลูชั่น แบ่งปันทรัพยากรและแนวทางปฏิบัติ และสร้างองค์ความรู้และมืออาชีพ ที่มีผลต่อคำแนะนำของห้องเรียน (น้อย 1993 Talbert & แม็กลาฟลิน 1993)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพัฒนาวิชาชีพครูเช่นเดียวกับการพัฒนาทุนมนุษย์ในธุรกิจการผลิตของการศึกษาสามารถปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยการอัพเกรดทักษะและความรู้ของครูและความสามารถในการใช้เหล่านี้ในห้องเรียน นักวิจัยศึกษาได้ระบุชนิดของความรู้ครูที่มีนัยสำคัญสามารถปรับปรุงการปฏิบัติของพวกเขาเข้าใจในเรื่องของพวกเขาและเรื่องความรู้เกี่ยวกับวิธีการสอนนักเรียนได้เรียนรู้เรื่องและวิธีการที่ดีที่สุดคือการเรียนการสอน (ที่รัก-แฮมมอนด์ 1997; ชูล, 1986) ครูจะต้องเข้าใจเรื่องของพวกเขาได้อย่างทั่วถึงมากพอที่จะจัดระเบียบเพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าใจแนวคิดวิธีการและหลักการ ครูยังต้องรู้ว่าสิ่งที่นักเรียนรู้และสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาสิ่งที่นักเรียนมักจะเข้าใจผิดและวิธีการที่นักเรียนได้เรียนรู้ การพัฒนาวิชาชีพครูในพื้นที่เหล่านี้ที่มีการเชื่อมต่อกับการปฏิบัติในห้องเรียนสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของการเรียนการสอน. นอกเหนือจากการปรับปรุงในความรู้ของครูการเปลี่ยนแปลงของการศึกษาเป็นแหล่งที่มาของการสร้างความรู้และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องต้องมีครูผู้สอนเช่นเดียวกันจะมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง, การสร้างความรู้ นวัตกรรมและการแบ่งปันความรู้ ในเรื่องนี้นักวิจัยสนับสนุนแนวทางในการพัฒนาวิชาชีพครูที่สร้างชุมชนของการปฏิบัติที่มุ่งเน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Bransford, ดาร์ลิ่ง-แฮมมอนด์และเพจ, 2005; กิ้นและ Talbert 2001) ด้วยวิธีการนี้ครูทำงานร่วมกันภายในสาขาวิชาและทั่วโรงเรียนเพื่อแจ้งปัญหาของการปฏิบัติร่วมกันสร้างและลองแก้ปัญหาทรัพยากรร่วมกันและการปฏิบัติที่ดีที่สุดและสร้างองค์ความรู้ระดับมืออาชีพที่มีผลต่อการเรียนการสอน (เล็ก ๆ น้อย ๆ , 1993; Talbert & กิ้น 1993)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพัฒนาครูมืออาชีพ

กับการพัฒนาทุนมนุษย์ในธุรกิจ ผลผลิตของการศึกษาสามารถ
เพิ่มขึ้นโดยการอัพเกรดทักษะและความรู้ของครูและความสามารถของ
ใช้เหล่านี้ในชั้นเรียน นักวิจัยศึกษาได้ระบุสองชนิดของอาจารย์ ความรู้ที่สามารถปรับปรุงการปฏิบัติของพวกเขา :ความเข้าใจในเรื่อง
และสอนความรู้เกี่ยวกับศึกษาวิธีการเรียนรู้เรื่องและวิธีที่ดีที่สุดคือ
สอน ( ที่รัก แฮมมอนด์ , 1997 ; Shulman , 1986 ) ครูต้องเข้าใจ
เรื่องของตนเองอย่างละเอียดเพียงพอที่จะจัดเพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจถึงแนวคิด วิธีการ และหลักการครูต้องรู้ว่านักเรียนรู้และสิ่งที่พวกเขาเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของตน สิ่งที่คนมักจะเข้าใจผิดและวิธีการที่นักเรียนได้เรียนรู้ การพัฒนาวิชาชีพครูในพื้นที่เหล่านี้จะเชื่อมต่อกับการปฏิบัติในชั้นเรียนสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของการสอน การปรับปรุงความรู้
เกินครู การปฏิรูปการศึกษาเป็น
แหล่งที่มาของการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและต้องมีครูและมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การสร้างความรู้ นวัตกรรม ความรู้ และความรู้ที่แบ่งปัน ในการนี้
นักวิจัยสนับสนุนแนวทางการพัฒนาวิชาชีพครู ที่สร้างชุมชนของการปฏิบัติที่มุ่งเน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ( แบรนส์เฟิร์ด ที่รัก แฮมมอนด์ ,
& Lepage , 2005 ; กลุ่ม&แทลเบิร์ต 2001 )ด้วยวิธีนี้ ครูทำงานร่วมกันภายในเรื่องพื้นที่และในโรงเรียน เพื่อศึกษาปัญหาของการปฏิบัติงาน ร่วมกันสร้าง และพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาทรัพยากรร่วมกันและการปฏิบัติที่ดีที่สุดและสร้างร่างกายของความรู้ระดับมืออาชีพที่มีอิทธิพลต่อการเรียนการสอน ( เล็ก ๆน้อย ๆ , 1993 ; แทลเบิร์ต&กิ้น , 1993 )