These conceptual frameworks elabora

These conceptual frameworks elaborate the fluid, complex, and dynamic relationships
between individuals and groups, and between individuals/groups and different
kinds of musical styles and genres. Consequently, when people make music, they do so
within some kind of community, scene, spheres, or communes of those who share attitudes,
understandings, and practical traditions. These settings are both inclusive and
exclusive in emphasizing beliefs and expectations of people inside and outside the
group (Jorgensen, 1997; Mueller, 2002). Mueller (1996) investigates inclusiveness
994 Olssonand exclusiveness in a study of skinheads and violence, “Oi!-music is a means of
expressing skinheads’ tabooed ideas about foreigners, the German nation, and violence,
but is also a vehicle for expressing the skinhead concept of community” (p. 121).
Issues of Identity
Another trend in approaching social issues has been through the concept of identity,
with personal and social identity as common distinctions. As Crozier (1997) notes:
Personal identity refers to an individual’s unique qualities, values and attributes,
and reflects his or her personal history, whereas social identity refers to the social
categories to which people belong, aspire to belong, or share important values
with.” (p. 71)
Music provides many opportunities for the construction of identity. A great deal of
identity work is produced as presentation of self to other(s), but “equally significant is
a form of ‘introjection,’ a presentation of self to self, the ability to mobilize and hold
on to a coherent image of ‘who one knows one is’ ” (DeNora, 2000, p. 63).
In their comprehensive discussion of musical identities, MacDonald et al. (2002)
make distinctions between developing musical identities, which may include musical
identities and the school environment, developing a child’s identity as musician and the
self-identity of young musicians. This is also conceptualized as identities in music.
The other distinction concerns developing identities through music or music in identities.
By bringing in a globe model of opportunities in music education, Hargreaves
et al. (2003) discuss possible outcomes in relation to personal and social identities as
well as music-artistic skills. In the dynamic position between the end-points in this
triad – between personal, music-artistic, and sociocultural outcomes – an individual’s
self-identity is found.
Many studies have shown how teenagers’ strong musical experiences provide them
with the security of identification with peers (Tarrant et al., 2002). All adolescents use
music as a badge of identity (Lamont et al., 2003; Mueller, 1996, 2002; North &
Hargreaves, 1999; Zillman & Gan, 1997). Research about the relationship between
musical preferences and how adolescents express their own self-concepts and make judgments
of others are investigated in many studies (North & Hargreaves, 1999; Ruud, 1997;
Tarrant et al., 2002). Teenagers hold strong normative expectations between their musical
preferences and those of the typical fan of other musical styles. Ethno-musicological
research confirms these discussions with similar concepts of “affinity groups and identities”
(Slobin, 1993;Veblen & Olsson, 2002) in attempts to catch these dynamic and complex
relationships between the individual, peers, others and music. Tarrant et al. (2002)
emphasize this in their discussion of social identity theory. Music provides extramusical
information on which judgments are made, judgments that promote a positive social
identity (Dibben, 2002; North, Hargreaves, & Jarrant, 2002).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรอบแนวคิดนี้อธิบายความสัมพันธ์ของเหลว ซับซ้อน และแบบไดนามิกระหว่างบุคคลและกลุ่ม และ ระหว่างบุคคล/กลุ่ม และแตกต่างกันชนิดของรูปแบบดนตรีและประเภท ดังนั้น เมื่อคนทำเพลง พวกเขาทำเช่นนั้นภายในบางชนิดของชุมชน ฉาก ทรงกลม หรือเทศบาลในบรรดาผู้ร่วมทัศนคติเปลี่ยนความเข้าใจ และประเพณีปฏิบัติ การตั้งค่าเหล่านี้มีทั้งรวม และในการเน้นความเชื่อและความคาดหวังของบุคคลภายนอก และภายในกลุ่ม (จอร์เจนเซน 1997 มึลเลอร์ 2002) มึลเลอร์ (1996) ตรวจสอบ inclusiveness994 Olssonand exclusiveness ในการศึกษาของ skinheads และความรุนแรง, " Oi ! -เพลงเป็นวิธีการของแสดงความคิด tabooed ของ skinheads เกี่ยวกับชาวต่างชาติ ประเทศเยอรมัน ความ รุนแรงแต่เป็นยานพาหนะสำหรับกำลังแนวสกินเฮดของชุมชน" (p. 121)ปัญหาของตนแนวโน้มอีกในประเด็นที่สังคมกำลังได้รับผ่านแนวคิดของตนมีตัวตนส่วนบุคคล และสังคมเป็นความทั่วไป เป็นหมายเหตุ Crozier (1997):รหัสประจำตัวส่วนบุคคลหมายถึงคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละบุคคล ค่านิยม และ คุณลักษณะสะท้อนให้เห็นถึงเขา หรือเธอประวัติส่วนตัว ในขณะที่ตัวตนทางสังคมหมายถึงสังคมประเภทที่คนอยู่ เพื่อสมาชิก หรือร่วมค่าสำคัญด้วยการ" (p. 71)เพลงให้โอกาสมากมายสำหรับการก่อสร้างของตน มากผลิตงานประจำเป็นงานนำเสนอของตนเอง (s) อื่น ๆ แต่ "สำคัญเท่า ๆ กันคือรูปแบบของ 'introjection งานนำเสนอของตนเองเพื่อตนเอง ความสามารถในการระดม และกดค้างไว้ระบบรูปแบบ coherent ของ 'ใครใครรู้หนึ่งคือ' "(DeNora, 2000, p. 63)ในการสนทนาที่ครอบคลุมของดนตรีประจำ แมคโดนัลด์ et al. (2002)ทำให้ความแตกต่างระหว่างพัฒนาเอกลักษณ์ดนตรี ซึ่งอาจรวมถึงดนตรีรหัสประจำตัวและสิ่งแวดล้อมโรงเรียน พัฒนาตัวเด็กเป็นนักดนตรีและself-identity ของนักดนตรีเยาวชน นอกจากนี้นี่ยังเป็น conceptualized เป็นเอกลักษณ์ในเพลงความแตกต่างอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับเอกลักษณ์พัฒนาผ่านเพลงหรือเพลงประจำโดยมาในรูปแบบโลกของโอกาสในการศึกษาด้านดนตรี ฮาร์กรีฟส์et al. (2003) กล่าวถึงผลที่เป็นไปได้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล และสังคมเป็นรวมทั้งทักษะศิลปะดนตรี ในตำแหน่งแบบไดนามิกระหว่าง end-points นี้triad – ระหว่างส่วนบุคคล เพลงศิลปะ และผล sociocultural – บุคคลของพบ self-identityหลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่าประสบการณ์ดนตรีที่แข็งแกร่งของวัยรุ่นให้มีความปลอดภัยของรหัสกับเพื่อน (Tarrant et al., 2002) วัยรุ่นใช้งานทั้งหมดเป็นป้ายของตน (Lamont et al., 2003 เพลง Mueller, 1996, 2002 เหนือและฮาร์กรีฟส์ 1999 Zillman และย่าน 1997) วิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะดนตรีและวิธีการที่วัยรุ่นแสดง self-concepts ตน และทำคำพิพากษาของผู้อื่นจะตรวจสอบในการศึกษามากมาย (เหนือและฮาร์กรีฟส์ 1999 Ruud, 1997Tarrant et al., 2002) วัยรุ่นถือแข็งแกร่งคาด normative ระหว่างดนตรีของพวกเขากำหนดลักษณะและบรรดาแฟนทั่วไปของลักษณะดนตรีอื่น ๆ Ethno musicologicalงานวิจัยยืนยันการสนทนาเหล่านี้ มีแนวคิดคล้ายคลึงกันของ "กลุ่มความสัมพันธ์และรหัสประจำตัว"(Slobin, 1993Veblen & Olsson, 2002) ในความพยายามที่จะจับเหล่านี้แบบไดนามิก และซับซ้อนความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน แต่ละ อื่น ๆ และเพลง Tarrant et al. (2002)เน้นนี้ในการสนทนาของทฤษฎีตัวตนทางสังคม เพลงให้ extramusicalข้อมูลที่ตัดสินจะ คำพิพากษาส่งเสริมบวกกับสังคมตัวตน (Dibben, 2002 เหนือ ฮาร์กรีฟส์ & Jarrant, 2002)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรอบแนวคิด ของเหลวเหล่านี้ซับซ้อน , ซับซ้อน , และ
ความสัมพันธ์แบบไดนามิกระหว่างบุคคลและกลุ่ม และระหว่างบุคคล / กลุ่มและชนิด
ลักษณะดนตรีและประเภท ดังนั้น เมื่อผู้ทำเพลง พวกเขาทำเช่นนั้น
ภายในบางชนิดของชุมชน , ฉาก , ทรงกลม หรือชุมชนของผู้ที่แบ่งปันทัศนคติ
ความเข้าใจและประเพณีปฏิบัติการตั้งค่าเหล่านี้มีทั้งรวมและ
เฉพาะในความเชื่อและความคาดหวังของประชาชน โดยเน้นภายในและภายนอก
GROUP ( จอร์เกนเซ่น , 1997 ; Mueller , 2002 ) มูลเลอร์ ( 1996 ) และ inclusiveness
994 olssonand ความพิเศษในการศึกษา skinheads และความรุนแรง " เฮ้ย ! - ดนตรีเป็นวิธีการแสดง skinheads
' tabooed ความคิดเกี่ยวกับชาวต่างชาติ ประเทศ เยอรมัน และความรุนแรง
แต่ยังเป็นยานพาหนะสำหรับการแสดงสกินเฮดแนวคิดของชุมชน " ( หน้า 121 )

เรื่องตัวตนอีกแนวโน้มเข้าหาประเด็นทางสังคมที่ได้ผ่านแนวคิดของเอกลักษณ์ ส่วนตัว และสังคม
ด้วยการแสดงตัวเป็นความแตกต่างทั่วไป เป็น crozier ( 1997 ) หมายเหตุ :
เอกลักษณ์ส่วนบุคคลหมายถึงคุณสมบัติเฉพาะ ของแต่ละบุคคล ค่านิยม และคุณลักษณะ
และสะท้อนให้เห็นถึง ของเขาหรือเธอ ประวัติส่วนบุคคลส่วนเอกลักษณ์ของสังคม หมายถึงสังคม
ประเภทซึ่งคนเป็น ปรารถนาที่จะเป็น หรือใช้ที่สำคัญค่า
.
" ( หน้า 71 ) เพลงมีหลายโอกาสเพื่อสร้างเอกลักษณ์ จัดการที่ดีของงานที่ผลิต เช่น การนำเสนอ
เอกลักษณ์ของตนเอง ( s ) อื่น ๆ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ " รูปแบบของ introjection
' ' ผลงานของตนเอง เพื่อตนเองความสามารถในการระดมและถือ
ให้ภาพที่สอดคล้องกันของ ' ผู้หนึ่งรู้หนึ่งคือ ' ' " ( denora , 2543 , หน้า 63 ) .
ในการสนทนาครอบคลุมอัตลักษณ์ดนตรี , MacDonald et al . ( 2002 )
ให้แตกต่างระหว่างการพัฒนาเอกลักษณ์ทางดนตรี ซึ่งอาจรวมถึงเอกลักษณ์ดนตรี
และสภาพแวดล้อมของโรงเรียน การพัฒนาของเด็ก ตนในฐานะนักดนตรีและ
อัตลักษณ์ของนักดนตรีหนุ่มนี้ยังเป็นแนวคิดความเป็นเอกลักษณ์ทางดนตรี เห็นเกี่ยวกับการพัฒนา
ตัวตนผ่านเพลงหรือดนตรีในตัวตน
โดยนำในรูปแบบของโลกโอกาสในการศึกษาดนตรี , ฮาร์กรีฟส์
et al . ( 2003 ) กล่าวถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปในความสัมพันธ์กับอัตลักษณ์ของบุคคลและสังคม ตลอดจนเป็น
เพลงทักษะศิลปะ . ในแบบไดนามิก ตำแหน่งระหว่างสิ้นสุดในจุดนี้
3 ) ระหว่างบุคคล ดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรมสังคม และผลของ
แต่ละตัวเอง พบว่า มีการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าวัยรุ่น

' ที่แข็งแกร่งประสบการณ์ทางดนตรีให้กับการรักษาความปลอดภัยของประชาชนกับเพื่อน ( ทาร์เริ่นต์ et al . , 2002 ) ทั้งหมดที่วัยรุ่นใช้
เพลงเป็นตราของตัวตน ( Lamont et al . , 2003 ; Mueller , 1996 , 2002 ; เหนือ&
Hargreaves , 1999 ; &กาน zillman ,1997 ) การวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีและวิธีการที่วัยรุ่น
ตั้งค่าแสดงแนวคิดตนเองตัดสิน
ของผู้อื่นได้ศึกษาในการศึกษาจำนวนมาก ( เหนือ& Hargreaves , 1999 ; รุด , 1997 ;
ทาร์เริ่นต์ et al . , 2002 ) วัยรุ่นคาดหวังไว้อ้างอิงที่แข็งแกร่งระหว่างการตั้งค่าดนตรี
และบรรดาแฟนคลับโดยทั่วไปของดนตรีอื่น ๆรูปแบบ เกี่ยวกับการเป็นนักดนตรี ethno
การวิจัยยืนยันการสนทนาเหล่านี้ ด้วยแนวคิดที่คล้ายกันของ " กลุ่มกลุ่มอัตลักษณ์ "
( slobin , 1993 ; เวเบลิ้น& โอลส์สัน , 2002 ) ในความพยายามที่จะจับเหล่านี้แบบไดนามิกและซับซ้อน
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล , เพื่อนร่วมงาน ผู้อื่น และ เพลง ทาร์เริ่นต์ et al . ( 2002 )
เน้นนี้ ในการสนทนาของทฤษฎีเอกลักษณ์ทางสังคม เพลงให้ extramusical
ข้อมูลที่ตัดสินทำคำตัดสินที่ส่งเสริม
ทางสังคมเชิงบวกตัวตน ( dibben , 2002 ; ทางเหนือของ& jarrant , ,

, 2002 )