เริ่มในตอนสายของวันขึ้น ๔ ค่ำ ตามประเพณีความเชื่อที่สืบทอดมาแต่อดีต เป็นการเป็นการแสดงพิธีเยา (เชิญวิญญาณเข้าทรงคนป่วยลงสนามหรือแซงสนาม) และพิธีเจี้ยศาลารวมเข้ากันเพื่อให้เกิดรูปขบวนที่สวยงามเป็นจังหวะสอดคล้อง กับ เครื่องดนตรีพื้นบ้านที่ดีดสีตีเป่าเข้ากับท่วงท่ารำของสาวโส้ ที่มาร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก ชาวโส้ถือว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ในบริเวณงานจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านนานาชนิดให้แก่ผู้ไปเที่ยวชมในราคาถูก การคมนาคมสะดวก รถยนต์เข้าถึงบริเวณงาน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๔๐ กิโลเมตร ของทุกปี ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์ การแสดงโส้ทั่งบั้ง จะเริ่มในตอนสายของวันขึ้น ๔ ค่ำ ตามประเพณีความเชื่อที่สืบทอดมาแต่อดีต เป็นการเป็นการแสดงพิธีเยา (เชิญวิญญาณเข้าทรงคนป่วยลงสนามหรือแซงสนาม) และพิธีเจี้ยศาลารวมเข้ากันเพื่อให้เกิดรูปขบวนที่สวยงามเป็นจังหวะสอดคล้อง กับ เครื่องดนตรีพื้นบ้านที่ดีดสีตีเป่าเข้ากับท่วงท่ารำของสาวโส้ ที่มาร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก ชาวโส้ถือว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ในบริเวณงานจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านนานาชนิดให้แก่ผู้ไปเที่ยวชมในราคาถูก การคมนาคมสะดวก รถยนต์เข้าถึงบริเวณงาน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๔๐ กิโลเมตร
พิธีกรรมที่สำคัญ
การเหยา การไหว้ผีทุกข้างขึ้นและข้างแรม
ภาษีโส้ จัดอยู่ในสาขาย่อยมอญ-เขมร มีเฉพาะภาษาพูด ไม่มีภาษาเขียน คำในภาษามักเป็น ๒-๓ พยางค์ และเป็นภาษาที่ไม่มีหน่วยเสียงวรรณยุกต์
แต่มีลักษณะสำคัญคือ มีลักษณะน้ำเสียงปกติและน้ำเสียงต่ำ ทุ้มเพื่อการจำแนกความหมายของคำ
นอกจากนี้พบว่ามีชาวโส้อาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มๆ กระจายอยู่ั่วไป เช่น อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม อำเภอเขาวง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง อำเภอดอนตาล อำเภอคำชะอี อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร อพยพมาในช่วง ร,๓ เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่หลายเมืองในแถบเมืองสกลนคร อพยพมาจากเมืองมหาชัยในแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๒๓๘๗ มีพระอารัญอาษา หัวหน้าเผ่าโซ่ เป็นเจ้าเมืองคนแรก