Choline inclusion is of great inter

Choline inclusion is of great interest in diets of dairy
cows. Even though the NRC (2001) did not establish
requirements for choline and B vitamins for dairy cows,choline is referred as an essential nutrient that must be
supplied in the diets of several animal species (Sharma and
Erdman, 1989). Choline is a trimethylated quaternary
amine that is crucial for the brain and neuromuscular
signaling (Hartwell et al., 2000), is usually grouped within
the B-complex vitamins, however it does not fit the
traditional role of a vitamin (NRC, 2001). Choline is a key
compound for the synthesis of two important molecules,
phosphatidylcholine (PC) and acetylcholine (Pinotti et al.,
2002). Phosphatidylcholine is essential to maintain cell
membrane structure (Davidson et al., 2008), hepatic
synthesis and secretion of very low density lipoprotein
from the liver (Cooke et al., 2007), and biosynthesis and
secretion of milk (Kinsella, 1969); whereas acetylcholine is
an important neurotransmitter (Pinotti et al., 2002).
Early studies evaluating the effect of dietary choline on
milk yield and duodenal flow indicated its rapid and
extensive rumen degradation (Atkins et al., 1988) and the
need to protect it from rumen degradation to be available
for absorption in the duodenum (Sharma and Erdman,
1988a,b). Subsequently, numerous studies have evaluated
the effects of feeding choline in rumen-protected form
(RPC) on production, reproduction, and health of dairy
cows. Responses across research trials have not been
consistent and therefore questions regarding its value
remain still prevalent. Whereas some studies have
reported positive effects of RPC on milk yield (Pinotti
et al., 2003), milk composition (Sharma and Erdman,
1989; Erdman and Sharma, 1991), and dry matter intake
(DMI; Zahra et al., 2006); others have reported only a
tendency to increase 3.5% fat corrected milk (FCM) and
milk fat yield (Piepenbrink and Overton, 2003) or no
effects on the previous variables (Deuchler et al., 1998).
Few studies have devoted their interest on the possible
effects of RPC on improving reproductive parameters and
the incidence of metabolic diseases (Ardalan et al., 2010;
Lima et al., 2012). Most research trials have focused their
interest on evaluating the effects of RPC on production
performance parameters, blood metabolite status (Janovick-Guretzky
et al., 2006; Zahra et al., 2006), and fat
mobilization (Cooke et al., 2007; Goselink et al., 2013).
These experiments have been done during either the
transition period or early lactation. Few studies have
investigated the effects of RPC in cows during middle
and late lactation and its effect on milk production and
milk composition. In our study, the primary objective was
to assess if the supplementation of RPC to the diet of dairy
cows in middle and late lactation would improve milk
production, milk composition, and fatty acids (FA) profile
of milk fat.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รวมโคลีนเป็นที่น่าสนใจมากในอาหารนมของวัว แม้ว่าอาร์ซี (2001)
ไม่ได้สร้างความต้องการสำหรับโคลีนและวิตามินบีสำหรับโคนม, โคลีนเรียกว่าเป็นสารอาหารที่จำเป็นที่จะต้องจำหน่ายในอาหารของสัตว์หลายชนิด (ชาร์และ Erdman, 1989) โคลีนเป็นสี่ trimethylated เอมีนที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสมองและประสาทและกล้ามเนื้อการส่งสัญญาณ (ฮาร์ตเวลส์ et al., 2000) จะถูกจัดกลุ่มปกติภายในวิตามินบีซับซ้อนแต่มันไม่พอดีกับบทบาทดั้งเดิมของวิตามิน (NRC, 2001) . โคลีนเป็นคีย์ผสมสำหรับการสังเคราะห์ของสองโมเลกุลสำคัญphosphatidylcholine (PC) และ acetylcholine (Pinotti et al., 2002) Phosphatidylcholine เป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาเซลล์โครงสร้างเมมเบรน(เดวิดสัน, et al, 2008.) ตับสังเคราะห์และการหลั่งของความหนาแน่นต่ำมากไลโปโปรตีนจากตับและการสังเคราะห์และ(Cooke et al, 2007). การหลั่งของน้ำนม (คินเซลลา, 1969); ขณะ acetylcholine เป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญ(Pinotti et al., 2002). ก่อนการศึกษาการประเมินผลกระทบของโคลีนในอาหารต่อผลผลิตน้ำนมและการไหลของลำไส้เล็กส่วนต้นชี้ให้เห็นอย่างรวดเร็วและที่ย่อยสลายในกระเพาะรูเมนกว้างขวาง(แอตกินส์ et al., 1988) และจำเป็นที่จะต้องปกป้องมันจากการย่อยสลายในกระเพาะรูเมนจะสามารถใช้ได้ในการดูดซึมในลำไส้เล็กส่วนต้น (ชาร์และ Erdman, 1988a b) ต่อมาการศึกษาจำนวนมากมีการประเมินผลกระทบของการให้อาหารโคลีนในรูปแบบที่มีการป้องกันกระเพาะรูเมน(RPC) ในการผลิต, การทำสำเนาและสุขภาพของนมโค คำตอบผ่านการทดลองวิจัยยังไม่ได้รับที่สอดคล้องกันและดังนั้นจึงคำถามเกี่ยวกับค่าของมันยังคงอยู่ยังคงแพร่หลาย ในขณะที่บางการศึกษารายงานผลในเชิงบวกของ RPC บนผลผลิตน้ำนม (Pinotti องค์ประกอบนม (ชาร์และ Erdman, et al, 2003). 1989; Erdman และชาร์ปี 1991) และปริมาณวัตถุแห้ง(DMI; Zahra et al, 2006. ); คนอื่น ๆ ได้รายงานเพียงแนวโน้มที่จะเพิ่มไขมัน3.5% นมแก้ไข (FCM) และอัตราผลตอบแทนจากไขมันนม(Piepenbrink และโอเวอร์, 2003) หรือไม่มีผลกระทบต่อตัวแปรก่อนหน้า(Deuchler et al., 1998). มีหลายการศึกษาเพื่อรองรับความสนใจของพวกเขาใน ที่เป็นไปได้ผลกระทบของRPC ในการปรับปรุงค่าพารามิเตอร์ของระบบสืบพันธุ์และอุบัติการณ์ของโรคเมตาบอลิ(Ardalan et al, 2010;.. ลิมา et al, 2012) การทดลองวิจัยส่วนใหญ่ได้มุ่งเน้นของพวกเขาน่าสนใจเกี่ยวกับการประเมินผลกระทบของ RPC ในการผลิตค่าประสิทธิภาพสถานะmetabolite เลือด (Janovick-Guretzky et al, 2006;. Zahra et al, 2006.) และไขมันระดม(Cooke et al, 2007. Goselink et al., 2013). การทดลองนี้ได้รับการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงหรือการให้นมบุตรในช่วงต้น มีหลายการศึกษาการตรวจสอบผลกระทบของ RPC ในช่วงกลางวัวให้นมบุตรและปลายและผลกระทบต่อการผลิตน้ำนมและองค์ประกอบของนม ในการศึกษาของเรามีวัตถุประสงค์หลักคือการประเมินว่าการเสริม RPC ที่จะรับประทานอาหารของนมวัวในการให้นมบุตรกลางและปลายจะปรับปรุงนมผลิตองค์ประกอบนมและกรดไขมัน(เอฟเอ) รายละเอียดของไขมันนม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โคลีนรวมเป็นที่น่าสนใจมากในอาหารโคนม
วัว แม้ว่า NRC ( 2001 ) ไม่ได้สร้าง
ต้องการโคลีนและวิตามิน B สำหรับโคนม , โคลีนจะเรียกว่าเป็นสารอาหารที่จำเป็นที่ต้อง
จัดอยู่ในอาหารของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ( Sharma และ
เอิร์ดเมิน , 1989 ) โคลีนเป็น trimethylated Quaternary
เอมีนที่สำคัญสำหรับสมองและประสาทกล้ามเนื้อ
สัญญาณ ( Hartwell et al . , 2000 ) , มักจะมีการจัดกลุ่มภายใน
วิตามินบีรวม แต่มันไม่เหมาะกับบทบาทดั้งเดิมของวิตามิน ( NRC , 2001 ) โคลีนเป็นสารสำคัญ
สำหรับการสังเคราะห์สองโมเลกุลสำคัญ
ฟอสฟาติดิลโคลีน ( acetylcholine ( PC )
pinotti et al . , 2002 ) ฟอสฟาติดิลโคลีนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์
( Davidson et al . , 2008 ) , ตับ
การสังเคราะห์และการหลั่งของไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำมาก
จากตับ ( Cooke et al . , 2007 ) และในการหลั่งของน้ำนมและ
( คินเซลลา , 1969 ) ; ในขณะที่ติลโคลีนเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญ (
pinotti et al . , 2002 ) .
ก่อนการศึกษาประเมินผลของอาหาร choline บน
ผลผลิตน้ำนมและ การไหลของลำไส้และกระเพาะ
อย่างละเอียดอย่างรวดเร็วพบการย่อยสลาย ( Atkins et al . , 1988 ) และ
ต้องการเพื่อปกป้องมันจากการย่อยสลายอาหารจะพร้อมสำหรับการดูดซึมในลำไส้ (

และ เอิร์ดเมิน Sharma , หนังสือ , B ) ต่อมาการศึกษามากมายได้ประเมิน
ผลของอาหาร choline ในกระบวนการป้องกันฟอร์ม
( RPC ) ในการผลิต การสืบพันธุ์ และสุขภาพของโคนม
วัว การตอบสนองในการทดลองการวิจัยได้สอดคล้องและดังนั้นคำถามเกี่ยวกับ

ค่าของยังคงอยู่ยังคงแพร่หลาย ในขณะที่บางการศึกษารายงานผลในเชิงบวกของ RPC
ต่อผลผลิตน้ำนม ( pinotti
et al . , 2003 ) , องค์ประกอบของนม ( Sharma และ เอิร์ดเมิน
, 1989 ; เอิร์ดเมินแล้ว Sharma , 1991 ) และวัตถุแห้งปริมาณ
( DMI ; Zahra et al . , 2006 ) ; อื่น ๆมีรายงานเพียง
มีแนวโน้มที่จะ เพิ่มน้ำนมปรับไขมัน 3.5% ( FCM ) และไขมัน ( piepenbrink
ผลผลิตน้ำนม และ โอเวอร์ตัน , 2003 )
หรือ ไม่ผลกระทบของตัวแปรก่อนหน้านี้ ( deuchler et al . , 1998 ) .
การศึกษาน้อยได้ทุ่มเทความสนใจของพวกเขาที่เป็นไปได้ผลของ RPC ในการปรับปรุงพารามิเตอร์การสืบพันธุ์และ
อุบัติการณ์ของโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร ( ardalan et al . , 2010 ;
ลิมา et al . , 2012 ) การทดลองวิจัยส่วนใหญ่ได้เน้นความสนใจของพวกเขา
ประเมินผลผลของ RPC ในพารามิเตอร์ประสิทธิภาพการผลิต
,สถานะระดับเลือด ( janovick guretzky
et al . , 2006 ; Zahra et al . , 2006 ) , และการระดมไขมัน
( Cooke et al . , 2007 ; goselink et al . , 2013 ) .
การทดลองเหล่านี้ได้ทำในช่วงระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงด้วย
หรือก่อนการให้น้ำนม มีการศึกษาน้อย
เป็นการศึกษาผลกระทบของ RPC ในวัวในช่วงกลางและปลายของการให้นม
และผลกระทบต่อการผลิตน้ำนมและองค์ประกอบน้ำนม
. ในการศึกษาของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินหลัก
ถ้าเสริม RPC ในอาหารโคนม
วัวในกลางและปลายของการให้นมจะเพิ่มนม
ผลิต องค์ประกอบของน้ำนม และกรดไขมัน ( FA ) โปรไฟล์
ของไขมันนม