เบาหวานขณะตั้งครรภ์(Gestational Diabetes Mellitus)  เบาหวานขณะตั้งครรภ การแปล - เบาหวานขณะตั้งครรภ์(Gestational Diabetes Mellitus)  เบาหวานขณะตั้งครรภ ไทย วิธีการพูด

เบาหวานขณะตั้งครรภ์(Gestational Dia

เบาหวานขณะตั้งครรภ์


(Gestational Diabetes Mellitus)





เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes Mellitus : GDM) ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารก เนื่องจาก

มีความเปลี่ยนแปลง และบางครั้งมีข้อขัดแย้งในการเลือกการคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกรายหรือเลือกเฉพาะกลุ่ม ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเกณฑ์การวินิจฉัยที่เหมาะ

สมสำหรับ glucose tolerance test รวมทั้งผลที่ไม่แน่นอนเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลใน ระหว่างตั้งครรภ์ที่ส่งผลต่อมารดาและทารก ในปัจจุบันข้อแนะนำ

เกี่ยวกับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม กำลังรอผลการศึกษาแบบ prospective studies ที่มีกำลัง(power) เพียงพอที่จะตอบคำถามสำคัญในเรื่องนี้




คำจำกัดความ

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) หมายถึง ความผิดปกติของเมตะบอลิซึมของ คาร์โบไฮเดรต เป็นโรคเบาหวานที่ตรวจพบครั้งแรกได้ในขณะตั้งครรภ์



ดังนั้น GDM จึงประกอบด้วย 3 ภาวะ คือ

1. เบาหวานขณะตั้งครรภ์จริง (“true” gestational diabetes) เป็นเบาหวานซึ่งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ เป็นผลจากการเปลี่ยน

แปลงฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์

2. เบาหวาน ชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานมาก่อนการตั้งครรภ์แต่ไม่ทราบ และไม่เคยได้รับการวินิจฉัย ซึ่งมาตรวจพบ เบาหวานขณะตั้งครรภ์

3. เบาหวาน ชนิดที่ 1 เป็นเบาหวานที่แสดงอาการครั้งแรกในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งกรณีนี้พบได้น้อยสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมารดาและทารก มีความแตกต่าง

กันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบางปัจจัยที่ยังไม่ทราบแน่ชัดใน เรื่องของ GDM


อุบัติการณ์ของเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ถูกตรวจพบขณะตั้งครรภ์ (ถูกจัดให้เป็น GDM) กำลังได้รับการศึกษา ตัวอย่างเช่น

ในรายงานหนึ่ง

พบว่าร้อยละ 46 ของสตรีที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์กลายเป็นเบาหวาน ชนิดที่ 2 ในระยะหลังคลอด


ปัจจัยเสี่ยง (Risk Factors)

มีการสำรวจในสตรีตั้งครรภ์ 15,000 ราย พบว่าร้อยละ 5 เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) เมื่อนำมาวิเคราะห์ทางสถิติ (แบบ multivariate)

พบว่าปัจจัยเสี่ยงในสตรีตั้งครรภ์ (ตารางที่ 10) คือ อายุมาก, มีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน, สูบบุหรี่, อ้วน (มีดัชนีมวลกายมาก, Body

Mass Index : BMI) (โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มมากในวัยผู้ใหญ่)


ในการสำรวจขนาดเล็กลงมาในสตรีตั้งครรภ์ 1100 ราย พบว่า ร้อยละ 7 เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีปัจจัยเสี่ยงคือ อายุมากกว่า 30 ปี,

มีประวัติญาติสายตรงลำดับแรก (first-degree relative) เป็นเบาหวาน ในกลุ่มที่ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 30 กก./ม2 อย่างไรก็ตามพบอุบัติการ

ของเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงถึงร้อยละ 5 ข้อสังเกตของเบาหวานชนิดที่ 2


คือมีลักษณะอ้วนเฉพาะลำตัว มักไม่พบปัจจัยเสี่ยงต่อ GDM ภาวะ polycystic ovarian syndrome เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงหนึ่ง ที่ไม่ขึ้นกับ

ดัชนีมวลกาย (BMI) โดยเฉพาะในรายที่มี hyperinsulinemia ก่อนการตั้งครรภ์


สตรีที่มีประวัติเคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในการตั้งครรภ์ที่ผ่านมา มีโอกาสเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ซ้ำได้ถึงร้อยละ 20-50

และมีโอกาสเพิ่มเป็น 2 เท่า ในสตรีที่เคยได้รับอินสุลินขณะตั้งครรภ์ระยะแรก ขณะตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 มักต้องได้รับอินสุลินในขนาดที่เพิ่มขึ้น


สตรีตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์กลุ่มนี้มักมีดัชนีมวลกาย (BMI) มาก (โดยเฉพาะ BMI มากกว่า 35 กก./ม2 )

จะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าและพบว่า มีอุบัติการทารกตัวโตในครรภ์เป็นจำนวนมาก การเกิดเบาหวานซ้ำขณะตั้งครรภ์โดยพบในครรภ์อ่อนๆ

(ก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์) พบประมาณร้อยละ 5 ของสตรีที่มีประวัติเคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ครั้งที่แล้ว


และมักเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ซ่อนอยู่ สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือมีการคลอดทารกตัวโต น้ำหนักมากกว่า 4000 กรัม ทั้งที่ไม่พบความ

ผิดปกติของ OGTT และกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า


ในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป เป็นการเพิ่มความเสี่ยงของ glucose intolerance ในสตรีตั้งครรภ์ที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถ้าเปรียบเทียบ

ความชุกของเบาหวานชนิดที่ 2 ในประชากรทั้งหมด พบอุบัติการแตกต่างกันตั้งแต่ระดับร้อยละ 0.5 ต่อปี ถึงระดับสูงร้อยละ 7.5 ต่อปี และพบว่า

ร้อยละ 50 จะกลายเป็นโรคเบาหวานภายใน 5 ปีหลังจากการคลอด การคลอดทารกตัวโตความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานจะเพิ่มเป็น 6 เท่า ทั้งที่ไม่มี

ความผิดปกติของ OGTT อย่างไรก็ตามผู้ป่วยเหล่านี้ควรได้รับการเฝ้าระวังและตรวจหาโรคเบาหวานในระยะหลังคลอด


ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) และเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดเดียวกัน แต่เป็นคนละระยะเท่านั้น

โดยมีหลักฐานหลายอย่างที่สนับสนุนว่ามีลักษณะทางระบาดวิทยา, ลักษณะ ความผิดปกติและพยาธิสภาพคล้ายกันด้วย


พยาธิกำเนิด (Pathogenesis)

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (คล้ายกับเบาหวานชนิดที่ 2) เป็นผลของภาวะดื้อต่ออินสุลิน (insulin resistance) และภาวะขาดอินสุลินสัมพัทธ์

(relative insulin deficiency) ความรุนแรงของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมีผลต่อความรุนแรงของโรคมีความเป็นไปได้ที่เบาหวานชนิดที่ 2 ที่ซ่อนอยู่จะถูก

ตรวจพบครั้งแรกในระหว่างการตั้งครรภ์ เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นผลของ ภาวะinsulin resistance อาจไม่มีอาการทางคลินิกเป็นระยะนานเป็นปีก่อนมีอาการ

ร่างกายปรับตัวโดยการหลั่งอินสุลินเพิ่มขึ้นเพื่อให้นำกลูโคสเข้าเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ(peripheral tissues) และยับยั้งการสร้างกลูโคสที่ตับเมื่อมีภาวะ

insulin resistance เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะครึ่งหลังการตั้งครรภ์) การเพิ่มของการหลั่งอินสุลินอาจไม่เพียงพอ จึงเป็นผลให้ลดการนำกลูโคส

เข้าเนื้อเยื่อ (peripheral glucose uptake), เพิ่มการสร้างกลูโคสจากตับจึงส่งผลให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูง เช่นเดียวกับเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เริ่มด้วยมี

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหลังรับอาหาร (postprandial state) แล้วจึงมีระดับน้ำตาลสูงในเลือดขณะอดอาหาร (fasting state)


การวินิจฉัยโรค (Diagnosis)


Oral Glucose Tolerance Test

ตาม American College of Obstetrics and Gynecology (ACOG) มีข้อเสนอแนะให้ทำการคัดกรองในสตรีมีครรภ์ทุกราย

(universal screening)เพื่อค้นหาโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) ระหว่างอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ ส่วน American Diabetes Association(ADA)

เสนอแนะให้ตรวจคัดกรองเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง (selective screening) และหลีกเลี่ยงการคัดกรองในสตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (low risk)

ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ หมายถึง อายุน้อยกว่า 25 ปี, มีน้ำหนักปกติ,ไม่มีประวัติครอ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เบาหวานขณะตั้งครรภ์(ครรภ์เบาหวาน) เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (ครรภ์เบาหวาน: GDM) ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกเนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงและบางครั้งมีข้อขัดแย้งในการเลือกการคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกรายหรือเลือกเฉพาะกลุ่มยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเกณฑ์การวินิจฉัยที่เหมาะยอมรับกลูโคสสมสำหรับรวมทั้งผลที่ไม่แน่นอนเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในระหว่างตั้งครรภ์ที่ส่งผลต่อมารดาและทารกในปัจจุบันข้อแนะนำทดสอบผู้สนใจศึกษาเกี่ยวกับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมกำลังรอผลการศึกษาแบบ ที่มีกำลัง(power) เพียงพอที่จะตอบคำถามสำคัญในเรื่องนี้คำจำกัดความ เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) หมายถึงความผิดปกติของเมตะบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรตเป็นโรคเบาหวานที่ตรวจพบครั้งแรกได้ในขณะตั้งครรภ์ดังนั้น GDM จึงประกอบด้วย 3 ภาวะคือ 1. เบาหวานขณะตั้งครรภ์จริง ("จริง" เบาหวานครรภ์) เป็นเบาหวานซึ่งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ 2. เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานมาก่อนการตั้งครรภ์แต่ไม่ทราบและไม่เคยได้รับการวินิจฉัยซึ่งมาตรวจพบเบาหวานขณะตั้งครรภ์ 3. เบาหวานชนิดที่ 1 เป็นเบาหวานที่แสดงอาการครั้งแรกในขณะตั้งครรภ์ซึ่งกรณีนี้พบได้น้อยสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมารดาและทารกมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบางปัจจัยที่ยังไม่ทราบแน่ชัดในเรื่องของ GDM ตัวอย่างเช่นกำลังได้รับการศึกษาอุบัติการณ์ของเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ถูกตรวจพบขณะตั้งครรภ์ (ถูกจัดให้เป็น GDM) ในรายงานหนึ่งในระยะหลังคลอดชนิดที่ 2 ของสตรีที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์กลายเป็นเบาหวานพบว่าร้อยละ 46ปัจจัยเสี่ยง (ปัจจัยเสี่ยง) มีการสำรวจในสตรีตั้งครรภ์ 15000 รายพบว่าร้อยละ 5 เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) เมื่อนำมาวิเคราะห์ทางสถิติ (multivariate คำประกอบ) พบว่าปัจจัยเสี่ยงในสตรีตั้งครรภ์ (ตารางที่ 10) คืออายุมาก มีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน สูบบุหรี่ อ้วน (มีดัชนีมวลกายมาก ร่างกาย ดัชนีมวล: BMI) (โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มมากในวัยผู้ใหญ่) ในการสำรวจขนาดเล็กลงมาในสตรีตั้งครรภ์ 1100 รายพบว่าร้อยละ 7 เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์มีปัจจัยเสี่ยงคืออายุมากกว่า 30 ปีมีประวัติญาติสายตรงลำดับแรก (first-degree ญาติ) เป็นเบาหวานในกลุ่มที่ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 30 กก. / ม2 อย่างไรก็ตามพบอุบัติการของเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงถึงร้อยละ 5 ข้อสังเกตของเบาหวานชนิดที่ 2 คือมีลักษณะอ้วนเฉพาะลำตัวมักไม่พบปัจจัยเสี่ยงต่อ GDM ภาวะกลุ่มอาการรังไข่ polycystic เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ไม่ขึ้นกับ ก่อนการตั้งครรภ์ hyperinsulinemia โดยเฉพาะในรายที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สตรีที่มีประวัติเคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในการตั้งครรภ์ที่ผ่านมามีโอกาสเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ซ้ำได้ถึงร้อยละ 20-50 มักต้องได้รับอินสุลินในขนาดที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 และมีโอกาสเพิ่มเป็น 2 เท่าในสตรีที่เคยได้รับอินสุลินขณะตั้งครรภ์ระยะแรก สตรีตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์กลุ่มนี้มักมีดัชนีมวลกาย (BMI) มาก (โดยเฉพาะ BMI มากกว่า 35 กก. / ม2) จะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าและพบว่ามีอุบัติการทารกตัวโตในครรภ์เป็นจำนวนมากการเกิดเบาหวานซ้ำขณะตั้งครรภ์โดยพบในครรภ์อ่อน ๆของสตรีที่มีประวัติเคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ครั้งที่แล้วพบประมาณร้อยละ 5 (ก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์) และมักเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ซ่อนอยู่สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือมีการคลอดทารกตัวโตน้ำหนักมากกว่า 4000 กรัมทั้งที่ไม่พบความผิดปกติของ OGTT และกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของกลูโคส intolerance ในสตรีตั้งครรภ์ที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถ้าเปรียบเทียบความชุกของเบาหวานชนิดที่ 2 ในประชากรทั้งหมดพบอุบัติการแตกต่างกันตั้งแต่ระดับร้อยละ 0.5 ต่อปีถึงระดับสูงร้อยละ 7.5 ต่อปีและพบว่าร้อยละ 50 จะกลายเป็นโรคเบาหวานภายใน 5 ปีหลังจากการคลอดการคลอดทารกตัวโตความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานจะเพิ่มเป็น 6 เท่าทั้งที่ไม่มีความผิดปกติของ OGTT อย่างไรก็ตามผู้ป่วยเหล่านี้ควรได้รับการเฝ้าระวังและตรวจหาโรคเบาหวานในระยะหลังคลอด ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) และเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดเดียวกันแต่เป็นคนละระยะเท่านั้น โดยมีหลักฐานหลายอย่างที่สนับสนุนว่ามีลักษณะทางระบาดวิทยา ลักษณะความผิดปกติและพยาธิสภาพคล้ายกันด้วยพยาธิกำเนิด (พยาธิกำเนิด) และภาวะขาดอินสุลินสัมพัทธ์เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (คล้ายกับเบาหวานชนิดที่ 2) เป็นผลของภาวะดื้อต่ออินสุลิน (ต้านทานอินซูลิน) ที่ซ่อนอยู่จะถูกความรุนแรงของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมีผลต่อความรุนแรงของโรคมีความเป็นไปได้ที่เบาหวานชนิดที่ 2 (ขาดอินซูลินญาติ)ตรวจพบครั้งแรกในระหว่างการตั้งครรภ์เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นผลของ ภาวะinsulin ต้านทานอาจไม่มีอาการทางคลินิกเป็นระยะนานเป็นปีก่อนมีอาการ และยับยั้งการสร้างกลูโคสที่ตับเมื่อมีภาวะร่างกายปรับตัวโดยการหลั่งอินสุลินเพิ่มขึ้นเพื่อให้นำกลูโคสเข้าเซลล์เนื้อเยื่ออื่น ๆ (เนื้อเยื่ออุปกรณ์ต่อพ่วง)อินซูลินต้านทานเพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะครึ่งหลังการตั้งครรภ์) การเพิ่มของการหลั่งอินสุลินอาจไม่เพียงพอจึงเป็นผลให้ลดการนำกลูโคสเข้าเนื้อเยื่อ (ดูดซับกลูโคสต่อพ่วง), เพิ่มการสร้างกลูโคสจากตับจึงส่งผลให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงเช่นเดียวกับเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เริ่มด้วยมีแล้วจึงมีระดับน้ำตาลสูงในเลือดขณะอดอาหารระดับน้ำตาลในเลือดสูงหลังรับอาหาร (postprandial รัฐ) (สภาพที่ถือศีลอด)การวินิจฉัยโรค (วินิจฉัย)ทดสอบเผื่อน้ำตาลในช่องปาก วิทยาลัยสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา (ACOG) อเมริกันตามมีข้อเสนอแนะให้ทำการคัดกรองในสตรีมีครรภ์ทุกราย (คัดกรองสากล) เพื่อค้นหาโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) ระหว่างอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ส่วนอเมริกัน Association(ADA) โรคเบาหวาน เสนอแนะให้ตรวจคัดกรองเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง (เลือกคัดกรอง) และหลีกเลี่ยงการคัดกรองในสตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (ความเสี่ยงต่ำ) ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำปีหมายถึงอายุน้อยกว่า 25 มีน้ำหนักปกติ ไม่มีประวัติครอ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เบาหวานขณะตั้งครรภ์


(Gestational Diabetes Mellitus)





เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes Mellitus : GDM) ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารก เนื่องจาก

มีความเปลี่ยนแปลง และบางครั้งมีข้อขัดแย้งในการเลือกการคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกรายหรือเลือกเฉพาะกลุ่ม ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเกณฑ์การวินิจฉัยที่เหมาะ

สมสำหรับ glucose tolerance test รวมทั้งผลที่ไม่แน่นอนเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลใน ระหว่างตั้งครรภ์ที่ส่งผลต่อมารดาและทารก ในปัจจุบันข้อแนะนำ

เกี่ยวกับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม กำลังรอผลการศึกษาแบบ prospective studies ที่มีกำลัง(power) เพียงพอที่จะตอบคำถามสำคัญในเรื่องนี้




คำจำกัดความ

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) หมายถึง ความผิดปกติของเมตะบอลิซึมของ คาร์โบไฮเดรต เป็นโรคเบาหวานที่ตรวจพบครั้งแรกได้ในขณะตั้งครรภ์



ดังนั้น GDM จึงประกอบด้วย 3 ภาวะ คือ

1. เบาหวานขณะตั้งครรภ์จริง (“true” gestational diabetes) เป็นเบาหวานซึ่งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ เป็นผลจากการเปลี่ยน

แปลงฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์

2. เบาหวาน ชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานมาก่อนการตั้งครรภ์แต่ไม่ทราบ และไม่เคยได้รับการวินิจฉัย ซึ่งมาตรวจพบ เบาหวานขณะตั้งครรภ์

3. เบาหวาน ชนิดที่ 1 เป็นเบาหวานที่แสดงอาการครั้งแรกในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งกรณีนี้พบได้น้อยสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมารดาและทารก มีความแตกต่าง

กันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบางปัจจัยที่ยังไม่ทราบแน่ชัดใน เรื่องของ GDM


อุบัติการณ์ของเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ถูกตรวจพบขณะตั้งครรภ์ (ถูกจัดให้เป็น GDM) กำลังได้รับการศึกษา ตัวอย่างเช่น

ในรายงานหนึ่ง

พบว่าร้อยละ 46 ของสตรีที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์กลายเป็นเบาหวาน ชนิดที่ 2 ในระยะหลังคลอด


ปัจจัยเสี่ยง (Risk Factors)

มีการสำรวจในสตรีตั้งครรภ์ 15,000 ราย พบว่าร้อยละ 5 เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) เมื่อนำมาวิเคราะห์ทางสถิติ (แบบ multivariate)

พบว่าปัจจัยเสี่ยงในสตรีตั้งครรภ์ (ตารางที่ 10) คือ อายุมาก, มีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน, สูบบุหรี่, อ้วน (มีดัชนีมวลกายมาก, Body

Mass Index : BMI) (โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มมากในวัยผู้ใหญ่)


ในการสำรวจขนาดเล็กลงมาในสตรีตั้งครรภ์ 1100 ราย พบว่า ร้อยละ 7 เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีปัจจัยเสี่ยงคือ อายุมากกว่า 30 ปี,

มีประวัติญาติสายตรงลำดับแรก (first-degree relative) เป็นเบาหวาน ในกลุ่มที่ดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 30 กก./ม2 อย่างไรก็ตามพบอุบัติการ

ของเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงถึงร้อยละ 5 ข้อสังเกตของเบาหวานชนิดที่ 2


คือมีลักษณะอ้วนเฉพาะลำตัว มักไม่พบปัจจัยเสี่ยงต่อ GDM ภาวะ polycystic ovarian syndrome เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงหนึ่ง ที่ไม่ขึ้นกับ

ดัชนีมวลกาย (BMI) โดยเฉพาะในรายที่มี hyperinsulinemia ก่อนการตั้งครรภ์


สตรีที่มีประวัติเคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในการตั้งครรภ์ที่ผ่านมา มีโอกาสเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ซ้ำได้ถึงร้อยละ 20-50

และมีโอกาสเพิ่มเป็น 2 เท่า ในสตรีที่เคยได้รับอินสุลินขณะตั้งครรภ์ระยะแรก ขณะตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 มักต้องได้รับอินสุลินในขนาดที่เพิ่มขึ้น


สตรีตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์กลุ่มนี้มักมีดัชนีมวลกาย (BMI) มาก (โดยเฉพาะ BMI มากกว่า 35 กก./ม2 )

จะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าและพบว่า มีอุบัติการทารกตัวโตในครรภ์เป็นจำนวนมาก การเกิดเบาหวานซ้ำขณะตั้งครรภ์โดยพบในครรภ์อ่อนๆ

(ก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์) พบประมาณร้อยละ 5 ของสตรีที่มีประวัติเคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ครั้งที่แล้ว


และมักเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ซ่อนอยู่ สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือมีการคลอดทารกตัวโต น้ำหนักมากกว่า 4000 กรัม ทั้งที่ไม่พบความ

ผิดปกติของ OGTT และกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า


ในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป เป็นการเพิ่มความเสี่ยงของ glucose intolerance ในสตรีตั้งครรภ์ที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถ้าเปรียบเทียบ

ความชุกของเบาหวานชนิดที่ 2 ในประชากรทั้งหมด พบอุบัติการแตกต่างกันตั้งแต่ระดับร้อยละ 0.5 ต่อปี ถึงระดับสูงร้อยละ 7.5 ต่อปี และพบว่า

ร้อยละ 50 จะกลายเป็นโรคเบาหวานภายใน 5 ปีหลังจากการคลอด การคลอดทารกตัวโตความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานจะเพิ่มเป็น 6 เท่า ทั้งที่ไม่มี

ความผิดปกติของ OGTT อย่างไรก็ตามผู้ป่วยเหล่านี้ควรได้รับการเฝ้าระวังและตรวจหาโรคเบาหวานในระยะหลังคลอด


ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) และเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดเดียวกัน แต่เป็นคนละระยะเท่านั้น

โดยมีหลักฐานหลายอย่างที่สนับสนุนว่ามีลักษณะทางระบาดวิทยา, ลักษณะ ความผิดปกติและพยาธิสภาพคล้ายกันด้วย


พยาธิกำเนิด (Pathogenesis)

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (คล้ายกับเบาหวานชนิดที่ 2) เป็นผลของภาวะดื้อต่ออินสุลิน (insulin resistance) และภาวะขาดอินสุลินสัมพัทธ์

(relative insulin deficiency) ความรุนแรงของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมีผลต่อความรุนแรงของโรคมีความเป็นไปได้ที่เบาหวานชนิดที่ 2 ที่ซ่อนอยู่จะถูก

ตรวจพบครั้งแรกในระหว่างการตั้งครรภ์ เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นผลของ ภาวะinsulin resistance อาจไม่มีอาการทางคลินิกเป็นระยะนานเป็นปีก่อนมีอาการ

ร่างกายปรับตัวโดยการหลั่งอินสุลินเพิ่มขึ้นเพื่อให้นำกลูโคสเข้าเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ(peripheral tissues) และยับยั้งการสร้างกลูโคสที่ตับเมื่อมีภาวะ

insulin resistance เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะครึ่งหลังการตั้งครรภ์) การเพิ่มของการหลั่งอินสุลินอาจไม่เพียงพอ จึงเป็นผลให้ลดการนำกลูโคส

เข้าเนื้อเยื่อ (peripheral glucose uptake), เพิ่มการสร้างกลูโคสจากตับจึงส่งผลให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูง เช่นเดียวกับเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เริ่มด้วยมี

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหลังรับอาหาร (postprandial state) แล้วจึงมีระดับน้ำตาลสูงในเลือดขณะอดอาหาร (fasting state)


การวินิจฉัยโรค (Diagnosis)


Oral Glucose Tolerance Test

ตาม American College of Obstetrics and Gynecology (ACOG) มีข้อเสนอแนะให้ทำการคัดกรองในสตรีมีครรภ์ทุกราย

(universal screening)เพื่อค้นหาโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM) ระหว่างอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ ส่วน American Diabetes Association(ADA)

เสนอแนะให้ตรวจคัดกรองเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง (selective screening) และหลีกเลี่ยงการคัดกรองในสตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ (low risk)

ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ หมายถึง อายุน้อยกว่า 25 ปี, มีน้ำหนักปกติ,ไม่มีประวัติครอ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เบาหวานขณะตั้งครรภ์


( โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ )





เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ( โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ : GDM ) ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกเนื่องจาก

มีความเปลี่ยนแปลงและบางครั้งมีข้อขัดแย้งในการเลือกการคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกรายหรือเลือกเฉพาะกลุ่มยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเกณฑ์การวินิจฉัยที่เหมาะ

การทดสอบความทนทานต่อกลูโคสสมสำหรับรวมทั้งผลที่ไม่แน่นอนเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในระหว่างตั้งครรภ์ที่ส่งผลต่อมารดาและทารกในปัจจุบันข้อแนะนำ

เกี่ยวกับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมกำลังรอผลการศึกษาแบบอนาคตการศึกษาที่มีกำลัง ( พลังงาน ) เพียงพอที่จะตอบคำถามสำคัญในเรื่องนี้




คำจำกัดความ

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ( GDM ) หมายถึงความผิดปกติของเมตะบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรตเป็นโรคเบาหวานที่ตรวจพบครั้งแรกได้ในขณะตั้งครรภ์



ดังนั้น GDM จึงประกอบด้วย 3 ภาวะความ

1เบาหวานขณะตั้งครรภ์จริง ( " โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์จริง " ) เป็นเบาหวานซึ่งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์เป็นผลจากการเปลี่ยน

แปลงฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์

2เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานมาก่อนการตั้งครรภ์แต่ไม่ทราบและไม่เคยได้รับการวินิจฉัยซึ่งมาตรวจพบเบาหวานขณะตั้งครรภ์

3
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: