solid-state drive (SSD) (also known

solid-state drive (SSD) (also known as a solid-state disk[1][2][3] or electronic disk,[4] though it contains no actual "disk" of any kind or motors to "drive" the disks) is a data storage device using integrated circuit assemblies as memory to store data persistently. SSD technology uses electronic interfaces compatible with traditional block input/output (I/O) hard disk drives, thus permitting simple replacement in common applications.[5] Also, new I/O interfaces like SATA Express are created to keep up with speed advancements in SSD technology.
SSDs have no moving mechanical components. This distinguishes them from traditional electromechanical magnetic disks such as hard disk drives (HDDs) or floppy disks, which contain spinning disks and movable read/write heads.[6] Compared with electromechanical disks, SSDs are typically more resistant to physical shock, run silently, have lower access time, and less latency.[7] However, while the price of SSDs has continued to decline in 2012,[8] SSDs are still about 7 to 8 times more expensive per unit of storage than HDDs.
As of 2010, most SSDs use NAND-based flash memory, which retains data without power. For applications requiring fast access, but not necessarily data persistence after power loss, SSDs may be constructed from random-access memory (RAM). Such devices may employ separate power sources, such as batteries, to maintain data after power loss.[5]
Hybrid drives or solid state hybrid drives (SSHD) combine the features of SSDs and HDDs in the same unit, containing a large hard disk drive and an SSD cache to improve performance of frequently accessed data.[9][10][11]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไดรฟ์สถานะของแข็ง (SSD) (หรือเรียกว่าดิสก์สถานะของแข็ง [1] [2] [3] หรือดิสก์อิเล็กทรอนิกส์ [4] แม้ว่าจะไม่มี "ดิสก์" ที่เกิดขึ้นจริงใด ๆ หรือมอเตอร์จะ "ไดรฟ์" ดิสก์) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้ประกอบวงจรรวมเป็นหน่วยความจำในการเก็บข้อมูลเสมอ เทคโนโลยี SSD ใช้อินเตอร์เฟซที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิมบล็อกอินพุต / เอาต์พุต (I / O) ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จึงอนุญาตให้เปลี่ยนง่ายในการใช้งานร่วมกัน. [5] นอกจากนี้ยังมีอินเตอร์เฟซใหม่ i / o เช่น SATA ด่วนจะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีความเร็ว SSD.
SSDs ไม่มีการย้ายชิ้นส่วนเครื่องจักรกล นี้แตกต่างจากจานแม่เหล็กไฟฟ้าแบบดั้งเดิมเช่นฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDDs) หรือดิสก์ฟลอปปี้ดิสก์ที่มีการหมุนและเคลื่อนย้ายได้อ่าน / เขียนหัว[6] เมื่อเทียบกับดิสก์ไฟฟ้า SSDs มักจะทนต่อการกระแทกทางกายภาพทำงานเงียบมีเวลาในการเข้าถึงที่ต่ำกว่าและความล่าช้าน้อยลง. [7] แต่ในขณะที่ราคาของ SSDs ยังคงลดลงในปี 2012 [8] SSDs ยังคงเกี่ยวกับ 7-8 ครั้งมีราคาแพงมากขึ้นต่อหน่วยของการจัดเก็บกว่า HDDs.
ณ 2010, SSDs ส่วนใหญ่ใช้หน่วยความจำแฟลช NAND ตามที่เก็บข้อมูลไว้ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานสำหรับงานที่ต้องการเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่จำเป็นต้องคงอยู่ข้อมูลหลังจากการสูญเสียพลังงาน, SSDs อาจถูกสร้างขึ้นจากหน่วยความจำหลัก (RAM) อุปกรณ์ดังกล่าวอาจใช้แหล่งพลังงานที่แยกจากกันเช่นแบตเตอรี่ที่จะรักษาข้อมูลหลังจากการสูญเสียพลังงาน. [5]
ไดรฟ์ไฮบริดหรือไดรฟ์สถานะของแข็งไฮบริด (sshd) รวมคุณสมบัติของ SSDs และฮาร์ดดิสก์ในหน่วยเดียวกันที่มีฮาร์ดไดรฟ์ขนาดใหญ่และแคช SSD เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการเข้าถึงข้อมูลบ่อย. [9] [10] [11]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตไดรฟ์ (SSD) (ยังเรียกว่าดิสก์โซลิดสเตต [1] [2] [3] หรือดิสก์อิเล็กทรอนิกส์, [4] ว่านั้นไม่จริง "ดิสก์" ชนิดหรือมอเตอร์ "ขับ" ดิสก์) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลโดยใช้แอสเซมบลีวงจรรวมหน่วยความจำเพื่อจัดเก็บข้อมูลสามารถ เทคโนโลยี SSD ใช้เฟซเข้ากับบล็อกแบบอินพุต/เอาท์พุต (I/O) ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ อิเล็กทรอนิกส์ จึง อนุญาตให้แทนที่ง่ายในการใช้งานทั่วไป[5] นอกจากนี้ สร้างอินเทอร์เฟซ I/O ใหม่เช่น SATA Express เพื่อให้ทันกับความเร็วในการก้าวหน้าในเทคโนโลยี SSD
SSDs มีส่วนประกอบของเครื่องจักรกลไม่ย้าย ซึ่งแตกต่างจากแบบไฟฟ้าแม่เหล็กดิสก์เช่นฟลอปปีดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDDs) ซึ่งประกอบด้วยปั่นดิสก์และหัวอ่านเขียนสามารถเคลื่อนย้าย[6] เปรียบเทียบกับดิสก์โดยกว่า SSDs เป็นปกติมากขึ้นทนต่อการช๊อคทางกายภาพ การทำงานอยู่เบื้องหลัง มีเวลาเข้าล่าง และเวลาแฝงที่น้อยลง[7] แต่ ในขณะที่ราคาของ SSDs ได้อย่างต่อเนื่องจะลดลงใน 2012, SSDs [8] จะมียังคงประมาณ 7 ถึง 8 เท่าราคาต่อหน่วยของการจัดเก็บ HDDs.
2553, SSDs ส่วนใหญ่ใช้ใช้ NAND แฟลชจำ ซึ่งอ้างอิงไฟ สำหรับการใช้งานที่ต้องการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่จำเป็นต้องมีอยู่ข้อมูลหลังจากการสูญเสียพลังงาน SSDs อาจสร้างขึ้นจากหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม (RAM) อุปกรณ์ดังกล่าวอาจใช้แหล่งจ่ายไฟแยก ทาง การรักษาข้อมูลหลังจากการสูญเสียพลังงาน[5]
ไฮบริดสลีไดรฟ์ หรือไดรฟ์ไฮบริดของแข็ง (SSHD) รวมคุณลักษณะของ SSDs และ HDDs ในหน่วยเดียวกัน ประกอบด้วยขนาดใหญ่ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และแคชภาย SSD เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของข้อมูลเข้าถึงบ่อย[9][10][11]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Solid - State Drive ( SSD )(นอกจากนั้นยังรู้จักกันในชื่อที่ Solid - State ฮาร์ดดิสก์[ 1 ][ 2 ][ 3 ]หรืออิเล็กทรอนิกส์ฮาร์ดดิสก์,[ 4 ]แม้จะไม่มีจริง" Disk "ของทุกชนิดหรือมอเตอร์เพื่อ"ขับ"ฮาร์ดดิสก์)เป็นการจัดเก็บข้อมูลแบบอินทิเกรตโดยใช้อุปกรณ์วงจรการประกอบเป็นหน่วยความจำในการจัดเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง. เทคโนโลยี SSD ใช้อินเตอร์เฟซสามารถใช้งานร่วมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิมพร้อมด้วยอาคารก่ออิฐอินพุต/เอาต์พุต( I / O )ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ดังนั้นเมื่อ สภาพ อากาศเอื้ออำนวยการเปลี่ยนแบบเรียบง่ายในแอพพลิเคชันปกติ.[ 5 ]ยังอินเตอร์เฟซ I / O รุ่นใหม่เช่น SATA Express จะถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีความเร็วใน SSD .
SSD ไม่มีชิ้นส่วนกลไกการเคลื่อนไหว โรงแรมแห่งนี้ซึ่งจำแนกมาจากฮาร์ดดิสก์ของแม่เหล็กเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิมเช่นฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์( HDD )หรือแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ซึ่งมีสามารถเคลื่อนย้ายได้และฮาร์ดดิสก์หมุนอ่าน/เขียนหัว[ 6 ]เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ SSD โดยทั่วไปจะสามารถป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อตมากขึ้นทาง กายภาพ ใช้งานอย่างเงียบๆมีเวลาการเข้าใช้ลดน้อยลงและลดความล่าช้า.[ 7 ]แต่ถึงอย่างไรก็ตามในขณะที่ราคาของ SSD มีการขยายตัวลดลงในปี 2012 [ 8 ] SSD ยังคงอยู่ประมาณ 7 ถึง 8 ครั้งซึ่งมีราคาแพงมากขึ้นต่อหน่วยของการจัดเก็บข้อมูลมากกว่า hard disk drive .
เป็นของ 2010 SSD ส่วนใหญ่จะใช้หน่วยความจำแฟลช NAND - ซึ่งยังคงรักษาไว้ซึ่งใช้ข้อมูลโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าสำหรับแอพพลิเคชั่นที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วแต่ไม่จำเป็นต้องยืนกรานข้อมูลหลังจากการสูญเสียพลังงาน SSD อาจมีการสร้างขึ้นจาก Random - Access Memory ( RAM ) อุปกรณ์ดังกล่าวอาจใช้แหล่งจ่ายไฟแบบแยกพื้นที่เช่นแบตเตอรี่ในการรักษาข้อมูลหลังจากการสูญเสียพลังงาน.[ 5 ],ไดร์ฟ Solid State ไฮบริดหรือไดรฟ์
ไฮบริด( sshd )ประกอบด้วยคุณลักษณะของ SSD Hard Disk Drive และอยู่ในชุดเดียวกันประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟขนาดใหญ่และแคช SSD เพื่อปรับปรุง ประสิทธิภาพ การทำงานของข้อมูลที่ใช้บ่อย.[ 9 ],[ 10 ][ 11 ]