Chocolate HillsThe Chocolate Hills

Chocolate Hills
The Chocolate Hills are a geological formation in the Bohol province of the Philippines. There are at least 1,260 hills but there may be as many as 1,776 hills spread over an area of more than 50 square kilometres (20 sq mi). They are covered in green grass that turns brown (like chocolate) during the dry season, hence the name.
The Chocolate Hills are a famous tourist attraction of Bohol. They are featured in the provincial flag and seal to symbolize the abundance of natural attractions in the province. They are in the Philippine Tourism Authority's list of tourist destinations in the Philippines; they have been declared the country's third National Geological Monument and proposed for inclusion in the UNESCO World Heritage List.
Description
The Chocolate Hills form a rolling terrain of haycock hills – mounds of a generally conical and almost symmetrical shape. Estimated to be from 1,268 to about 1,776 individual mounds, these cone-shaped or dome-shaped hills are actually made of grass-covered limestone. The domes vary in sizes from 30 to 50 metres (98 to 164 ft) high with the largest being 120 metres (390 ft) in height. Bohol's "main attraction", these unique mound-shaped hills are scattered by the hundreds throughout the towns of Carmen, Batuan and Sagbayan in Bohol.
During the dry season, the grass-covered hills dry up and turn chocolate brown. This transforms the area into seemingly endless rows of "chocolate kisses". The branded confection is the inspiration behind the name, Chocolate Hills.
Vegetation
The vegetation of the Chocolate Hills is dominated by grass species such as Imperata cylindrica and Saccharum spontaneum. SeveralCompositae and ferns also grow on them. In between the hills, the flat lands are cultivated with rice and other cash crops. However, the natural vegetation on the Chocolate Hills is now threatened by quarrying activities.
Origin
The Chocolate Hills are conical karst hills similar to those seen in the limestone regions of Slovenia, Croatia, northern Puerto Rico, and Pinar del Río Province, Cuba. These hills consist of Late Pliocene to Early Pleistocene, thin to medium bedded, sandy to rubbly marine limestones. These limestones contain the abundant fossils of shallow marine foraminifera, coral, mollusks, and algae. These conical hills are geomorphological features called cockpit karst, which were created by a combination of the dissolution of limestone by rainfall, surface water, and groundwater, and their subaerial erosion by rivers and streams after they had been uplifted above sea level and fractured by tectonic processes. These hills are separated by well developed flat plains and contain numerous caves and springs. The Chocolate Hills are considered to be a remarkable example of conical karst topography.
The origin for the conical karst of the Chocolate Hills is described in popular terms on the bronze plaque at the viewing deck in Carmen, Bohol. This plaque states that they are eroded formations of a type of marine limestone that sits on top of hardened clay. The plaque reads:
The unique land form known as the Chocolate Hills of Bohol was formed ages ago by the uplift of coral deposits and the action of rain water and erosion.
The plaque also makes reference to a fanciful explanation of the origin of the Chocolate Hills that is unsupported by any published scientific research, i.e. either Hillmer or Travaglia and others, when it states:
the grassy hills were once coral reefs that erupted from the sea in a massive geologic shift. Wind and water put on the finishing touches over hundreds of thousands of years.
Self-published, popular web pages present a variety of fanciful and less credible explanations about how these hills formed. They include sub-oceanic volcanism; limestone covered blocks created by the destruction of an active volcano in a cataclysmic eruption; coral reefs that were raised from the sea as the result of a massive geologic shift; and tidal movements. The lack of any exposed or associated volcanic rocks anywhere in the Chocolate Hills refutes the popular theories involving volcanic eruptions. These theories involving either a sudden, massive geologic shift, coral reefs being erupted from the sea, or tidal movements lack any collaborating evidence and support among geologists.
Legend
Three legends explain the formation of the Chocolate Hills. The first tells the story of two feuding giants who hurled rocks, boulders, and sand at each other. The fighting lasted for days, and exhausted the two giants. In their exhaustion, they forgot about their feud and became friends, but when they left they forgot to clean up the mess they had made during their battle, hence the Chocolate Hills.
A more romantic legend tells of a giant named Arogo who was extremely powerful and youthful. Arogo fell in love with Aloya, who was a simple mortal. Aloya's death caused Arogo much pain and misery, and in his sorrow he could not stop crying. When his tears dried, the Chocolate Hills were formed.
The third legend tells of a town being plagued by a giant carabao, who ate all of their crops. Finally having had enough, the townsfolk took all of their spoiled food and placed it in such a way that the carabao would not miss it. Sure enough, the carabao ate it, but his stomach couldn't handle the spoiled food, so he defecated, leaving behind him a mound of feces, until he had emptied his stomach of the food. The feces then dried, forming the Chocolate Hills.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฮิลส์ช็อคโกแลตฮิลส์ช็อคโกแลตเป็นทางธรณีวิทยาในจังหวัดโบโฮลฟิลิปปินส์ มีอย่างน้อย 1,260 เนินเขา แต่อาจจะมีเป็นจำนวนมากถึง 1,776 เนินเขาแผ่กระจายไปทั่วพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร (20 ตารางไมล์) พวกเขาได้รับความคุ้มครองในหญ้าสีเขียวที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (เช่นช็อคโกแลต) ในช่วงฤดูแล้งจึงชื่อ.
ฮิลส์ช็อคโกแลตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโฮล พวกเขาจะให้ความสำคัญในจังหวัดและธงตราประทับเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัด พวกเขาอยู่ในรายชื่อการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ของสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศฟิลิปปินส์ พวกเขาได้รับการประกาศให้ประเทศที่สามแห่งชาติธรณีวิทยาอนุสาวรีย์และเสนอให้รวมอยู่ในรายชื่อมรดกโลกยูเนสโก.
คำอธิบายฮิลส์ช็อคโกแลตในรูปแบบกลิ้งภูมิประเทศของภูเขากองหญ้าแห้ง - กองของรูปทรงกรวยทั่วไปและเกือบสมมาตร
คาดว่าจะมาจาก 1268 ถึงประมาณ 1,776 กองบุคคลเหล่านี้มีรูปทรงกรวยหรือเนินเขารูปโดมจะทำจริงหินปูนที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า โดมแตกต่างกันในขนาด 30-50 เมตร (98-164 ฟุต) มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็น 120 เมตร (390 ฟุต) โฮลของ "แหล่งท่องเที่ยวหลัก" เหล่านี้กองเนินเขาที่มีรูปทรงที่ไม่ซ้ำกันจะกระจายร้อยทั่วเมืองของคาร์เมนและ Batuan Sagbayan ใน Bohol.
ในช่วงฤดูแล้งที่เนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าแห้งและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลช็อคโกแลต นี้จะแปลงพื้นที่เข้าไปในแถวที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดของ "จูบช็อคโกแลต" ขนมที่มีตราสินค้าเป็นแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังชื่อฮิลส์ช็อคโกแลต.
พืชผักพืชของฮิลส์ช็อคโกแลตที่ถูกครอบงำด้วยสายพันธุ์หญ้าเช่น Imperata Cylindrica และ Saccharum spontaneum
SeveralCompositae และเฟิร์นยังเติบโตในพวกเขา ในระหว่างเนินดินแดนแบนที่ปลูกข้าวและพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ อย่างไรก็ตามพืชพรรณธรรมชาติที่ฮิลส์ช็อคโกแลตจะถูกคุกคามในขณะนี้โดยกิจกรรมการระเบิดหิน.
แหล่งที่มาฮิลส์ช็อคโกแลตเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคล้ายกับที่เห็นในภูมิภาคหินปูนสโลวีเนีย, โครเอเชีย, ภาคเหนือของเปอร์โตริโกและ Pinar เดลRíoจังหวัดคิวบา
ภูเขาเหล่านี้ประกอบด้วย Pliocene ปลายไปในช่วงต้น Pleistocene บางกลางเตียงทรายเพื่อหินปูนทะเล rubbly หินปูนเหล่านี้มีฟอสซิลมากมาย foraminifera ทะเลตื้นปะการังหอยและสาหร่าย เหล่านี้ภูเขารูปกรวยมีคุณสมบัติ geomorphological เรียกว่านักบินคาสต์ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยการรวมกันของการสลายตัวของหินปูนโดยปริมาณน้ำฝน, น้ำผิวดินและน้ำใต้ดินและการพังทลาย subaerial ของพวกเขาโดยแม่น้ำและลำธารหลังจากที่พวกเขาได้รับการเพิ่มขึ้นเหนือระดับน้ำทะเลและร้าวโดยเปลือกโลก กระบวนการ เนินเขาเหล่านี้จะถูกแยกจากกันโดยการพัฒนาพื้นที่ราบและมีถ้ำต่าง ๆ นานาและน้ำพุ ฮิลส์ช็อคโกแลตจะถือว่าเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของภูมิประเทศหินปูนรูปกรวย.
ต้นกำเนิดสำหรับหินปูนรูปกรวยของฮิลส์ช็อคโกแลตมีการอธิบายในแง่ที่เป็นที่นิยมบนแผ่นป้ายสำริดที่ดูไพ่ในคาร์เมนโฮล รัฐมอบโล่ประกาศเกียรติคุณนี้ว่าพวกเขาจะกัดเซาะการก่อตัวของชนิดของหินปูนทะเลที่ตั้งอยู่ด้านบนของดินเหนียวแข็ง แผ่นอ่าน:
รูปแบบที่ดินที่ไม่ซ้ำกันที่รู้จักกันในฮิลส์ช็อคโกแลตของโฮลถูกสร้างขึ้นทุกเพศทุกวัยที่ผ่านมาโดยยกของเงินฝากปะการังและการกระทำของน้ำฝนและการพังทลายที่.
มอบโล่ประกาศเกียรติคุณนอกจากนี้ยังทำให้การอ้างอิงถึงคำอธิบายเพ้อฝันของการกำเนิดของฮิลส์ช็อคโกแลต ที่ได้รับการสนับสนุนโดยการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่เผยแพร่คือทั้ง Hillmer หรือ Travaglia และคนอื่น ๆ เมื่อมันฯ :
ภูเขาหญ้าครั้งหนึ่งเคยเป็นแนวปะการังที่ปะทุขึ้นมาจากทะเลในการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาใหญ่ ลมและน้ำใส่ในการตกแต่งสัมผัสกว่าร้อยเป็นพัน ๆ ปี.
เองตีพิมพ์หน้าเว็บที่นิยมนำเสนอความหลากหลายของคำอธิบายที่เพ้อฝันและน่าเชื่อถือน้อยเกี่ยวกับวิธีการที่เกิดขึ้นเนินเขาเหล่านี้ พวกเขารวมถึงภูเขาไฟย่อยมหาสมุทร; บล็อกปกคลุมหินปูนที่สร้างขึ้นโดยการทำลายของภูเขาไฟที่ใช้งานในการระเบิดกลียุคนั้น แนวปะการังที่ถูกยกขึ้นจากทะเลเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาใหญ่; และการเคลื่อนไหวของน้ำขึ้นน้ำลง การขาดหินภูเขาไฟที่สัมผัสหรือเกี่ยวข้องใดก็ได้ในฮิลส์ช็อคโกแลตอาร์คิเมทฤษฎีที่เป็นที่นิยมที่เกี่ยวข้องกับการปะทุของภูเขาไฟ ทฤษฎีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการอย่างใดอย่างหนึ่งในทันทีการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาใหญ่แนวปะการังถูกปะทุขึ้นจากทะเลหรือการเคลื่อนไหวของน้ำขึ้นน้ำลงขาดหลักฐานและการสนับสนุนการทำงานร่วมกันในหมู่นักธรณีวิทยา. ตำนานสามตำนานอธิบายการก่อตัวของฮิลส์ช็อคโกแลต ครั้งแรกที่บอกเล่าเรื่องราวของสองยักษ์ใหญ่ก๊กที่ขว้างหินก้อนหินและหาดทรายที่แต่ละอื่น ๆ การต่อสู้กินเวลานานวันและหมดสองยักษ์ใหญ่ ในความเหนื่อยของพวกเขาลืมเรื่องบาดหมางของพวกเขาและกลายเป็นเพื่อน แต่เมื่อพวกเขาออกจากพวกเขาลืมที่จะทำความสะอาดเป็นระเบียบที่พวกเขาได้ทำในระหว่างการต่อสู้ของพวกเขาจึงฮิลส์ช็อคโกแลต. ตำนานโรแมนติกมากบอกของยักษ์ชื่อ Arogo ซึ่งเป็นที่มีประสิทธิภาพมาก และอ่อนเยาว์ Arogo ตกหลุมรักกับ Aloya ซึ่งเป็นมนุษย์ที่เรียบง่าย ตาย Aloya ก่อให้เกิดความเจ็บปวดมาก Arogo และความทุกข์ยากและความเศร้าโศกของเขาในการที่เขาไม่สามารถหยุดร้องไห้ เมื่อน้ำตาแห้งฮิลส์ช็อคโกแลตที่มีอยู่. ตำนานสามบอกของเมืองที่ถูกรบกวนด้วยควายยักษ์ที่กินทั้งหมดของพืช ในที่สุดก็ต้องมีพอชาวกรุงเอาของอาหารเน่าเสียของพวกเขาและวางไว้ในลักษณะที่คาราบาวจะพลาดไม่ได้ พอแน่ใจว่าควายกินมัน แต่ท้องของเขาไม่สามารถจัดการกับอาหารที่เน่าเสียเพื่อให้เขาปล่อยทิ้งไว้ข้างหลังเขากองอุจจาระจนกระทั่งเขาได้อบท้องของเขาของอาหาร อุจจาระแห้งแล้วรูปฮิลส์ช็อคโกแลต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เนินเขาช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตเนิน เป็นโครงสร้างทางธรณีวิทยาในโบฮอลจังหวัดของประเทศฟิลิปปินส์ มีเนินน้อย 1260 แต่อาจจะมีเท่าที่ 1776 ภูเขากระจายไปทั่วพื้นที่มากกว่า 50 ตารางกิโลเมตร ( 20 ตารางไมล์ ) พวกเขาจะปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาล ( ช็อกโกแลต ) ในฤดูแล้ง ดังนั้นชื่อ
ช็อกโกแลตเนิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโฮล . มีจุดเด่นในการประทับตราสัญลักษณ์ธงและความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัด พวกเขาอยู่ในฟิลิปปินส์ การท่องเที่ยวของรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์พวกเขาได้รับการประกาศของประเทศที่สามแห่งชาติธรณีวิทยาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและเสนอเพื่อรวมไว้ในรายชื่อมรดกโลก รายละเอียด

ช็อกโกแลตเนินรูปแบบภูมิประเทศของภูเขากลิ้งลอมฟางและกองของรูปกรวยและเกือบจะสมมาตรโดยทั่วไปรูปร่าง ประมาณว่าเกี่ยวกับ 1776 จากกองบุคคลรูปทรงกรวยหรือเนินรูปโดมเหล่านี้จริงทำจากหญ้าปกคลุมหินปูน โดมที่แตกต่างกันในขนาดตั้งแต่ 30 ถึง 50 เมตร ( 98 ถึง 164 ฟุต ) สูงที่สุดเป็น 120 เมตร ( 40 ฟุต ) ความสูง โบฮอลเป็นหลัก " ดึงดูด " เหล่านี้เฉพาะเนินรูปภูเขามีอยู่ โดยการร้อยตลอดเมืองของคาร์เมน และ batuan sagbayan Bohol .
ช่วงฤดูแล้งหญ้าปกคลุมเนินเขาแห้งแล้งขึ้นและเปิดน้ำตาลช็อกโกแลต นี้แปลงพื้นที่ในแถวที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดของ " จูบ " ช็อกโกแลต ส่วนขนมตราเป็นแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังชื่อช็อคโกแลตฮิลส์

ของพืชพืชช็อคโกแลตฮิลส์เป็น dominated โดยพันธุ์หญ้า เช่น หญ้าคา และอ้อย spontaneum . severalcompositae และเฟิร์นยังเติบโตในพวกเขาระหว่างเนินเขา , ที่ดินปลูกข้าวและพืชแบนด้วยเงินสดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม พืชพรรณธรรมชาติบนเนินเขาช็อกโกแลตถูกคุกคามในขณะนี้ โดยสามารถกิจกรรม

ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตเนินภูเขาหินปูนรูปกรวยคล้ายกับที่พบในหินปูน ภูมิภาคของ สโลวีเนีย โครเอเชีย ตอนเหนือของเปอร์โตริโกและ cuba . kgm จังหวัดคิวบา