Differential AttritionThe term attr

Differential Attrition
The term attrition refers to participant withdrawal from a research study before it is completed. As long as the rate of attrition is fairly consistent from one group to another, it usually is not a threat to internal validity. However, big differences in attrition rates between groups can create problems. The different groups are initially created to be as similar as possible; if large numbers of individuals leave one group, the group may no longer be similar to the other Again, whenever the groups of participants are noticeably different, the research is confounded. Differential attrition refers to differences in attrition rates from one group to another and can threaten the internal validity of a between-subjects experiment.
For example, a researcher may want to test the effectiveness of a dieting program. Using a between-subjects design, the researcher forms two groups of participants with approximately equal characteristics (weight, gender, dieting history). Next, one group of participants begins the 10-week dieting program and the other group receives no treatment (this group, recall from Chapter 9, is the no treatment control ). At the end of the 10 weeks, the weights of the two groups are compared. During the course of the 10 weeks, however, it is likely that some participants will drop out of the study. If more participants drop out of one group than the other, there is a risk that the two groups will no longer be similar. For example, some of the individuals in the dieting program may decide that it is too demanding and withdraw from the study. As a result, only the most motivated participants stay in the diet program. Although the study started with two equivalent groups, the individuals who are left in the program at the end have a higher level of motivation than those in the control group. In this case, the difference in dropout rate between the groups could account for the obtained differences in mean weight. Differential attrition is a threat to internal validity because we do not know whether the obtained differences between treatment conditions are caused by the treatments or by differential attrition. Whenever participants drop out of a study, a researcher must be concerned about differential attrition as an alternative explanation for treatment effects.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วน Attrition
attrition ระยะถึงถอนผู้เข้าร่วมจากการศึกษาวิจัยก่อนก็ได้ ตราบเท่าที่อัตรา attrition ค่อนข้างสอดคล้องกันจากกลุ่มหนึ่งไปยังอีก มันมักจะไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการมีผลบังคับใช้ภายใน อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างใหญ่ในราคา attrition ระหว่างกลุ่มสามารถสร้างปัญหา เริ่มต้นสร้างกลุ่มต่าง ๆ ให้คล้ายที่สุด ถ้าบุคคลลาหนึ่งกลุ่ม กลุ่มจำนวนมากอาจไม่เหมือนกับอื่น ๆ อีกครั้ง เมื่อใดก็ ตามกลุ่มของผู้เรียนแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด การวิจัยเป็น confounded Attrition แตกต่างถึงความแตกต่างใน attrition ราคาจากกลุ่มอื่น และสามารถมีผลบังคับใช้ภายในของการทดลองระหว่างวิชาเป็นการคุกคาม
ตัวอย่าง นักวิจัยอาจต้องการทดสอบประสิทธิภาพของโปรแกรม dieting ใช้แบบระหว่างวิชา กลุ่มสองฟอร์มนักวิจัยของผู้เข้าร่วมมีประมาณเท่ากับลักษณะ (น้ำหนัก เพศ การอดอาหารประวัติ) โปรแกรม dieting 10 สัปดาห์เริ่มต้นกลุ่มหนึ่งของผู้เรียน และกลุ่มได้รับ (กลุ่มนี้ เรียกคืนจากบทที่ 9 เป็นตัวควบคุมไม่รักษา) การรักษาไม่ น้ำหนักของกลุ่มสองจะเปรียบเทียบเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ 10 ระหว่างหลักสูตร 10 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ก็มีแนวโน้มว่า บางคนจะลดลงจากการศึกษา ถ้าผู้เข้าร่วมเพิ่มเติมปล่อยจากกลุ่มหนึ่งกว่าอื่น มีความเสี่ยงที่กลุ่มที่สองจะไม่มีเหมือนกัน ตัวอย่าง บางบุคคลในโปรแกรม dieting อาจตัดสินใจว่า จะเรียกร้องมากเกินไป และถอนตัวออกจากการศึกษา ดังนั้น เฉพาะผู้เรียนแรงจูงใจมากที่สุดอยู่ในโปรแกรมอาหาร แม้ว่าการศึกษาเริ่มต้น ด้วยกลุ่มเทียบเท่า 2 บุคคลที่เหลือในโปรแกรมจบระดับสูงของแรงจูงใจในกลุ่มควบคุมได้ ในกรณีนี้ ความแตกต่างในอัตราเป็นถอนระหว่างกลุ่มสามารถบัญชีสำหรับผลต่างได้รับน้ำหนักเฉลี่ย Attrition แตกต่างจะเป็นอุปสรรคต่อการมีผลบังคับใช้ภายใน เพราะเราไม่รู้ว่า จะเกิดแตกรักษาสภาพได้รับการรักษา หรือ attrition แตกต่าง เมื่อปล่อยผู้เข้าร่วมจากการศึกษา นักวิจัยต้องกังวล attrition แตกต่างเป็นคำอธิบายอื่นสำหรับผลการรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความแตกต่างของการเสียดสี
ขัดสีหมายถึงการถอนตัวจากการเข้าร่วมการศึกษาวิจัยก่อนที่จะเสร็จสิ้น ตราบใดที่อัตราการขัดสีค่อนข้างสอดคล้องกันจากกลุ่มหนึ่งไปยังอีกที่ก็มักจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อความถูกต้องภายใน อย่างไรก็ตามความแตกต่างใหญ่ในอัตราการขัดสีระหว่างกลุ่มสามารถสร้างปัญหา กลุ่มที่แตกต่างกันถูกสร้างขึ้นที่จะเป็นเช่นเดียวกับที่เป็นไปได้ ถ้าจำนวนมากของบุคคลออกจากกลุ่มหนึ่งกลุ่มที่อาจจะคล้ายกับคนอื่น ๆ อีกครั้งเมื่อใดก็ตามที่กลุ่มของผู้เข้าร่วมมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดการวิจัยจะได้อายเพราะไม่ การขัดสีที่แตกต่างกันหมายถึงความแตกต่างในอัตราการขัดสีจากกลุ่มหนึ่งไปยังอีกและสามารถคุกคามความตรงภายในของการทดลองระหว่างกลุ่ม
ตัวอย่างเช่นนักวิจัยอาจต้องการที่จะทดสอบประสิทธิภาพของโปรแกรมการอดอาหาร โดยใช้การออกแบบระหว่างอาสาสมัครนักวิจัยในรูปแบบสองกลุ่มของผู้เข้าร่วมที่มีลักษณะเท่ากันโดยประมาณ (น้ำหนักเพศอดอาหารประวัติศาสตร์) ถัดไปกลุ่มหนึ่งของผู้เข้าร่วมเริ่มต้นโปรแกรมการอดอาหาร 10 สัปดาห์และกลุ่มอื่น ๆ ไม่ได้รับการรักษา (กลุ่มนี้เรียกคืนจากบทที่ 9 เป็นไม่สามารถควบคุมการรักษา) ในตอนท้ายของ 10 สัปดาห์น้ำหนักของทั้งสองกลุ่มจะถูกเปรียบเทียบ ในช่วง 10 สัปดาห์อย่างไรก็ตามมันอาจเป็นไปได้ว่าผู้เข้าร่วมบางส่วนจะเลื่อนออกจากการศึกษา หากผู้เข้าร่วมมากขึ้นออกจากกลุ่มหนึ่งกว่าที่อื่น ๆ มีความเสี่ยงที่ทั้งสองกลุ่มจะไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่นบางส่วนของบุคคลในโปรแกรมการอดอาหารอาจตัดสินใจว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทายเกินไปและถอนตัวออกจากการศึกษา เป็นผลให้ผู้เข้าร่วมเพียงแรงบันดาลใจมากที่สุดอยู่ในโปรแกรมอาหาร ถึงแม้ว่าการศึกษาเริ่มต้นด้วยสองกลุ่มเทียบเท่าบุคคลที่ถูกทิ้งไว้ในโปรแกรมในตอนท้ายมีระดับที่สูงขึ้นของแรงจูงใจกว่าในกลุ่มควบคุม ในกรณีนี้ความแตกต่างในอัตราการออกกลางคันระหว่างกลุ่มสามารถอธิบายความแตกต่างได้ในน้ำหนักเฉลี่ย การขัดสีที่แตกต่างเป็นภัยคุกคามต่อความถูกต้องภายในเพราะเราไม่ทราบว่าได้รับความแตกต่างระหว่างการรักษาสภาพที่เกิดจากการรักษาหรือโดยการขัดสีที่แตกต่างกัน เมื่อใดก็ตามที่ผู้เข้าร่วมออกจากการศึกษาวิจัยจะต้องมีความกังวลเกี่ยวกับการขัดสีที่แตกต่างกันในฐานะที่เป็นคำอธิบายทางเลือกสำหรับการผลการรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความแตกต่างการล้างผลาญ
ในระยะการหมายถึงผู้ถอนตัวจากการศึกษาวิจัยก่อนที่จะเสร็จสมบูรณ์ ตราบใดที่อัตราการขัดสีที่ค่อนข้างสอดคล้องกันจากกลุ่มหนึ่งไปยังอีก มันมักจะไม่คุกคามความตรงภายใน อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างใหญ่ในอัตราการขัดสีระหว่างกลุ่มที่สามารถสร้างปัญหากลุ่มที่แตกต่างกันจะเริ่มต้นสร้างให้คล้ายที่สุด ถ้าตัวเลขขนาดใหญ่ของบุคคลจากกลุ่มหนึ่ง กลุ่มที่ไม่อาจจะคล้าย ๆอีกครั้ง เมื่อกลุ่มของผู้เข้าร่วมที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดและอับอายค่าชดใช้หมายถึงความแตกต่างในอัตราการขัดสีจากกลุ่มหนึ่งไปยังอีกและสามารถคุกคามความตรงภายในของกลุ่มตัวอย่างระหว่างการทดลอง
ตัวอย่างเช่น นักวิจัยอาจต้องการทดสอบประสิทธิผลของโปรแกรมลดน้ำหนัก . ใช้ระหว่างการออกแบบครั้งนี้ ผู้วิจัย แบบ สองกลุ่มของผู้เข้าร่วมที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ( น้ำหนัก เพศลดความอ้วนประวัติ ) ถัดไป หนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วมเริ่ม 10 สัปดาห์ลดความอ้วนโปรแกรม และกลุ่มอื่น ๆไม่ได้รับการรักษา ( กลุ่มนี้ เรียกจากบทที่ 9 คือ การควบคุมการรักษา ) ในตอนท้ายของ 10 สัปดาห์ น้ำหนักของทั้งสองกลุ่มมาเปรียบเทียบ ในระหว่างหลักสูตรของ 10 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าผู้เข้าร่วมบางคนจะลาออกจากการเรียนถ้าผู้เข้าร่วมมากขึ้นออกจากกลุ่มหนึ่งมากกว่าอื่น ๆมีความเสี่ยงว่าทั้งสองกลุ่มจะไม่คล้ายกัน ตัวอย่างเช่นบางส่วนของบุคคลใน dieting โปรแกรมอาจตัดสินใจว่ามันเป็นมากเกินไปเรียกร้องและถอนตัวจากการศึกษา ผล แต่ส่วนใหญ่มีแรงจูงใจที่เข้าร่วมอยู่ในโปรแกรมอาหาร แม้ว่าการศึกษาเริ่มต้นด้วยสองเทียบเท่ากลุ่มบุคคลที่เหลือในโปรแกรมในตอนท้ายมีสูงกว่าระดับของแรงจูงใจสูงกว่ากลุ่มควบคุม ในกรณีนี้ ความแตกต่างในอัตราออกกลางคันระหว่างกลุ่มอาจบัญชีสำหรับรับน้ำหนักเฉลี่ยความแตกต่างการเป็นภัยคุกคามต่อความตรงภายใน เพราะเราไม่รู้ว่า ค่าความแตกต่างระหว่างเงื่อนไขการรักษาที่เกิดจากการรักษา หรือ ค่าสึก . เมื่อใดก็ตามที่ผู้ที่ออกจากการศึกษา นักวิจัยจะต้องกังวลเกี่ยวกับการเป็นส่วนคำอธิบายทางเลือกสำหรับผลรักษา