Design and MethodsThis single blind

Design and Methods

This single blinded randomized controlled trial was conducted among 170 persons with dementia living in nursing homes. Mean age was 86.7 years (SD = 7.4) and 74% were women. The participants were randomly allocated to an intervention (n = 87) or a control group (n = 83). The intervention consisted of intensive strengthening and balance exercises in small groups twice a week for 12 weeks. The control condition was leisure activities.

Results

The intervention group improved the score on Bergs Balance Scale by 2.9 points, which was significantly more than the control group who improved by 1.2 points (p = 0.02). Having exercised 12 times or more was significantly associated with improved strength after intervention (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ออกแบบและวิธีการเดียว blinded randomized ควบคุมทดลองถูกดำเนินการระหว่าง 170 คน มีสมองเสื่อมในสถานพยาบาล หมายความว่า อายุ 86.7 ปี (SD = 7.4) และ 74% ผู้หญิง ผู้เข้าร่วมถูกปันส่วนไปแทรกแซงการสุ่ม (n = 87) หรือกลุ่มควบคุม (n = 83) แทรกแซงประกอบด้วยเร่งรัดเพิ่มและออกกำลังกายสมดุลในกลุ่มเล็ก ๆ สองสัปดาห์ 12 สัปดาห์ สภาพควบคุมเป็นกิจกรรมผลลัพธ์กลุ่มแทรกแซงปรับปรุงคะแนนในระดับ Bergs ดุล 2.9 จุด ซึ่งถูกมากเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ปรับปรุง 1.2 จุด (p = 0.02) มีใช้ 12 ครั้ง หรือมากกว่าได้อย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแรงปรับปรุงหลังจากการแทรกแซง (p < 0.05) ระดับของ apathy ต่ำกว่าในกลุ่มออกกำลังกายหลังจากแทรกแซง การเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (p = 0.048)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การออกแบบและวิธีการทดลองแบบสุ่มตาบอดนี้เดียวที่ได้รับดำเนินการใน 170 คนที่อาศัยอยู่กับภาวะสมองเสื่อมในบ้านพยาบาล อายุเฉลี่ย 86.7 ปีเป็น (SD = 7.4) และ 74% เป็นผู้หญิง เข้าร่วมถูกสุ่มเพื่อแทรกแซง (n = 87) หรือกลุ่มควบคุม (n = 83) การแทรกแซงประกอบด้วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและการออกกำลังกายอย่างเข้มข้นสมดุลในกลุ่มเล็ก ๆ สองครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เงื่อนไขการควบคุมเป็นกิจกรรมสันทนาการ. ผลการกลุ่มการแทรกแซงการปรับปรุงคะแนนใน Bergs สมดุลขนาด 2.9 จุดซึ่งมีนัยสำคัญมากขึ้นกว่ากลุ่มควบคุมที่ดีขึ้น 1.2 จุด (p = 0.02) มีการใช้สิทธิครั้งที่ 12 หรือมากกว่ามีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญที่มีความแข็งแรงดีขึ้นหลังจากการแทรกแซง (p <0.05) ระดับของความไม่แยแสคือลดลงในกลุ่มการออกกำลังกายหลังจากการแทรกแซงเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (p = 0.048)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ออกแบบและวิธี

เดียวตาบอดการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมกลุ่ม 170 คนความจำเสื่อมที่อาศัยอยู่ในบ้านพยาบาล อายุเฉลี่ย 86.7 ปี ( SD = 7.4 ) และ 74% เป็นผู้หญิง ผู้เข้าร่วมที่สุ่มเพื่อการแทรกแซง ( n = 87 ) และกลุ่มควบคุม ( N = 83 )โดยมีการฝึกเข้มข้นและความสมดุลในกลุ่มเล็ก ๆ สองครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ สภาพควบคุมได้ผล

กิจกรรมสันทนาการ กลุ่มปรับปรุงคะแนน bergs เครื่องชั่งโดย 2.9 คะแนน

ซึ่งมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่เพิ่มขึ้น 1.2 จุด ( p = 0.02 )การใช้สิทธิ 12 ครั้งหรือมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงความแข็งแรงหลังการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) ระดับของความไม่แยแสที่ลดลงในกลุ่มออกกำลังกาย หลังกิจกรรมแทรกแซง เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ( p = 0.048 )