Management of acidic soilsSoil test

Management of acidic soils
Soil testing
Knowledge of how soil pH profiles and acidification rates vary across the farm will assist effective soil acidity management.
Ideally, soil samples should be taken when soils are dry and have minimal biological activity. It is standard to measure pH using one part soil to five parts 0.01 M CaCl2. Soils with low total salts show large seasonal variation in pH if it is measured in water. pH measured in water can read 0.6 – 1.2 pH units higher than in calcium chloride (Moore et al., 1998).
Soil sampling should take paddock variability into consideration. For example, clays have greater capacity to resist pH change (buffering) than loams, which are better buffered than sands. Samples should be taken at the surface and in the subsurface to determine a soil pH profile. This will detect subsurface acidity, which may underlie topsoils with an optimal pH.
Samples need to be properly located (e.g. GPS) to allow monitoring. Sampling should be repeated every 3 – 4 years to detect changes and allow adjustment of management practices.
Interpreting pH results
Depending on soil pH test results, agricultural lime may need to be applied to maintain pH, or to recover pH to an appropriate level. If the topsoil pH is above 5.5 and the subsurface pH above 4.8, only maintenance levels of liming will be required to counter on-going acidification caused by productive agriculture.
If the topsoil pH is below 5.5, recovery liming is recommended. Keeping the topsoil above 5.5 will treat the on-going acidification due to farming and ensure sufficient alkalinity can move down and treat subsurface acidity.
Liming is necessary if the subsurface pH is below 4.8, whether or not the topsoil is acidic. If the 10 – 20 cm layer is below 4.8 but the 20 – 30 cm layer above 4.8, liming is still required. In this case the band of acidic soil will restrict root access to the more suitable soil below.
Liming
Liming is the most economical method of ameliorating soil acidity. The amount of lime required will depend on the soil pH profile, lime quality, soil type, farming system and rainfall.
Limesand, from coastal dunes, crushed limestone and dolomitic limestone are the main sources of agricultural lime. Carbonate from calcium carbonate and magnesium carbonate is the component in all of these sources that neutralises acid in soil.
The key factors in lime quality are neutralising value and particle size. The neutralising value of the lime is expressed as a percentage of pure calcium carbonate which is given a value of 100 %. With a higher neutralising value, less lime can be used, or more area treated, for the same pH change. Lime with a higher proportion of small particles will react quicker to neutralise acid in the soil, which is beneficial when liming to recover acidic soil.
Complementary management strategies
If soil pH is low, using tolerant species/varieties of crops and pasture can reduce the impact of soil acidity. This is not a permanent solution because the soil will continue to acidify without liming treatment.
A number of management practices can reduce the rate of soil acidification. Management of nitrogen fertiliser input to reduce nitrate leaching is most important in high rainfall areas. Product export can be reduced by feeding hay back onto paddocks from where it has been cut. Less acidifying options in rotations will also help, e.g. replace legume hay with a less acidifying crop or pasture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การจัดการดินที่เป็นกรด
ของดินการทดสอบ
ความรู้เกี่ยวกับวิธีการที่ค่า pH ของดินโปรไฟล์และอัตรากรดแตกต่างกันในฟาร์มจะช่วยให้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพความเป็นกรดของดิน.
อุดมคติตัวอย่างดินควรจะต้องดำเนินการเมื่อดินจะแห้งและมีฤทธิ์ทางชีวภาพน้อยที่สุด มันเป็นมาตรฐานในการวัดค่า pH ของดินโดยใช้ส่วนหนึ่งถึงห้าชิ้นส่วน 0.01 M CaCl2 ดินที่มีเกลือต่ำแสดงการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลที่มีขนาดใหญ่ในค่า pH ถ้ามันเป็นวัดในน้ำ วัดค่า pH ในน้ำสามารถอ่าน 0.6 - (. มัวร์และคณะ, 1998). 1.2 pH หน่วยสูงกว่าในแคลเซียมคลอไรด์
สุ่มตัวอย่างดินควรจะแปรปรวนคอกเข้าสู่การพิจารณา ตัวอย่างเช่นดินเหนียวมีความสามารถมากขึ้นในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงค่า pH (บัฟเฟอร์) มากกว่า loams ซึ่งเป็นบัฟเฟอร์ดีกว่าหาดทราย ตัวอย่างจะต้องดำเนินการที่พื้นผิวและในดินเพื่อตรวจสอบรายละเอียดค่า pH ของดิน นี้จะตรวจสอบความเป็นกรดดินซึ่งอาจรองรับดินชั้นบนที่มีค่า pH ที่เหมาะสม.
ตัวอย่างจะต้องมีการตั้งอยู่อย่างถูกต้อง (เช่นจีพีเอส) เพื่อให้ตรวจสอบ การเก็บตัวอย่างควรทำซ้ำทุก 3 - 4. ปีที่จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงและช่วยให้การปรับตัวของการจัดการ
การตีความผลการวัดค่า pH
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการทดสอบค่า pH ของดิน, มะนาวการเกษตรอาจจะต้องถูกนำมาใช้ในการรักษาค่า pH หรือการกู้คืนค่า pH ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ถ้าค่า pH ดินอยู่เหนือ 5.5 และค่า pH ดินด้านบน 4.8 ระดับการบำรุงรักษาเพียงอย่างเดียวของปูนจะต้องตอบโต้ที่กำลังเป็นกรดที่เกิดจากการผลิตทางการเกษตร.
ถ้าค่า pH ดินต่ำกว่า 5.5 ปูนกู้คืนขอแนะนำ รักษาดินด้านบน 5.5 จะรักษาที่กำลังเป็นกรดเนื่องจากการทำการเกษตรและให้แน่ใจด่างเพียงพอสามารถย้ายลงและรักษาความเป็นกรดดิน.
ปูนเป็นสิ่งที่จำเป็นถ้าค่า pH ดินต่ำกว่า 4.8 หรือไม่ดินมีสภาพเป็นกรด ถ้า 10 - 20 ซม. ชั้นต่ำกว่า 4.8 แต่ 20 - 30 ซม. ชั้นดังกล่าวข้างต้น 4.8, ปูนจะต้องยังคง ในกรณีนี้วงของดินที่เป็นกรดจะ จำกัด การเข้าถึงรากของดินที่เหมาะสมเพิ่มเติมด้านล่าง.
ปูน
ปูนเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดของขบเขี้ยวเคี้ยวฟันความเป็นกรดของดิน ปริมาณของมะนาวที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดค่า pH ของดินที่มีคุณภาพมะนาวชนิดของดิน, ระบบการเลี้ยงและปริมาณน้ำฝน.
Limesand จากเนินทรายชายฝั่งหินปูนบดและหินปูนโดโลไมท์เป็นแหล่งที่มาหลักของมะนาวการเกษตร คาร์บอเนตจากแคลเซียมคาร์บอเนตและแมกนีเซียมคาร์บอเนตเป็นองค์ประกอบในทุกแหล่งข้อมูลเหล่านี้ที่ทำให้กรดเป็นกลางในดิน.
ปัจจัยสำคัญในการที่มีคุณภาพมะนาวจะ neutralizing มูลค่าและขนาดอนุภาค มูลค่า neutralizing ของมะนาวจะแสดงเป็นร้อยละของแคลเซียมคาร์บอเนตบริสุทธิ์ซึ่งจะได้รับค่าเป็น 100% ด้วยมูลค่า neutralizing สูงกว่ามะนาวน้อยสามารถนำมาใช้หรือพื้นที่อื่น ๆ ได้รับการรักษาสำหรับการเปลี่ยนแปลงค่า pH เดียวกัน มะนาวที่มีสัดส่วนที่สูงขึ้นของอนุภาคขนาดเล็กจะตอบสนองได้เร็วขึ้นเพื่อแก้กรดในดินซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อปูนที่จะกู้คืนดินที่เป็นกรด.
กลยุทธ์การจัดการเสริม
ถ้า pH ของดินอยู่ในระดับต่ำโดยใช้สายพันธุ์ใจกว้าง / พันธุ์ของพืชและทุ่งหญ้าสามารถลดผลกระทบ ความเป็นกรดของดิน นี้ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างถาวรเพราะดินจะยังคงทำให้เป็นกรดโดยไม่ต้องรักษาปูน.
จำนวนของการจัดการสามารถลดอัตราการเป็นกรดของดิน การบริหารจัดการของการป้อนปุ๋ยเพื่อลดการชะล้างไนเตรตเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในพื้นที่ปริมาณน้ำฝนสูง การส่งออกสินค้าจะลดลงด้วยการกินหญ้าแห้งกลับเข้าสู่ม้างจากที่ได้รับการตัด หัก acidifying ตัวเลือกในการผลัดยังจะช่วยให้เช่นแทนที่หญ้าแห้งพืชตระกูลถั่วที่มีการเพาะปลูก acidifying น้อยกว่าหรือทุ่งหญ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจัดการของกรดดิน

ความรู้ของวิธีการทดสอบดินดินสภาพและราคาแตกต่างกันไปในทางฟาร์มจะช่วยการจัดการดินกรดจัดที่มีประสิทธิภาพ .
ใจกลาง ดินควร เมื่อดินแห้ง และมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่น้อยที่สุด มันเป็นมาตรฐานที่ใช้วัด pH ดินหนึ่งส่วนห้าส่วน 0.01 M ผลิต .ดินที่มีเกลือต่ำแสดงทั้งหมดฤดูกาลเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ใน pH ถ้าเป็นวัดในน้ำ วัด pH ในน้ำสามารถอ่านหน่วย pH 0.6 และ 1.2 สูงกว่าแคลเซียม คลอไรด์ ( Moore et al . , 1998 ) .
ตัวอย่างดินควรใช้คอกโดยไม่พิจารณา เช่น ดินเหนียวมีความจุมากขึ้นเพื่อต้านทานด่าง ( บัฟเฟอร์ ) กว่า loams ซึ่งดีขึ้นกว่าในทรายตัวอย่างที่ควรถ่ายพื้นผิวและในการตรวจสอบดินข้อมูล นี้จะตรวจสอบความเป็นกรดของดิน ซึ่งจะรองรับที่เหมาะสมดินชั้นบนกับเอก
ตัวอย่างต้องถูกต้องตั้งอยู่ ( เช่น GPS ) เพื่อให้ตรวจสอบ คนควรจะซ้ำทุก 3 – 4 ปี เพื่อตรวจหาการเปลี่ยนแปลงและให้ปรับวิธีการจัดการ การตีความผล

อขึ้นอยู่กับผลการทดสอบดิน , มะนาวเกษตรอาจต้องใช้เพื่อรักษาความเป็นกรดด่าง หรือ pH ได้ระดับที่เหมาะสม ถ้าดิน pH สูงกว่า 5.5 และระดับ pH 4.8 ข้างต้นเพียงการบำรุงรักษาระดับของปูนจะต้องนับต่อเนื่องจากผลผลิตทางการเกษตร .
ถ้าดิน pH ต่ำกว่า 5.5 , การกู้คืนๆ แนะนํารักษาดินข้างต้น 5.5 จะรักษาต่อเนื่องจากการเกษตร และให้แน่ใจว่าเป็นกรดด่างที่เพียงพอสามารถเลื่อนลงและรักษาความเป็นกรดของดิน ถ้าดิน
ปูนเป็นด่างต่ำกว่า 4.8 หรือไม่ว่าดินเป็นกรด ถ้า 10 – 20 ซม. ชั้นล่างเป็น 4.8 แต่ 20 – 30 ซม. ชั้นขึ้นไป 4.8 ปูนยังต้องในกรณีนี้ วงดนตรีของดินที่เป็นกรดจะ จำกัด การเข้าถึงรากเพื่อความเหมาะสมมากขึ้น

ปูนปูนดินด้านล่าง เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดของ ameliorating ความเป็นกรดของดิน จํานวนมะนาวต้องขึ้นอยู่กับดินโปรไฟล์ , คุณภาพ , มะนาว ชนิดของดิน ปริมาณน้ำฝน และระบบเกษตร .
limesand จากเนินทรายชายฝั่งหินปูนบดละเอียด และ โดโลมิติค ไลม์ ตนเป็นแหล่งหลักของมะนาวเกษตร คาร์บอเนตจากแคลเซียมคาร์บอเนต และแมกนีเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนประกอบทั้งหมดของเหล่านี้เป็นแหล่งที่ neutralises กรดในดิน
ปัจจัยสําคัญในคุณภาพ มะนาว เป็น neutralising มูลค่าและขนาดของอนุภาคการ neutralising คุณค่าของมะนาวจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของบริสุทธิ์ แคลเซียม คาร์บอเนต ซึ่งจะได้รับค่า 100% ด้วยมูลค่าที่สูง neutralising มะนาวน้อยสามารถใช้ หรือเพิ่มเติมพื้นที่ปฏิบัติ สำหรับการเปลี่ยนแปลงพีเอชเดียวกัน ภาวะที่มีสัดส่วนที่สูงของอนุภาคขนาดเล็กจะตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเพื่อต่อต้านกรดในดิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อปูนที่จะกู้คืน
ดินที่เป็นกรดเสริมกลยุทธ์การจัดการ
ถ้าดินต่ำ การใช้พันธุ์ใจกว้าง / พันธุ์ของพืชและอาหารสามารถลดผลกระทบของความเป็นกรดของดิน นี้ไม่ได้เป็นทางออกที่ถาวร เพราะดินจะเปลี่ยนเป็นกรด โดยให้ผลการรักษา .
หมายเลขของแนวทางการจัดการสามารถลดอัตราการสร้างกรดของดินการจัดการข้อมูลเพื่อลดไนเตรทไนโตรเจนปุ๋ยแร่สำคัญที่สุดในพื้นที่ปริมาณน้ำฝนสูง การส่งออกสินค้าจะลดลง โดยให้อาหารแห้งกลับเข้าสู่รี จากที่ถูกตัด ที่มีฤทธิ์เป็นกรดน้อยกว่าตัวเลือกจะช่วยในการหมุน , ถั่วแห้งเช่นแทนที่ด้วยพืชหรืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดน้อยลง