These shoes acquired the nickname '

These shoes acquired the nickname 'plimsoll' in the 1870s, derived, according to Nicholette Jones' book The Plimsoll Sensation, from the coloured horizontal band joining the upper to the sole, which resembled the Plimsoll line on a ship's hull. Alternatively, just like the Plimsoll line on a ship, if water got above the line of the rubber sole, the wearer would get wet.[6]

Plimsolls were widely worn by vacationers and also began to be worn by sportsmen on the tennis and croquet courts for their comfort. Special soles with engraved patterns to increase the surface grip of the shoe were developed, and these were ordered in bulk for the use of the British Army. Athletic shoes were increasingly used for leisure and outdoor activities at the turn of the 20th century - plimsolls were even found with the ill-fated Scott Antarctic expedition of 1911. Plimsolls were made compulsory in schools' physical education lessons in the UK.

British company J.W. Foster and Sons designed and produced the first shoes designed for running in 1895; the shoes were spiked to allow for greater traction and speed. The company sold its high-quality handmade running shoes to athletes around the world, eventually receiving a contract for the manufacture of running shoes for Team GB in the 1924 Summer Olympics - Harold Abrahams and Eric Liddell won the 100-m and 400-m events, kitted out with Foster's running gear.[7]


A pair of white athletic shoes with pink accents
This style of footwear also became prominent in America at the turn of the 20th century, where they were called 'sneakers'. In 1892, the U.S. Rubber Company introduced the first rubber-soled shoes in the country, sparking a surge in demand and production. The first basketball shoes were designed by the Spalding as early as 1907. The market for sneakers grew after World War I, when sports and athletics increasingly became a way to demonstrate moral fiber and patriotism. The U.S. market for sneakers grew steadily as young boys lined up to buy sneakers endorsed by football player Jim Thorpe and Converse All Stars endorsed by basketball player Chuck Taylor.

During the interwar period, athletic shoes began to be marketed for different sports, and differentiated designs were made available for men and women. Athletic shoes were used by competing athletes at the Olympics, helping to popularise athletic shoes among the general public. In 1936, a French brand, Spring Court,[8] marketed the first canvas tennis shoe featuring signature eight ventilation channels on a vulcanised natural rubber sole.

Rudolf "Rudi" Dassler began producing his own sports shoes in his mother's wash kitchen in Herzogenaurach, Bavaria, after his return from World War I, and went on to establish one of the leading athletic shoe manufacturers, Adidas.[9] He also successfully marketed his shoes to athletes at the 1936 Summer Olympics, which helped cement his good reputation. Business boomed and the Dasslers were selling 200,000 pairs of shoes each year before World War II.[10]


A large pile of athletic shoes for sale at a market in Hong Kong
During the 1950s, leisure opportunities greatly expanded, and children and adolescents began to wear sneakers as school dress codes relaxed. Sneaker sales rose so high, they began to adversely impact on the sales of conventional leather shoes, leading to a fierce advertising war for market share in the late '50s. In the 1970s, jogging for exercise became increasingly popular, and trainers designed specifically for comfort while jogging sold well. Companies also started to market their products as a lifestyle choice. Soon, shoes were available for football, jogging, basketball, running, etc. Every sport had its own shoe, made possible by podiatrist development of athletic shoe technology.

During the 1990s, shoe companies perfected their fashion and marketing skills. Sports endorsements grew larger, and marketing budgets went through the roof. Sneakers became a fashion statement and definition of identity and personality rather than humble athletic aids.[11]

From 1970 (5 models) over 1998 (285 models) to 2012 (3,371), the number of sport shoe models in the U.S. has grown exponentially.[12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รองเท้าเหล่านี้ได้รับการชื่อเล่น 'plimsoll' ใน 1870s มา ตาม Nicholette Jones' เดอะ Plimsoll รู้สึก จากหนังสือแถบแนวนอนสีรวมบนโซล ซึ่งคล้ายกับบรรทัด Plimsoll บนตัวเรือของเรือ หรือ เหมือนบรรทัด Plimsoll บนเรือ น้ำมีเหนือเส้นยางแต่เพียงผู้เดียว ผู้สวมใส่จะรับน้ำไว้ [6]Plimsolls ถูกสวมใส่ โดยนักท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง และเริ่มต้นการสวมใส่ โดย sportsmen บนสนามเทนนิสและ croquet เพื่อความสะดวกสบายของพวกเขา พื้นพิเศษ ด้วยลวดลายแกะสลักเพื่อเพิ่มการจับพื้นผิวของรองเท้าได้รับการพัฒนา และเหล่านี้ที่สั่งเป็นจำนวนมากในการใช้งานของกองทัพอังกฤษ รองเท้ากีฬามากขึ้นใช้สำหรับการพักผ่อนและกิจกรรมกลางแจ้งที่เปิดของศตวรรษ 20 - plimsolls แม้พบกับเร่งแอนตาร์กติกสก็อตทัพมของ 1911 Plimsolls ได้ทำการบังคับในการเรียนพลศึกษาของโรงเรียนในสหราชอาณาจักรบริษัทบริติช J.W. ฟอสเตอร์และบุตรออกแบบ และผลิตมาใช้ในปีค.ศ. 1895 เพื่อ รองเท้าแรก รองเท้ามี spiked เพื่ออนุญาตให้ลากและความเร็วมากขึ้น บริษัทที่ขายของคุณภาพงานฝีมือรองเท้านักกีฬาทั่วโลก ในที่สุดได้รับสัญญาในการผลิตของรองเท้าสำหรับทีม GB ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1924 - Abrahams ฮาโรลด์และ Eric Liddell ชนะ 100 เมตร และ 400 เมตรเหตุการณ์ kitted ออก ด้วยเกียร์ใช้ของฟอสเตอร์ [7]คู่ของรองเท้ากีฬาสีขาวกับสีชมพูเน้นรองเท้าลักษณะนี้ยังกลายเป็นโดดเด่นในอเมริกาที่เปิดของศตวรรษที่ 20 ที่พวกเขาเรียกว่า 'รองเท้า' ในค.ศ. 1892 บริษัทยางสหรัฐฯ นำรองเท้ายาง soled ที่แรกในประเทศ ประกายไฟในการผลิตและความต้องการ รองเท้าบาสเกตบอลครั้งแรกถูกออกแบบ โดย Spalding ก่อนเป็นเศษ ๆ ตลาดรองเท้าเพิ่มขึ้นหลังจากสงครามโลก เมื่อกีฬาและกรีฑาขึ้นเป็น วิธีแสดงให้เห็นถึงศีลธรรมและหมี ตลาดสหรัฐสำหรับรองเท้าโตอย่างต่อเนื่องเป็นชายหนุ่มที่ตั้งเรียงรายไปซื้อรองเท้ารับรอง โดยฟุตบอลโธร์ปจิมและดาวทั้งหมดตรงกันข้ามโดยผู้เล่นบาสเก็ตบอลชัคเทย์เลอร์ช่วง interwar รองเท้ากีฬาเริ่มมีตลาดสำหรับกีฬาที่แตกต่าง และงานออกแบบต่าง ๆ ทำว่างสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ใช้รองเท้ากีฬา โดยนักกีฬาที่แข่งขันในโอลิมปิก ช่วย popularise รองเท้ากีฬาในหมู่ประชาชนทั่วไป ในค.ศ. 1936 แบรนด์ฝรั่งเศส สปริงคอร์ท, [8] ตลาดรองเท้าแรกของเทนนิสผืนผ้าใบมีลายเซ็น 8 ระบายอากาศช่องบนยางธรรมชาติ vulcanised แต่เพียงผู้เดียวรูดอล์ฟ "Rudi" Dassler เริ่มผลิตรองเท้ากีฬาของเขาเองในแม่ครัวล้างใน Herzogenaurach บาวาเรีย หลัง จากที่เขากลับจากสงครามโลก ไปในการ สร้างหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำรองเท้ากีฬา อาดิดาส [9] เขายังสำเร็จเด็ดขาดนักกีฬาในโอลิมปิก 1936 ซึ่งช่วยให้ปูนซีเมนต์รองเท้าของเขาชื่อเสียงของเขา ธุรกิจ boomed และ Dasslers มีขาย 200000 คู่ของรองเท้าแต่ละปีก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง [10]รองเท้ากีฬาสำหรับขายที่ตลาดใน Hong Kong กองใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1950 ขยายโอกาสพักผ่อนอย่างมาก และเด็กและวัยรุ่นเริ่มสวมใส่รองเท้าเป็นโรงเรียนแต่งกายผ่อนคลาย หุ้มข้อสไตล์ขายกุหลาบให้สูง พวกเขาเริ่มส่งผลกระทบยอดขายของรองเท้าหนังธรรมดา การนำไปสู่สงครามรุนแรงโฆษณาสำหรับส่วนแบ่งการตลาดในสายผสม ในทศวรรษ 1970 วิ่งออกกำลังกายเป็นที่นิยมมากขึ้น และฝึกอบรมมาโดยเฉพาะเพื่อความสะดวกสบายขณะวิ่งออกกำลังกายขายดี บริษัทยังเริ่มตลาดผลิตภัณฑ์ของตนเป็นทางดำเนินชีวิต เร็ว ๆ นี้ รองเท้าถูกสำหรับฟุตบอล วิ่ง บาสเกตบอล ทำงาน ฯลฯ ทุกกีฬามีรองเท้าของตัวเอง ทำไป โดย podiatrist พัฒนารองเท้ากีฬาเทคโนโลยีในช่วงปี 1990 บริษัทรองเท้า perfected แบบแฟชั่นของพวกเขาและการตลาดทักษะ รับรองกีฬาเติบโตใหญ่ขึ้น และการตลาดงบประมาณไป through การหลังคา รองเท้ากลายเป็น แฟชั่นและนิยามของตัวตน และบุคลิกภาพ มากกว่ากีฬาเอดส์อีก [11]จาก 1970 (รุ่น 5) กว่าปี 1998 (รุ่น 285) 2555 (3,371), หมายเลขรุ่นรองเท้ากีฬาในสหรัฐอเมริกาได้เติบโตขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อ [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รองเท้าเหล่านี้ได้รับฉายา 'Plimsoll' ในยุค 1870 มาตาม Nicholette โจนส์หนังสือ Plimsoll ความรู้สึกจากวงแนวนอนสีเข้าร่วมบนเพื่อ แต่เพียงผู้เดียวซึ่งคล้ายกับสาย Plimsoll บนลำเรือ หรืออีกทางหนึ่งเช่นเดียวกับสาย Plimsoll บนเรือถ้าน้ำได้เหนือเส้นของพื้นยางที่ผู้สวมใส่จะได้รับเปียก. [6] Plimsolls ถูกสวมใส่กันอย่างแพร่หลายโดยพักผ่อนและก็เริ่มที่จะได้รับการสวมใส่โดยนักกีฬาเทนนิสและกีฬาชนิดหนึ่ง ศาลเพื่อความสะดวกสบายของพวกเขา พื้นรองเท้าพิเศษที่มีรูปแบบการแกะสลักเพื่อเพิ่มการยึดเกาะพื้นผิวของรองเท้าที่ได้รับการพัฒนาและเหล่านี้ได้รับคำสั่งในจำนวนมากสำหรับการใช้งานของกองทัพอังกฤษ รองเท้ากีฬาที่ถูกนำมาใช้มากขึ้นสำหรับกิจกรรมสันทนาการและกลางแจ้งที่หันของศตวรรษที่ 20 - plimsolls ที่พบแม้จะมีการเดินทางอาภัพของสกอตต์แอนตาร์กติก 1911 Plimsolls ได้ทำภาคบังคับในโรงเรียนบทเรียนการศึกษาทางกายภาพในสหราชอาณาจักร. บริษัท อังกฤษเจดับบลิว ฟอสเตอร์และบุตรการออกแบบและผลิตรองเท้าแรกที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานในปี 1895; รองเท้าที่ถูกแทงเพื่อให้แรงฉุดมากขึ้นและความเร็ว บริษัท ขายทำด้วยมือที่มีคุณภาพสูงรองเท้าวิ่งที่นักกีฬาทั่วโลกในที่สุดได้รับสัญญาสำหรับการผลิตรองเท้าวิ่งสำหรับทีม GB ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1924 - แฮโรลด์อับราฮัมและเอริค Liddell ได้รับรางวัล 100 เมตรและเหตุการณ์ 400 เมตร , kitted ออกไปกับฟอสเตอร์วิ่งเกียร์. [7] คู่ของรองเท้ากีฬาสีขาวขลิบชมพูรูปแบบของรองเท้านี้ก็กลายเป็นที่โดดเด่นในอเมริกาที่หันของศตวรรษที่ 20 ที่พวกเขาถูกเรียกว่า 'รองเท้า' ในปี 1892 บริษัท ฯ ยางสหรัฐเปิดตัวรองเท้ายาง soled แรกในประเทศที่เกิดประกายไฟกระชากในความต้องการและการผลิต รองเท้าบาสเก็ตครั้งแรกที่ได้รับการออกแบบโดยปอลดิ้งเป็นช่วงต้นปี 1907 ตลาดสำหรับรองเท้าผ้าใบเพิ่มขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่เมื่อการเล่นกีฬาและการแข่งขันกีฬามากขึ้นกลายเป็นวิธีการที่จะแสดงให้เห็นถึงเส้นใยทางศีลธรรมและความรักชาติ ตลาดสหรัฐสำหรับรองเท้าผ้าใบขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ชายหนุ่มเรียงรายขึ้นที่จะซื้อรองเท้าผ้าใบรับรองโดยนักฟุตบอลจิม ธ อร์ปและ Converse ดาวทั้งหมดรับรองโดยผู้เล่นบาสเกตบอลชัคเทย์เลอร์. ในช่วงระยะเวลา interwar, รองเท้ากีฬาเริ่มที่จะทำการตลาดสำหรับการเล่นกีฬาที่แตกต่างกันและการออกแบบที่แตกต่าง ถูกสร้างขึ้นมาใช้ได้สำหรับผู้ชายและผู้หญิง รองเท้ากีฬาที่ถูกนำมาใช้โดยการแข่งขันนักกีฬาในกีฬาโอลิมปิกที่ช่วยให้เป็นที่นิยมในหมู่รองเท้ากีฬาประชาชนทั่วไป ในปี 1936, แบรนด์ฝรั่งเศส, ฤดูใบไม้ผลิศาล [8] วางตลาดรองเท้าเทนนิสผ้าใบครั้งแรกที่มีลายเซ็นแปดช่องระบายอากาศบน แต่เพียงผู้เดียวยางธรรมชาติวัลคาไน. รูดอล์ฟ "ฤดี" Dassler เริ่มผลิตรองเท้ากีฬาของตัวเองในห้องครัวล้างแม่ของเขาใน Herzogenaurach, บาวาเรียหลังจากที่เขากลับมาจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและไปในการสร้างความเป็นหนึ่งในรองเท้ากีฬาชั้นนำผู้ผลิต, อาดิดาส. [9] นอกจากนี้เขายังประสบความสำเร็จในการทำการตลาดรองเท้าของเขากับนักกีฬาที่โอลิมปิกฤดูร้อน 1936 ซึ่งจะช่วยประสานชื่อเสียงที่ดีของเขา ธุรกิจดังและ Dasslers กำลังขาย 200,000 คู่ของรองเท้าในแต่ละปีก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง. [10] กองใหญ่ของรองเท้ากีฬาสำหรับการขายในตลาดในฮ่องกงในช่วงปี 1950 โอกาสที่เดินทางมาพักผ่อนขยายตัวมากและเด็กและวัยรุ่นที่เริ่ม สวมรองเท้าผ้าใบเป็นชุดโรงเรียนรหัสผ่อนคลาย ขายรองเท้าเพิ่มขึ้นสูงเช่นนั้นพวกเขาเริ่มที่จะผลกระทบต่อการจากการขายรองเท้าหนังแบบเดิมที่นำไปสู่สงครามการโฆษณาที่รุนแรงสำหรับส่วนแบ่งการตลาดในช่วงปลายยุค 50 ในปี 1970 ที่วิ่งออกกำลังกายสำหรับการออกกำลังกายกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และครูผู้ฝึกสอนที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อความสะดวกสบายในขณะที่วิ่งขายดี บริษัท ยังเริ่มต้นการตลาดผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นทางเลือกการดำเนินชีวิต เร็ว ๆ นี้รองเท้าที่มีอยู่สำหรับฟุตบอล, วิ่ง, บาสเกตบอล, วิ่ง, กีฬา ฯลฯ ทุกคนมีรองเท้าของตัวเองทำไปได้โดยการพัฒนา podiatrist ของเทคโนโลยีรองเท้ากีฬา. ในช่วงปี 1990 ที่ บริษัท รองเท้าที่สมบูรณ์แบบแฟชั่นและทักษะทางการตลาดของตน รับรองกีฬาใหญ่ขึ้นและงบประมาณการตลาดไปผ่านหลังคา รองเท้าผ้าใบกลายเป็นคำแฟชั่นและความหมายของตัวตนและบุคลิกมากกว่าโรคเอดส์แข็งแรงอ่อนน้อมถ่อมตน. [11] จาก 1970 (5 รุ่น) มากกว่า 1998 (285 รุ่น) ที่ 2012 (3371) จำนวนของรูปแบบรองเท้ากีฬาในสหรัฐอเมริกาได้เติบโตขึ้นชี้แจง . [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รองเท้าเหล่านี้ได้รับฉายา ' รองเท้ากีฬาใน 1850 , ได้มา , ตาม nicholette จองรองเท้ากีฬาเพทนา โจนส์ จากสีแนวนอนวงดนตรีเข้าร่วมบนเพื่อ แต่เพียงผู้เดียวซึ่งมีรองเท้ากีฬาบรรทัดบนเรือเรือของ หรือเหมือนรองเท้ากีฬาบรรทัดบนเรือ ถ้าน้ำได้เหนือเส้นของยาง แต่เพียงผู้เดียว , ผู้สวมใส่จะได้รับเปียก [ 6 ]

ผ้าใบถูกสวมใส่โดยพักผ่อนและเริ่มที่จะสวมใส่โดยนักกีฬาเทนนิสและสนามในเสื้อเพื่อความสะดวกสบายของพวกเขายัง พื้นรองเท้าพิเศษกับสลักลวดลายเพื่อเพิ่มจับพื้นผิวของรองเท้าถูกพัฒนาและเหล่านี้คือคำสั่งในกลุ่มเพื่อใช้ในกองทัพอังกฤษรองเท้ากีฬาถูกใช้มากขึ้นเพื่อสันทนาการและกิจกรรมกลางแจ้งที่หันของศตวรรษที่ 20 - ผ้าใบยังพบมีป่วยโชคชะตาสก็อตสำรวจขั้วโลกใต้ของ 1911 ผ้าใบทำภาคบังคับในโรงเรียนพลศึกษา บทเรียนใน UK .

อังกฤษ J.W . ฟอสเตอร์และบุตรชาย บริษัทออกแบบและผลิตรองเท้าแรกที่ออกแบบมาสำหรับวิ่งใน 1895 ;รองเท้าตะปูให้ฉุดมากขึ้นและความเร็ว บริษัทขายงานฝีมือที่มีคุณภาพสูงรองเท้าวิ่งของนักกีฬาทั่วโลก ในที่สุดได้รับสัญญาสำหรับการผลิตของรองเท้าวิ่งสำหรับทีม GB ใน 1924 โอลิมปิก - Harold Abrahams และอีริค ลิดเดล ชนะ 100-m 400-m และเหตุการณ์ kitted ออกมาพร้อมกับอุปถัมภ์คือวิ่งเกียร์ [ 7 ]


คู่ของรองเท้ากีฬาสีขาวเน้นสีชมพู
ลักษณะนี้ของรองเท้ายังกลายเป็นที่โดดเด่นในสหรัฐอเมริกาที่หันของศตวรรษที่ 20 ที่พวกเขาเรียกว่า ' รองเท้า ' ในปี 1892 , ยาง บริษัท สหรัฐนำรองเท้าพื้นยางครั้งแรกในประเทศเกิดประกายไฟ ไฟกระชากในความต้องการและการผลิต รองเท้าบาสเกตบอล Spalding แรกได้รับการออกแบบโดยเร็วเท่าที่ 1907 .ตลาดรองเท้าผ้าใบเติบโตหลังสงครามโลกครั้งที่ฉัน เมื่อกีฬามากขึ้นเป็นวิธีที่แสดงให้เห็นถึงความมีจริยธรรม และรักชาติ สหรัฐอเมริกาตลาดรองเท้าผ้าใบเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น ยัง บอยส์ เข้าแถวเพื่อซื้อรองเท้าผ้าใบรองเล่นฟุตบอลจิมธอร์ปและสนทนาทั้งหมดดาวได้รับการรับรองโดยผู้เล่นบาสเกตบอลชัคเทย์เลอร์

ช่วงระยะเวลาที่ interwarรองเท้าแข็งแรง เริ่มมีการวางตลาดสำหรับกีฬาที่แตกต่างกันและแตกต่างการออกแบบที่ทำใช้ได้สำหรับผู้ชายและผู้หญิง รองเท้ากีฬาที่ใช้โดยนักกีฬาที่แข่งขันในโอลิมปิก ช่วยทำให้เป็นที่นิยมรองเท้ากีฬาในหมู่ประชาชนทั่วไป ในปี 1936 , แบรนด์ของฝรั่งเศส ศาลฤดูใบไม้ผลิ[ 8 ] วางตลาดครั้งแรก ผ้าใบ รองเท้าเทนนิสที่มีลายแปดการระบายอากาศช่องบน แต่เพียงผู้เดียวยาง vulcanised

รูดอล์ฟ " รูดี้ " dassler เริ่มผลิตรองเท้ากีฬาของเค้าเองในแม่ของเขาล้างครัวใน Herzogenaurach บาวาเรีย , หลังจากที่เขากลับมาจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และไปในการสร้างหนึ่งในรองเท้ากีฬาชั้นนำ ผู้ผลิต , อาดิดาส[ 9 ] นอกจากนี้เขายังประสบความสำเร็จในตลาดรองเท้าสำหรับนักกีฬาที่ 1936 ซึ่งช่วยให้ปูนซีเมนต์ชื่อเสียงที่ดีของเขา ธุรกิจไปได้สวย และ dasslers ขาย 200000 คู่ของรองเท้าในแต่ละปี ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 [ 10 ]


ขนาดใหญ่กองของรองเท้ากีฬาสำหรับขายที่ตลาดในฮ่องกง
ในระหว่างปี 1950 , ว่างมากโอกาสขยายตัวและเด็กและวัยรุ่นเริ่มสวมรองเท้าผ้าใบเป็นโรงเรียนชุดรหัสที่ผ่อนคลาย รองเท้าขายเพิ่มขึ้นสูงมาก พวกเขาเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องในการขายรองเท้าหนังปกติ นำไปสู่สงครามโฆษณาที่รุนแรงสำหรับตลาดหุ้นในช่วงปลายยุค 50 ' s . ในปี 1970 , วิ่งออกกำลังกายได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นและการฝึกอบรมที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อความสะดวกสบายในขณะที่วิ่งขายได้ดีบริษัทยังเริ่มที่จะตลาดผลิตภัณฑ์ของตนเป็นวิถีชีวิตทางเลือก เร็ว ๆ นี้ รองเท้า ของ ฟุตบอล วิ่ง บาสเกตบอล วิ่ง ฯลฯ ทุก กีฬา มีรองเท้าของตัวเองได้ โดยการพัฒนาของเทคโนโลยี podiatrist รองเท้าแข็งแรง

ในช่วงทศวรรษ 1990 บริษัทรองเท้าสมบูรณ์ของแฟชั่นและการตลาดทักษะ โฆษณากีฬาเติบโตใหญ่ขึ้นและงบการตลาดผ่านหลังคา รองเท้าผ้าใบเป็นงบแฟชั่นและคำนิยามของเอกลักษณ์และบุคลิกภาพ มากกว่าอันแข็งแรงเอดส์ . [ 11 ]

จาก 1970 ( 5 รุ่น ) 2541 ( 3 รุ่น ) 2012 ( 3371 ) , หมายเลขของรองเท้ากีฬารุ่นในสหรัฐฯมีการเติบโตชี้แจง [ 12 ]