DiscussionThe starting-point for th

Discussion
The starting-point for this paper was the problem of the democratic deficit and its
attendant consequences, most notably a decline in the level of public trust in politics
and a growing sense of citizen alienation from the political process. The stakeholder
concept is integral to many proposed solutions to the problem and, superficially at
least, the notion of stakeholding appears to have been adopted by numerous politicians
in leading democracies. However, definitional vagueness represents a threat to the
utility of stakeholder theory in this regard. If there is no consensus on who exactly
constitutes a stakeholder, then on what basis are those consulted on particular issues to
be selected? The potential for political expediency to triumph over procedural justice is
apparent. An existing theory developed in the field of management – the theory of
stakeholder identification and salience (Mitchell et al., 1997) – has proposed the three
variables of power, legitimacy and urgency as key to understanding which
stakeholders possess the most salience to managers. We applied this framework in a
political context.
Our first research question investigated the use of the term “stakeholder” by
politicians and the meanings attached to it. Unequivocally, we found that the notion of
stakeholding is in widespread use in politics and that it refers, in principle, to those
with a legitimate interest or claim in a particular situation or policy decision. Hence, in
terms of stakeholder identification, legitimacy is the most important of the three
variables of TSIS (Mitchell et al., 1997) in a political context. However, a very different
picture emerges in relation to our second and third research questions which were
concerned with salience rather than identification. It appears there are many groups
with legitimate interests who are effectively excluded from the consultative process
because they are largely unorganised and hence lack the power to command the
attention of the political elite. In practice, politicians and their advisers pay most

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาเริ่มต้นจุดสำหรับเอกสารนี้เป็นปัญหาของการขาดดุลประชาธิปไตยและผู้ดูแลผล ส่วนใหญ่ลดลงในระดับความเชื่อถือทางการเมืองและความรู้สึกที่เจริญเติบโตของพลเมืองสุดจากกระบวนการทางการเมือง มาตรการแนวคิดที่จะไปนำเสนอโซลูชั่นหลายปัญหา และ เผิน ๆ ที่น้อย แนวคิดของ stakeholding ดูเหมือนจะได้รับการรับรอง โดยนักการเมืองมากมายในนำเหมือน ๆ กัน อย่างไรก็ตาม definitional vagueness แสดงเป็นอุปสรรคต่อการโปรแกรมอรรถประโยชน์ทฤษฎีมาตรการในเรื่องนี้ หากมีมติไม่บนที่ตรงถือเป็นทรรศนะ แล้วตามสิ่งผู้ขอคำปรึกษาในประเด็นเฉพาะเพื่อเลือก โอกาสที่ expediency การเมืองเพื่อชัยชนะเหนือความยุติธรรมขั้นตอนคือชัดเจน เป็นทฤษฎีที่มีอยู่พัฒนาในด้านการจัดการ – ทฤษฎีระบุมาตรการ salience (Mitchell et al., 1997) -มีการนำเสนอและสามตัวแปร ชอบธรรม และความเร่งด่วนเป็นคีย์เพื่อความเข้าใจที่เสียมี salience ส่วนใหญ่ผู้จัดการ เราใช้กรอบนี้ในการบริบททางการเมืองใช้ในคำว่า "ทรรศนะ" โดยตรวจสอบคำถามวิจัยครั้งแรกของเรานักการเมืองและความหมายกับมัน Unequivocally เราพบว่าแนวคิดของstakeholding ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเมือง และอ้าง อิง หลัก ผู้ดอกเบี้ยถูกต้องตามกฎหมายหรือในการตัดสินใจนโยบายหรือสถานการณ์หนึ่ง ๆ ดังนั้น ในเงื่อนไขการระบุมาตรการ ชอบธรรมเป็นสำคัญสุดของทั้งสามตัวแปรของ TSIS (Mitchell et al., 1997) ในบริบททางการเมือง อย่างไรก็ตาม แตกต่างกันมากรูปภาพบ่งบอกเกี่ยวกับคำถามที่สอง และสามของเราซึ่งเกี่ยวข้องกับ salience แทนรหัส ปรากฏมีหลายกลุ่มมีประโยชน์ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งจะถูกแยกออกจากกระบวนการ consultative ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะพวกเขาเป็น unorganised ส่วนใหญ่จึง ขาดอำนาจในการสั่งการความสนใจของชนชั้นนำทางการเมือง ในทางปฏิบัติ นักการเมืองและผู้ประการจ่ายมากสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปราย
จุดเริ่มต้นของบทความนี้คือปัญหาของการขาดดุลประชาธิปไตยและ
ผู้ติดตามผลสะดุดตามากที่สุดลดลงในระดับของความไว้วางใจของประชาชนในการเมือง
และเติบโตความรู้สึกแปลกแยกของพลเมืองจากกระบวนการทางการเมือง แนวคิดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลาย
เป็นหนึ่งเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและ แผ่วที่
น้อยความคิดของ stakeholding ปรากฏที่ได้รับการรับรองโดยนักการเมืองมากมาย
ในการนำประชาธิปไตย . อย่างไรก็ตามคำนิยามคลุมเครือหมายถึงการคุกคามต่อ
ประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทฤษฎีในเรื่องนี้ ถ้าไม่มีมติที่แน่นอน
ถือเป็นผู้มีส่วนได้เสีย แล้วนายมีสิทธิอะไรที่ปรึกษาในประเด็น

ถูกเลือก ?ศักยภาพความได้เปรียบทางการเมืองเพื่อชัยชนะเหนือกระบวนการความยุติธรรมคือ
แจ่มแจ้ง ทฤษฎีที่มีอยู่พัฒนาในด้านการจัดการและทฤษฎี
และประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ( Mitchell et al . , 1997 ) ซึ่งได้เสนอ 3
ตัวแปรของอำนาจความชอบธรรมและความเร่งด่วนเป็นคีย์เพื่อความเข้าใจซึ่ง
ผู้มีส่วนได้เสียมีความเด่นมากที่สุดผู้จัดการ