The Mediterranean basin is one of t

The Mediterranean basin is one of the most densely populated regions in the world. Most of the demographic growth took place after the Second World War as a result of improved economic conditions. The population of the 22 countries and territories bordering the Mediterranean Sea in 1950 was 213.5 million of which 44 percent lived in cities (Plan Bleu, 2001). By the year 2000, the total population reached 427 million, and the fraction of urban dwellers increased to 62 percent. The latest projected demographic estimates carried out for the Blue Plan for the year 2025 (Attane and Courbage, 2001) expect the population to reach 523.5 million, with 72 percent living in cities.

The growth is expected to occur mainly along the coastal areas, adding additional burden to these areas. Coastal cities also represent the world's largest tourist destination, with 150 million international and domestic visitors a year, which may as much as double by 2025 (Plan Bleu, 1999).

The demographic growth taking place in the Mediterranean is responsible for massive changes in land use, threatening the ecological stability of the region. The migration from rural areas has resulted in the abandonment of marginal lands and the creation of large-scale agro-industrial farming. In many areas such land use changes contributed to the disappearance of habitats for wildlife and to the increasing rates of pollution, soil erosion, siltation and salinization. On the other hand, fertile agricultural land is disappearing at the outskirts of cities to give space to the construction of new residences, shopping centers and industries. Without appropriate regulation, human activities in the Mediterranean region will have devastating ecological implications.

In order to promote actions to curb degradation, methods have to be researched to assess the human impact on the natural environment, which lend themselves to be easily repeated over time and to be used as monitoring tools. One approach to assess the ecological impact of this "neotechnological disturbance" (Naveh and Lieberman, 1994) in the Mediterranean is to measure how it affects the photosynthetic potential. The photosynthetic potential is strongly related to a variety of ecosystem services, from freshwater availability to biodiversity (Field, 2001). Recent advances in remote sensing allow us to estimate and map both human settlements as well as net photosynthesis (PSN) by vegetation on a regular basis at lkm resolution globally. In this paper we present a methodology for the analysis of the distribution of human settlements in relation to PSN for the Mediterranean region.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลุ่มน้ำเมดิเตอร์เรเนียนเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นไปมากที่สุดในโลก การเจริญเติบโตของประชากรส่วนใหญ่เอาที่หลังสงครามโลกที่สองเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประชากรของ 22 ประเทศและดินแดนที่ล้อมรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในปี 1950 ถูก 213.5 ล้านที่ 44 เปอร์เซ็นต์ lived ในเมือง (แผนเบลอ 2001) โดยปี 2000 ประชากรถึง 427 ล้าน และเศษของชาวเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 62 ล่าสุดคาดประมาณประชากรที่ดำเนินการสำหรับแผนการสีน้ำเงินปี 2025 (Attane และ Courbage, 2001) คาดว่าประชากรถึง 523.5 ล้าน 72 เปอร์เซ็นต์อาศัยอยู่ในเมืองการเติบโตคาดว่าจะเกิดขึ้นส่วนใหญ่ตามพื้นที่ชายฝั่งทะเล เพิ่มภาระเพิ่มเติมพื้นที่เหล่านี้ เมืองชายฝั่งยังเป็นตัวแทนของโลกที่ใหญ่ที่สุดท่องเที่ยว 150 ล้านบาทในประเทศ และต่างประเทศชมปี ซึ่งอาจรวมถึงคู่ 2025 (แผนเบลอ 1999)ประชากรเจริญเติบโตขึ้นเมดิเตอร์เรเนียนรับผิดชอบการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในการใช้ที่ดิน คุกคามระบบนิเวศความมั่นคงของภูมิภาค การโยกย้ายจากชนบทมีผลใน abandonment ของที่ดินกำไรและการสร้างการทำฟาร์มเกษตรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในหลายพื้นที่ ที่ดินการเปลี่ยนแปลงส่วน การหายตัวไปของสำหรับสัตว์ป่าที่อยู่อาศัย และราคาเพิ่มขึ้นของมลภาวะ การพังทลายของดิน siltation และ salinization บนมืออื่น ๆ ที่ดินการเกษตรอุดมสมบูรณ์หายไปที่ชานเมืองเพื่อให้พื้นที่ก่อสร้างใหม่เรสซิเดนซ์ ศูนย์การค้า และอุตสาหกรรม ไม่ มีกฎระเบียบที่เหมาะสม กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนจะมีผลทำลายล้างระบบนิเวศเพื่อส่งเสริมการดำเนินการเพื่อลดการสลายตัว วิธีได้อย่างเพื่อประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ มนุษย์ซึ่งยืมตัวเองการเดินผ่านเวลา และใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ วิธีการหนึ่งในการประเมินผลกระทบระบบนิเวศนี้ "neotechnological รบกวน" (Naveh และ Lieberman, 1994) ในเมดิเตอร์เรเนียนจะวัดว่ามันมีผลต่อศักยภาพ photosynthetic ขอได้สัมพันธ์กับความหลากหลายของระบบนิเวศบริการ ศักยภาพ photosynthetic ค่ะปลาเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ (ฟิลด์ 2001) ความก้าวหน้าล่าสุดในแชมพูให้เราประเมิน และแผนที่ทั้งจับคู่มนุษย์รวมทั้งการสังเคราะห์ด้วยแสงสุทธิ (PSN) โดยพืชพรรณประจำที่ละเอียด lkm ทั่วโลก ในเอกสารนี้ เรานำเสนอวิธีการวิเคราะห์การกระจายของมนุษย์จับคู่เกี่ยวกับ PSN ในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลุ่มน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ส่วนใหญ่ของการเจริญเติบโตทางด้านประชากรศาสตร์ที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประชากรใน 22 ประเทศและดินแดนที่มีพรมแดนติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในปี 1950 เป็น 213500000 ซึ่งร้อยละ 44 อาศัยอยู่ในเมือง (แผน Bleu, 2001) โดยปี 2000 ประชากรทั้งหมดถึง 427,000,000 และส่วนของผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 62 ล่าสุดคาดการณ์ประมาณการทางด้านประชากรศาสตร์ดำเนินการสำหรับแผนสีฟ้าสำหรับปี 2025 (Attane และ Courbage, 2001) คาดว่าประชากรที่จะไปถึง 523,500,000 กับที่อยู่อาศัยร้อยละ 72 ในเมือง. การเจริญเติบโตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นส่วนใหญ่ตามบริเวณชายฝั่งเพิ่ม ภาระเพิ่มเติมไปยังพื้นที่เหล่านี้ เมืองชายฝั่งทะเลยังเป็นตัวแทนของสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มี 150 ล้านบาทนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและในประเทศปีซึ่งอาจจะมากที่สุดเท่าที่สองปี 2025 (แผน Bleu, 1999). การเจริญเติบโตทางด้านประชากรศาสตร์ที่เกิดขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในแผ่นดิน ใช้ขู่นิเวศวิทยาเสถียรภาพของภูมิภาค การย้ายถิ่นจากชนบทมีผลในการละทิ้งดินแดนชายขอบและการสร้างขนาดใหญ่ทำการเกษตรอุตสาหกรรมเกษตร ในหลายพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินดังกล่าวมีส่วนทำให้การหายตัวไปของแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและอัตราการเพิ่มขึ้นของมลพิษพังทลายของดินตกตะกอนและความเค็ม ในทางตรงกันข้าม, ที่ดินเพื่อการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์จะหายไปในเขตชานเมืองของเมืองที่จะให้พื้นที่ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่แหล่งช้อปปิ้งและอุตสาหกรรม โดยไม่ต้องมีการควบคุมที่เหมาะสมกิจกรรมของมนุษย์ในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทำลายล้าง. เพื่อส่งเสริมการดำเนินการเพื่อลดความเสื่อมโทรมของวิธีการจะต้องมีการวิจัยเพื่อประเมินผลกระทบของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติซึ่งยืมตัวให้ทำซ้ำได้อย่างง่ายดายตลอดเวลาและ ที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ วิธีการหนึ่งในการประเมินผลกระทบทางนิเวศวิทยาของ "รบกวน neotechnological" (Naveh และลีเบอร์แมน, 1994) ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนคือการวัดวิธีการที่จะส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการสังเคราะห์แสง ที่มีศักยภาพในการสังเคราะห์แสงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับความหลากหลายของบริการระบบนิเวศจากความพร้อมน้ำจืดความหลากหลายทางชีวภาพ (สนาม, 2001) ความก้าวหน้าล่าสุดในการสำรวจระยะไกลช่วยให้เราสามารถประเมินและแผนที่ทั้งสองตั้งถิ่นฐานของมนุษย์เช่นเดียวกับการสังเคราะห์แสงสุทธิ (PSN) ด้วยพันธุ์ไม้เป็นประจำที่มีความละเอียด LKM ทั่วโลก ในบทความนี้เราจะนำเสนอวิธีการในการวิเคราะห์การกระจายของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในความสัมพันธ์ที่จะ PSN สำหรับภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนลุ่มน้ำเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ที่สุดของการเจริญเติบโตของประชากรเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประชากรใน 22 ประเทศและดินแดนที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในปี 1950 เป็น 213.5 ล้านบาท ซึ่งร้อยละ 44 อยู่ในเมือง ( แผนเบลอ , 2001 ) โดยปี 2000ประชากรถึง 427 ล้านบาท และส่วนของชาวเมืองเพิ่มขึ้นถึง 62 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุดคาดว่าประชากรประมาณดำเนินการออกแผนสีน้ำเงินปี 2025 ( attane และ courbage , 2001 ) คาดว่าประชากรถึง 523.5 ล้านบาท โดยร้อยละ 72 อาศัยอยู่ในเมือง

การเจริญเติบโตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ส่วนใหญ่ตามพื้นที่ชายฝั่งเพิ่มภาระเพิ่มเติมให้พื้นที่เหล่านี้ เมืองชายฝั่งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของโลก ด้วย 150 ล้านในประเทศและระหว่างประเทศผู้เข้าชมปี ซึ่งอาจจะมากเป็นสองเท่าโดยปี 2025 ( แผนเบลอ , 1999 ) .

ประชากรการเจริญเติบโตที่เกิดขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการใช้ที่ดิน คุกคามเสถียรภาพด้านนิเวศวิทยาของพื้นที่การย้ายถิ่นจากชนบทส่งผลให้เกิดการละทิ้งของที่ดินและการสร้างฟาร์มเกษตรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในหลายพื้นที่การใช้ที่ดินการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้การหายตัวไปของที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และเพิ่มอัตราของมลภาวะ และการพังทลายของดินตี้กลุ่มดาวยีราฟ . บนมืออื่น ๆที่ดินเพื่อการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์หายไปที่รอบนอกของเมือง เพื่อให้พื้นที่ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ , โรงงานอุตสาหกรรมศูนย์การค้าและ โดยไม่มีการควบคุมที่เหมาะสม กิจกรรมของมนุษย์ในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนจะทำลายล้างระบบนิเวศผลกระทบ

เพื่อส่งเสริมการกระทำเพื่อลดการย่อยสลายวิธีการต้องมีการวิจัยเพื่อศึกษาผลกระทบของมนุษย์ต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ซึ่งยืมตัวเองได้อย่างง่ายดายซ้ำตลอดเวลา และใช้ในการตรวจสอบเครื่องมือ หนึ่งแนวทางการประเมินผลกระทบต่อระบบนิเวศของนี้ " รบกวน neotechnological " ( naveh และลีเบอร์แมน , 1994 ) ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อวัดว่ามันมีผลต่อศักยภาพการสังเคราะห์แสง .ศักยภาพการสังเคราะห์แสงเป็นอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของบริการของระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ ( น้ำจืดไปสนาม , 2001 ) ความก้าวหน้าล่าสุดในการรับรู้จากระยะไกลช่วยให้เราสามารถประเมินและแผนที่ทั้งการตั้งถิ่นฐานมนุษย์ ตลอดจนการสังเคราะห์แสงสุทธิ ( PSN ) โดยพืชเป็นประจําที่ LKM สหประชาชาติทั่วโลกในกระดาษนี้เรานำเสนอวิธีการสำหรับการวิเคราะห์การกระจายการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในความสัมพันธ์กับ PSN สำหรับภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน .