ต่อมาในวันที่ 8 มิถุนายน ฝ่ายของโฮจิมินห์ได้ยื่นข้อเสนอที่ผ่อนปรนต่อที่ประชุม โดยทางเวียดนามเหนือจะยอมให้เวียดนามแยกเป็นเหนือและใต้ในระยะชั่วคราว ทั้งๆ ที่ในเวลานั้น ฝ่ายเวียดนามเหนือสามารถครอบครองดินแดนได้ถึง 3 ใน 4 ของทั้งประเทศ ทั้งนี้เงื่อนไขผ่อนปรนดังกล่าวมีอยู่ว่า เวียดนามจะแบ่งเป็นสองส่วนโดยใช้เส้นขนานที่ 17 เป็นเส้นแบ่ง แต่ไม่ถือว่าการแบ่งครั้งนี้ เป็นการแยกประเทศอย่างถาวร จากนั้นภายในสองปีจะมีการกำหนดให้เลือกตั้งทั่วประเทศเพื่อความเป็นเอกภาพของเวียดนาม และภายในระยะเวลาก่อนการเลือกตั้งนั้น ทั้งเวียดนามเหนือและใต้จะต้องไม่เข้าเป็นสมาชิกขององค์การระหว่างประเทศใดๆ หรือ ยอมรับความช่วยเหลือทางการทหารจากต่างประเทศ
ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เข้าร่วมประชุม ยกเว้น ฝ่ายของจักรพรรดิเบาได๋ และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี ทางสหรัฐได้ประกาศรับรองว่า จะไม่ทำการใดๆ ในอันที่จะทำลายข้อตกลงนี้
ทว่าเมื่อถึงวันที่ 20 กรกฏาคม ค.ศ. 1955 ซึ่งตามข้อตกลงเวนีวานั้น จะมีการเจรจากันเพื่อกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป และรวมเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้เข้าเป็นประเทศเดียวกัน ทว่า โงดินเดียมห์ นายกรัฐมนตรีของเวียดนามใต้ ได้ปฎิเสธการเจรจาโดยมีอเมริกาให้การหนุนหลังอย่างออกหน้า จากนั้นในเดือนตุลาคม ปีเดียวกันนั้น โงดินเดียมห์ก็ขับไล่จักรพรรดิเบาได๋ออกนอกประเทศและตั้งตนเป็นประธานาธิบดีของเวียดนามใต้ พร้อมกันนั้นก็เร่งสร้างกองทัพและสะสมอาวุธ โดยได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากสหรัฐอเมริกา