Molecular structures are stable at

Molecular structures are stable at certain temperatures. This stability is affected when the temperature conditions change. The temperature level is the fundamental parameter Portland cement based concrete is a composite material that mainly consists of aggregates, cement and water. It is a reasonably dense and porous material, and it undergoes the damage mecha- nisms in fire. Khoury [16] proposed dissociation of Ca(OH)2 at
300–400 oC, massive and sudden creep, usually causing failure at
600 oC, dissociation of CaCO3 at 700 oC, ceramic binding and complete water loss at 800 oC and melting at 1200–1350 oC. Heikal [17] found that Ca(OH)2 dehydrated between 500 and 600 oC. Mohamedbhai [18] studied the effects of exposure time and rates of cooling on residual strength of heated concrete, using 100 mm cubic samples. The exposure time of 1–2 h was found to be enough for the temperature to penetrate the 100 mm cubic samples and cause most of the compressive strength loss. The effect of higher temperature reduced the time required to cause strength loss, which is related to the increase of thermal conductivity at higher temperatures. After 1 h exposure, the Poon et al. [20] studied normal and high strength concretes with pozzolanic materials. Metakaolin concrete increased strength up to 200 oC, and maintained higher strengths up to 400 oC than fly-ash concrete, silica fume concrete and normal OPC concrete. After 400 oC all the high strength concretes rapidly deteriorated. The metakaolin concrete had the lowest final residual compressive strength despite showing better early strength gain, indicating that it is particularly susceptible to a certain high temperature range. Variations in the performance of pozzolanic concretes in high temperature exposure are common. High early strength gains and good stability between 200 and 400 oC followed by rapid deterioration and final compressive strength lower than normal concrete is commonly reported [20,21]. Li et al. [22] studied the effect of high temperature heat and strain rate on the residual strength of ternary blended concrete containing fly ash and silica fume. Remarkable strength loss was reported after 400 oC.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงสร้างโมเลกุลจะมีเสถียรภาพที่อุณหภูมิหนึ่ง ๆ ความมั่นคงนี้จะได้รับผลกระทบเมื่อเงื่อนไขอุณหภูมิเปลี่ยน ระดับอุณหภูมิเป็นพารามิเตอร์พื้นฐานคอนกรีตปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ที่ใช้เป็นวัสดุผสมที่ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของผล ปูนซีเมนต์ และน้ำ มันเป็นวัสดุที่ค่อนข้างหนาแน่น และ porous และมันผ่านกลไก-nisms เสียใน fire คูรี่ [16] เสนอ dissociation ของ Ca (OH) 2 ที่300 – 400 องศาเซลเซียส คืบใหญ่ และฉับพลัน มักจะก่อให้เกิดความล้มเหลวที่600 องศาเซลเซียส dissociation ของ CaCO3 ที่ 700 องศาเซลเซียส ผูกเซรามิก และสูญเสียน้ำที่ 800 องศาเซลเซียสและละลายที่ 1200-1350 oC. Heikal [17] พบว่า Ca (OH) 2 อบแห้งระหว่าง 500 และ 600 oC. Mohamedbhai [18] ศึกษาผลของแสงเวลาและราคาของความร้อนในส่วนที่เหลือความแข็งแรงของคอนกรีตอุ่น ใช้ตัวอย่างลูกบาศก์ 100 มม. เวลาเปิดรับแสง 1-2 h พบจะพออุณหภูมิเจาะตัวอย่างลูกบาศก์ 100 มม. และสาเหตุของการสูญเสียความแข็งแรง compressive ผลของอุณหภูมิสูงลดลงจะทำให้สูญเสียความแข็งแรง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของการนำความร้อนที่อุณหภูมิสูง หลังจากการเปิดรับแสง 1 h, al. et ของพูน [20] ศึกษา concretes ปกติ และสูงความแข็งแรง ด้วยวัสดุ pozzolanic Metakaolin คอนกรีตเพิ่มความแรงได้ถึง 200 องศาเซลเซียส และยังคงอยู่สูงกว่าจุดแข็งได้ถึง 400 องศาเซลเซียสกว่าซิลิกาคอนกรีต เถ้า fly fume OPC ปกติ และคอนกรีตคอนกรีต หลังจาก 400 องศาเซลเซียส ทั้งหมดอย่างรวดเร็วความแข็งแรงสูง concretes รูป คอนกรีต metakaolin ต่ำสุด final เหลือ compressive แรงแม้จะแสดงกำไรแรงต้นดี แสดงว่า มันจึงไวต่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงอุณหภูมิสูงได้ รูปแบบในการทำงานของ concretes pozzolanic ในอุณหภูมิแสงอยู่ทั่วไป กำไรแรงต้นสูงและเสถียรภาพดีระหว่าง 200 และ 400 องศาเซลเซียสตาม ด้วยการเสื่อมสภาพและ final compressive กำลังได้รวดเร็วต่ำกว่าคอนกรีตปกติทั่วไปรายงาน [20,21] Li et al. [22] ศึกษาผลของอุณหภูมิความร้อนและต้องใช้อัตราแรงเหลือสามผสมคอนกรีตประกอบด้วยโตนดเถ้าและซิลิกา fly มีรายงานการสูญเสียความแข็งแรงที่น่าจับตาหลัง 400 oC.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โครงสร้างโมเลกุลมีความเสถียรที่อุณหภูมิบางอย่าง ความมั่นคงนี้ได้รับผลกระทบเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ระดับอุณหภูมิพารามิเตอร์พื้นฐานปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ตามคอนกรีตเป็นวัสดุคอมโพสิตที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยมวลรวมปูนซีเมนต์และน้ำ มันเป็นวัสดุที่เหมาะสมหนาแน่นและมีรูพรุนและมันผ่าน nisms กลไกความเสียหายในสายอีกครั้ง Khoury [16] เสนอความร้าวฉานของ Ca (OH) 2 ที่
300-400 องศาคืบขนาดใหญ่และฉับพลันมักจะก่อให้เกิดความล้มเหลวที่
600 องศาเซลเซียสความร้าวฉานของ CaCO3 ที่ 700 องศา, เซรามิกที่มีผลผูกพันและการสูญเสียน้ำที่สมบูรณ์ที่ 800 องศาเซลเซียสและละลายที่ 1200 -1,350 องศาเซลเซียส heikal [17] พบว่า Ca (OH) 2 คายน้ำระหว่าง 500 และ 600 องศาเซลเซียส Mohamedbhai [18] การศึกษาผลกระทบของการเปิดรับเวลาและอัตราการระบายความร้อนที่กำลังมาแรงที่เหลือของคอนกรีตความร้อนโดยใช้ 100 มิลลิเมตรตัวอย่างลูกบาศก์ เวลารับแสง 1-2 ชั่วโมงก็พบว่าจะเพียงพอสำหรับอุณหภูมิในการเจาะ 100 มิลลิเมตรตัวอย่างลูกบาศก์และก่อให้เกิดมากที่สุดของการสูญเสียกำลังอัด ผลของอุณหภูมิที่สูงขึ้นช่วยลดเวลาที่จำเป็นในการก่อให้เกิดการสูญเสียความแข็งแรงซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของการนำความร้อนที่อุณหภูมิสูง หลังจาก 1 ชั่วโมงเปิดรับพูนและคณะ [20] การศึกษาคอนกรีตความแข็งแรงปกติและสูงด้วยวัสดุปอซโซลาน คอนกรีต Metakaolin เพิ่มความแข็งแกร่งถึง 200 องศาเซลเซียสและการบำรุงรักษาจุดแข็งที่สูงขึ้นได้ถึง 400 องศากว่าชั้นคอนกรีตและ-เถ้าซิลิกาฟูมคอนกรีตและ OPC คอนกรีตปกติ หลังจากที่ 400 องศาทุกคอนกรีตมีความแข็งแรงสูงทรุดลงอย่างรวดเร็ว ความแข็งแรงของคอนกรีต Metakaolin มีไฟต่ำที่สุดในเอ็นอัดที่ตกค้างแม้จะมีกำไรจากการแสดงความแข็งแรงของต้นที่ดีขึ้นแสดงให้เห็นว่ามันมีความอ่อนไหวที่จะเป็นช่วงที่อุณหภูมิสูงบางอย่าง รูปแบบในการทำงานของคอนกรีตปอซโซลานในการเปิดรับอุณหภูมิสูงเป็นธรรมดา กำไรแข็งแกร่งในช่วงต้นสูงและมีเสถียรภาพที่ดีระหว่าง 200 และ 400 องศาเซลเซียสตามด้วยการเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็วและความแรงของสายเอ็นอัดต่ำกว่าคอนกรีตปกติจะมีการรายงานโดยทั่วไป [20,21] Li et al, [22] ศึกษาผลของความร้อนที่อุณหภูมิสูงและอัตราความเครียดในความแข็งแรงของคอนกรีตที่เหลือผสม ternary ที่มีชั้นและเถ้าและซิลิกาฟูม การสูญเสียความแข็งแรงที่น่าทึ่งมีรายงานหลังจากที่ 400 องศาเซลเซียส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โครงสร้างโมเลกุลคงที่ที่อุณหภูมิหนึ่ง ความมั่นคงนี้จะได้รับผลกระทบเมื่ออุณหภูมิเงื่อนไขเปลี่ยน ระดับอุณหภูมิคือปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ตามพารามิเตอร์พื้นฐานคอนกรีตเป็นวัสดุคอมโพสิตที่ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของมวลรวม ซีเมนต์ และน้ำ มันสมเหตุสมผลหนาแน่นและวัสดุที่มีรูพรุน และก็ผ่านความเสียหายในกลไก - nisms จึง Reเคารี่ [ 16 ] เสนอแยกออกจากกันของ Ca ( OH ) 2
300 – 400 องศาเซลเซียส ขนาดใหญ่และฉับพลัน คืบ มักจะก่อให้เกิดความล้มเหลวใน
600 องศาเซลเซียส การแตกตัวของแป้งที่ 700 องศาเซลเซียส เซรามิค และการสูญเสียน้ำที่สมบูรณ์และ 800 องศาเซลเซียสละลาย 1200 – 1350 องศาเซลเซียส heikal [ 17 ] พบว่า Ca ( OH ) 2 แห้งระหว่าง 500 และ 600 องศาเซลเซียสmohamedbhai [ 18 ] ศึกษาผลของเวลาสัมผัสและอัตราความร้อนแรงตกค้างของคอนกรีตร้อน ใช้ 100 มม. , ตัวอย่าง เวลารับของ 1 - 2 ชั่วโมง พบว่า มีเพียงพอสำหรับอุณหภูมิที่จะเจาะ 100 มม. , ตัวอย่างและเพราะที่สุดของการสูญเสียกำลังอัด . ผลของอุณหภูมิที่สูงขึ้น ลดเวลาที่ใช้ในการทำให้เกิดแรงสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของค่าการนำความร้อนที่อุณหภูมิที่สูงขึ้น หลังจาก 1 ชั่วโมง แสง , พูน et al . [ 20 ] เรียนปกติกับคอนกรีตกำลังสูงด้วยวัสดุปอซโซลาน . ดินขาวคอนกรีตความแข็งแรงเพิ่มขึ้นถึง 200 องศาเซลเซียส และรักษาจุดแข็งสูงถึง 400 องศาเซลเซียส มากกว่าคอนกรีต y-ash fl , ซิลิกาฟูมคอนกรีตและคอนกรีตปูนซีเมนต์ธรรมดาหลังจาก 400 องศาเซลเซียสทั้งหมด คอนกรีตกำลังสูงเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว . ที่ถูกที่สุดจำหน่ายดินขาวคอนกรีตมีความแข็งแรงจึงเหลือแม้จะแสดงความแข็งแกร่งให้ได้ก่อนดีกว่า แสดงว่ามันอ่อนไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอุณหภูมิสูงบาง การเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพ น้ำหนักของคอนกรีตในการเปิดรับแสงที่อุณหภูมิสูงทั่วไปเร็วแรงกำไรสูงและเสถียรภาพที่ดีระหว่าง 200 และ 400 องศาเซลเซียส รองลงมาคือ เสื่อมสภาพเร็วและจึงนาล แรงอัดต่ำกว่าคอนกรีตปกติ รายงาน 20,21 [ ทั่วไป ] Li et al . [ 22 ] ได้ศึกษาผลของอุณหภูมิสูงความร้อนและอัตราความเครียดในความแข็งแรงเหลือผสมคอนกรีตผสมเถ้าfl Ternary Y และซิลิกาฟูม .การสูญเสียความแข็งแรงที่โดดเด่นคือรายงานหลัง 400 องศาเซลเซียส