in 1919, New York City Hotel owner-

in 1919, New York City Hotel owner-Raymond Orteig offered a prize of $25,000 to the first aviator to fly nonstop between New York and Paris. Before 1927 , no one had won the prize. Lindbergh found the challenge irresistible. He helped design a special plane, which hw named the Spirit of st. Louis, after the city whose businesspeople had raised funds for the flight. On the morning of May 20, 1927, Lindbergh left Roosevelt Field, near New York City, at 7:52. Thirty-three and 3,600 miles later, he landed at Le Bourget Field, near Paris. Shy and boyish in loohs, the 25-years-old pilot became a worldwind hero for his daring feat.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรงแรมนิวยอร์กเจ้าเรย์มอนด์ Orteig เสนอรางวัล $ 25,000 ในปี 1919 เพื่อนักบินแรกบิน nonstop ระหว่างนิวยอร์กและปารีส ก่อนปี 1927 ไม่มีใครได้รับรางวัลรางวัล Lindbergh พบความท้าทายที่ไม่อาจต้านทาน เขาช่วยออกแบบเครื่องบินพิเศษ ซึ่ง hw ชื่อสปิริตออฟเซนต์หลุยส์ หลังจากที่เมืองที่มีนักธุรกิจได้ยกเงินสำหรับเที่ยวบินที่ 20 พฤษภาคม 1927 รถ Lindbergh ซ้ายรูสเวลท์ฟิลด์ ใกล้นิวยอร์ก ที่ 7:52 สามสิบสาม และ 3,600 ไมล์ภายหลัง เขาที่ดินที่ Le Bourget ฟิลด์ ใกล้ปารีส ขี้อาย และชาวใน loohs นักบิน 25 ปีกลายเป็น ฮีโร่ worldwind สำหรับความสำเร็จของเขากล้าหาญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1919, New York City Hotel เจ้าของเรย์มอนด์ Orteig ที่นำเสนอได้รับรางวัล $ 25,000 เพื่อนักบินคนแรกที่บินดุ๊กดิ๊กระหว่างนิวยอร์กและปารีส ก่อนปี 1927 ไม่มีใครได้รับรางวัล ลินด์เบิร์กพบกับความท้าทายที่ไม่อาจต้านทาน เขาช่วยออกแบบเครื่องบินพิเศษซึ่ง HW ชื่อพระวิญญาณของเซนต์ หลุยส์หลังจากที่เมืองที่มีนักธุรกิจได้ระดมทุนสำหรับเที่ยวบิน ในเช้าวันที่ 20 พฤษภาคม 1927 ที่ลินด์เบิร์กซ้ายรูสเวลฟิลด์ใกล้กับมหานครนิวยอร์กที่ 7:52 สามสิบสาม 3,600 ไมล์ต่อมาเขาลงจอดที่สนาม Le Bourget ใกล้กรุงปารีส อายและวัยรุ่นใน loohs นักบิน 25 ปีเก่ากลายเป็นวีรบุรุษ WorldWind สำหรับการกระทำที่กล้าหาญของเขา