3.4. Changes in colorColor of mango

3.4. Changes in color
Color of mango skins is an important selection criterion for
buyers. It can give an indication of the state of fruit ripening. As
shown in Fig 2, noticeable changes in the skin color occurred
during storage. Uncoated mangoes lost their green color (a* > 0)
unlike coated fruit that maintained this color (a* < 0). Chitosan
concentration at 1.5% seemed the best to maintain green color.
The presence of LPOS did not influence color change, and thus the
action of the coating in slowing ripening was correlated with
the concentration of chitosan and was not dependent on the
presence of the LPOS.
3.5. Firmness
Mango is a soft fruit that suffers a rapid loss of firmness during
ripening which contributes greatly to its short postharvest life.
Fig. 3 shows the changes in flesh firmness of control and treated
fruit after eight days of storage. Initial flesh firmness decreased for
all treatments, however chitosan coatings retained more initial
flesh firmness of fruit in contrast to uncoated fruit. An overall
comparison showed that there was no significant difference
between chitosan at 1% or 1.5%. This same result was observed with
the use of chitosan incorporating LPOS or LPOSI. LPOS with or
without iodine did not influence chitosan protection against
firmness lost. These results indicate that fruit firmness is preserved
by chitosan coating and not by the presence of the enzyme system.
Reduction of respiration and water loss could be responsible for the
retention of firmness. Using a suitable coating could maintain that
strength .

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.4. การเปลี่ยนแปลงสีสีของสกินมะม่วงเป็นเกณฑ์การเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ซื้อ มันสามารถให้การบ่งชี้สถานะของผลไม้ ripening เป็นเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดสีผิวแสดงในฟิก 2ระหว่างการเก็บรักษา มะม่วงเคลือบสีเขียวของที่หายไป (เป็น * > 0)ซึ่งแตกต่างจากผลไม้เคลือบที่เก็บสีนี้ (เป็น * < 0) ไคโตซานความเข้มข้น 1.5% ประจักษ์ดีที่สุดเพื่อรักษาสีเขียวของ LPOS ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนสี และการการดำเนินการของเคลือบในช้า ripening ถูก correlated กับความเข้มข้นของไคโตซาน และไม่ขึ้นอยู่กับการสถานะการออนไลน์ LPOS3.5. ไอซ์มะม่วงเป็นผลไม้นุ่มที่ suffers ขาดทุนอย่างรวดเร็วของไอซ์ในระหว่างripening ซึ่งสนับสนุนอย่างมากของชีวิตหลังการเก็บเกี่ยวสั้นFig. 3 แสดงการเปลี่ยนแปลงในไอซ์เนื้อควบคุม และรักษาผลไม้หลังจาก 8 วันของการจัดเก็บ ไอซ์เนื้อเริ่มลดลงในรักษาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ไคโตซานเคลือบรักษาเริ่มต้นเพิ่มเติมไอซ์เนื้อผลไม้ตรงข้ามเคลือบผลไม้ โดยรวมการเปรียบเทียบที่แสดงให้เห็นว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญไม่ระหว่างไคโตซาน 1% หรือ 1.5% มีสังเกตผลลัพธ์เดียวกันนี้ด้วยการใช้ไคโตซานที่เว็บ LPOS หรือ LPOSI LPOS ด้วย หรือไม่ มีไอโอดีนไม่ได้ไม่มีผลป้องกันการไคโตซานไอซ์ที่หายไป ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า ไอซ์ผลไม้จะถูกรักษาไว้โดยไคโตซานเคลือบ และ โดยสถานะของระบบเอนไซม์ไม่ลดการสูญเสียน้ำและการหายใจอาจชอบการการเก็บรักษาของไอซ์ ใช้เคลือบที่เหมาะสมสามารถรักษาในที่ความแข็งแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.4 การเปลี่ยนแปลงในสีสีสกินมะม่วงเป็นเกณฑ์ในการเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ซื้อ มันสามารถให้ข้อบ่งชี้สถานะของผลไม้สุก ในฐานะที่แสดงในรูปที่ 2 การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในสีผิวที่เกิดขึ้นระหว่างการเก็บรักษา เคลือบผิวมะม่วงเว่อร์สีเขียว (ก *> 0) ซึ่งแตกต่างจากผลไม้ที่เก็บรักษาไว้เคลือบสีนี้ (ก * <0) ไคโตซานความเข้มข้น 1.5% ดูเหมือนที่ดีที่สุดในการรักษาสีเขียว. การปรากฏตัวของ LPOs ไม่ได้มีผลต่อการเปลี่ยนสีและทำให้การดำเนินการของการเคลือบในการชะลอการสุกมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของไคโตซานและไม่ได้ขึ้นอยู่กับการปรากฏตัวของLPOs . 3.5 ความแน่นเนื้อมะม่วงเป็นผลไม้อ่อนที่ได้รับความทุกข์ความสูญเสียอย่างรวดเร็วของความแน่นในช่วงสุกซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการดำรงชีวิตหลังการเก็บเกี่ยวสั้น. รูป 3 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในความแน่นเนื้อของการควบคุมและรับการรักษาผลไม้หลังจากแปดวันของการจัดเก็บ ความแน่นเนื้อลดลงครั้งแรกสำหรับการรักษาทั้งหมดแต่เคลือบไคโตซานเริ่มต้นสะสมมากขึ้นความแน่นเนื้อของผลไม้ในทางตรงกันข้ามกับผลไม้เคลือบผิว โดยรวมการเปรียบเทียบพบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างไคโตซานที่1% หรือ 1.5% ผลเดียวกันนี้พบว่ามีการใช้ไคโตซานผสมผสาน LPOs หรือ LPOSI LPOs มีหรือโดยไม่ต้องไอโอดีนไม่ได้มีผลต่อการป้องกันไคโตซานกับความแน่นหายไป ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่ามีความแน่นเนื้อผลไม้ที่เก็บรักษาไว้โดยเคลือบไคโตซานและไม่ได้โดยการปรากฏตัวของระบบเอนไซม์. การลดลงของการหายใจและการสูญเสียน้ำอาจจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษาความแน่น การใช้สารเคลือบผิวที่เหมาะสมที่สามารถรักษาความแข็งแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.4 . การเปลี่ยนแปลงในสี
ผิวมะม่วงเป็นเกณฑ์การคัดเลือกที่สำคัญสำหรับ
ผู้ซื้อ มันสามารถให้ข้อบ่งชี้ของรัฐของผลไม้สุก ตามที่แสดงในรูปที่ 2
, การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในสีผิวเกิดขึ้น
ในระหว่างการเก็บรักษา มะม่วงเคลือบผิวแพ้สีเขียวของพวกเขา ( * > 0 )
เหมือนเคลือบผลไม้ที่ยังคงสี ( * < 0 ) ไคโตซาน
ที่ความเข้มข้น 15 % จะดีที่สุดเพื่อรักษาสีเขียว .
การแสดงตนของ lpos ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสี ดังนั้น การกระทำของการเคลือบ
ในการชะลอการสุก มีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของไคโตซานและ

ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานะของ lpos .
3.5 . ความแน่วแน่
มะม่วงจะนุ่ม ผลไม้ที่ทนทุกข์ทรมานอย่างรวดเร็วสูญเสียความแน่วแน่ในการสุกซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมาก
สั้นของสังคมชีวิต
รูปที่ 3 แสดงการเปลี่ยนแปลงในความแน่นเนื้อของผลไม้ ควบคุมและรักษา
หลังจากแปดวันของการจัดเก็บ ความแน่นเนื้อเริ่มต้นลดลง
การรักษาทั้งหมด แต่เคลือบไคโตซานรักษาความแน่นเนื้อของผลไม้ครั้งแรก
มากขึ้นในทางตรงกันข้ามกับผลไม้ที่ไม่ได้เคลือบ การเปรียบเทียบโดยรวม
พบว่าไม่มีความแตกต่าง
ระหว่างไคโตแซนที่ 1% หรือ 1.5% ผลลัพธ์เดียวกันนี้พบกับ
การใช้ไคโตซานจึง lpos หรือ lposi . lpos ด้วยหรือ
ไม่มีไอโอดีนไม่มีผลต่อการป้องกันไคโตซานกับ
4 หายไป ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า ความแน่นเนื้อผลไม้ที่เคลือบด้วยไคโตซานและเก็บรักษา
โดยการแสดงตนของระบบเอนไซม์ ลดการสูญเสียน้ำและการหายใจ

อาจจะรับผิดชอบการเก็บรักษาความแน่นเนื้อ ใช้เคลือบที่เหมาะสมจะทำให้สามารถรักษา
ความแข็งแรง