บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องในการศึกษาเรื่อง สัตว์ป่าสงวน (Reserved Anim การแปล - บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องในการศึกษาเรื่อง สัตว์ป่าสงวน (Reserved Anim ไทย วิธีการพูด

บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องในการศึกษ

บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาเรื่อง สัตว์ป่าสงวน (Reserved Animals) ผู้วิจัยได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่าง ๆ จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1. ความหมายของสัตว์ป่าสงวน (Reserved Animals)
2. พันธุ์ของสัตว์ป่าสงวน (All kinds of wildlife)
3. ข้อห้ามข้อบังคับบางประการจากพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
4. การอนุรักษ์สัตว์ป่าสงวน (Wildlife conservation)
ความหมายของสัตว์ป่าสงวน (Reserved Animals)
สัตว์ป่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าหายาก 15 ชนิด ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
พ.ศ. 2535 ได้แก่ แมวลายหินอ่อน พะยูน เก้งหม้อ นกกระเรียน เลียงผา กวางผา ละองหรือละมั่ง สมัน กูปรี
ควายป่า แรด กระซู่ สมเสร็จ นกแต้วแล้วท้องดำ และ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร
พันธุ์ของสัตว์ป่าสงวน (All kinds of wildlife)

กระซู่
ชื่อสามัญ : Sumatran Rhinoceros
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dicermocerus sumatraensis
ชื่ออื่น : แรดสุมาตรา
กระซู่เป็นสัตว์ตระกูลแรดที่มีขนาดเล็กที่สุดในจำนวน 5 ชนิดที่มีอยู่ รูปร่างหนาบึกบึน สีลำตัวน้ำตาลแดง ลักษณะเด่นที่ต่างจากพวกพ้องตระกูลแรดชนิดอื่นก็คือ มีขนสีน้ำตาลแดงยาวทั่วตัว บางครั้งฝรั่งก็เรียกว่า แรดขน สีขนจะเข้มขึ้นตามอายุ หนักราว 600-950 กิโลกรัม ความสูง 1-1.5 เมตร ความยาวลำตัว 2.0-3.0 เมตร หางยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ขาสั้นม่อต้อ ริมฝีปากบนแหลมเป็นจงอยใช้หยิบจับได้
กระซู่เป็นแรดในเอเชียเพียงชนิดเดียวที่มีสองนอ นอหน้ายาวประมาณ 25-79 เซนติเมตร นอในอยู่หว่างคิ้วและเล็กกว่ามาก มักยาวไม่ถึง 10 เซนติเมตร ส่วนตัวเมียบางตัวอาจไม่มีนอใน หนังกระซู่สีน้ำตาลอมเทาเข้ม หนาเฉลี่ย 16 มิลลิเมตร หนังรอบตายับย่น มีรอยพับข้ามตัว 2 รอย คือที่หลังขาหน้าและหน้าขาหลัง ดูเหมือนหุ้มเกราะ
กระซู่มีสองชนิดย่อยคือ กระซู่ตะวันตก (Dicerorhinus sumatrensis sumatrensis) พบในเกาะสุมาตรา อินโดจีน และคาบสมุทรมลายู และ กระซู่ตะวันออก (Dicerorhinus sumatrensis harrissoni) อาศัยอยู่ในเกาะบอร์เนียว ก่อนหน้านี้เคยมีอีกชนิดย่อยหนึ่งคือ (Dicerorhinus sumatrensis lasiotus) พบในอินเดีย บังกลาเทศ และพม่า แต่ปัจจุบันคาดว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว แม้จะยังมีความหวังว่าอาจยังมีเหลืออยู่ในพม่าก็ตาม
อาหารหลักของกระซู่คือ ใบไม้ กิ่งไม้ ยอดอ่อน ผลไม้ เช่น ทุเรียนป่า มะม่วงป่า ลูกไทร ไผ่ และพืชที่ขึ้นตามป่าชั้นสอง กินอาหารเฉลี่ยวันละ 50 กิโลกรัม กระซู่หากินโดยลำพังตอนเช้ามืดและหัวค่ำ เดินทางตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันจะนอนแช่ปลักหรือในบึงเพื่อพักผ่อน กระซู่มักทำปลักส่วนตัวโดยจะถางบริเวณในรัศมี 10-35 เมตรให้ราบเรียบเพื่อเป็นที่พักผ่อน กระซู่มีการย้ายถิ่นตามฤดูกาล โดยในฤดูฝนจะย้ายไปอยู่ที่สูง ส่วนในฤดูอื่นจะย้ายลงมาอยู่ในที่ต่ำ แม้จะดูอ้วนเทอะทะแต่กระซู่ปีนป่ายหน้าผาชันได้เก่ง และว่ายน้ำได้ดี เคยมีผู้พบเห็นกระซู่ว่ายในน้ำทะเลด้วย
กระซู่จำเป็นต้องลงกินโป่งอยู่เสมอ เคยพบว่าพื้นที่รอบโป่งแห่งหนึ่งมีจำนวนกระซู่มากถึง 13-14 ตัวต่อตารางกิโลเมตร ตัวผู้มีพื้นที่หากินประมาณ 30 ตารางกิโลเมตรและซ้อนเหลื่อมกันมาก ส่วนตัวเมียมีอาณาเขตเล็กกว่า เพียง 10-15 ตารางกิโลเมตรและซ้อนทับกับตัวเมียตัวอื่นเล็กน้อย ทั้งตัวผู้และตัวเมียทำเครื่องหมายประกาศอาณาเขตด้วยรอยครูด ขี้ ละอองเยี่ยว และรอยลู่ของไม้อ่อน
กระซู่อาศัยได้ในป่าหลายประเภท แต่ชอบที่สูงที่มีมอสปกคลุมและป่าฝนเขตร้อน มักพบใกล้แหล่งน้ำ ป่าชั้นสองที่มีความหนาแน่นพอสมควรก็ดึงดูดกระซู่ได้ นอกจากนี้ยังเคยพบว่ากระซู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งด้วย
ฤดูกาลผสมพันธุ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่มักพบว่าลูกกระซู่มักเกิดช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฝนตกชุก แม่กระซู่ตั้งท้องนาน 477 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกกระซู่แรกเกิดหนัก 25 กิโลกรัม สูง 60 เซนติเมตรและยาว 90 เซนติเมตร มีขนแน่นและสีขนออกแดง ช่วงวันแรก ๆ ลูกกระซู่จะซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ทึบใกล้โป่งขณะที่แม่ออกไปหากิน พออายุได้ 2 เดือนจึงออกติดตามแม่ไปได้ หย่านมได้เมื่ออายุ 18 เดือน แต่จะยังอยู่กับแม่จนกระทั่งอายุ 2-3 ปี กระซู่วัยเด็กอาจอยู่ร่วมกัน แต่เมื่อโตแล้วก็จะแยกย้ายกันไปหากินตามลำพัง
ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 4 ปี ส่วนตัวผู้ต้องรอไปถึงอายุ 7 ปี ตัวเมียมีระยะตั้งท้องแต่ละครั้งห่างกัน 3-4 ปี กระซู่ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุขัยประมาณ 35 ปี
กระซู่นับเป็นสัตว์ใหญ่ที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลก ในต้นศตวรรษที่ 20 กระซู่ยังพบอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่เทือกเขาหิมาลัย ภูฏาน อินเดียตะวันออกจนถึงมาเลเซีย สุมาตรา และบอร์เนียว กระซู่ตะวันตกในแผ่นดินใหญ่เหลือเพียงประมาณ 100 ตัว ส่วนใหญ่อยู่ในคาบสมุทรมลายู ในประเทศไทยอาจเหลือเพียง 10 ตัว และในเกาะสุมาตรามีจำนวนประมาณ 300 ตัว กระซู่ตะวันออกที่เคยพบทั่วเกาะบอร์เนียวเหลือเพียงประมาณ 60 ตัวในรัฐซาบาห์เท่านั้น ส่วนในรัฐซาราวักและกาลิมันตันไม่พบอีกแล้ว
กระซู่ประสบถูกคุกคามเนื่องจากป่าที่อยู่อาศัยถูกบุกรุกอย่างหนักจนเริ่มขาดจากกันเป็นผืนเล็กผืนน้อย ยิ่งกว่านั้น ทุกพื้นที่ที่พบกระซู่ล้วนแต่มีแนวโน้มประชากรลดลง ศัตรูหลักของกระซู่คือมนุษย์และเสือโคร่ง
โครงการขยายพันธุ์กระซู่ในแหล่งเพาะเลี้ยงที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก นับตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมา มีกระซู่ถูกจับมาจากป่าเพื่อมาเข้าโครงการนี้ 40 ตัว แต่ก็ตายไปถึง 19 ตัว การผสมเทียมก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ความล้มเหลวดังกล่าวน่าจะเป็นผลมาจากการขาดความรู้ด้านโภชนาการและการสืบพันธุ์ของกระซู่ ปัจจุบันเราทราบแล้วว่ากระซู่ต้องการพื้นที่กว้างกว่าเดิมและมีสภาพเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เคยมีอยู่
แม้เวลาจะเหลือน้อยลงทุกที แต่ความพยายามที่จะรักษาเผ่าพันธุ์กระซู่ยังคงดำเนินต่อไป
ไอยูซีเอ็นจัดให้กระซู่อยู่ในสภาวะวิกฤต ไซเตสจัดไว้ในบัญชีหมายเลข 1
Dicerorhinus sumatrensis
ชื่อไทย กระซู่
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dicerorhinus sumatrensis
ชั้น Mammalia
อันดับ Perissodactyla
วงศ์ Rhinocerotidae
สกุล Dicerorhinus
ชื่ออื่น อังกฤษ : Sumatran Rhinoceros, Asian Two-Horned Rhinoceros, Hairy Rhinoceros
สถานภาพการคุ้มครอง ไซเตส : บัญชีหมายเลข 1 ไทย : สัตว์ป่าสงวน


เลียงผา
ชื่อสามัญ : Serow
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Capricornis sumatraensis
สัตว์กีบรูปร่างคล้ายแพะ ลำตัวสั้น ขายาว ขนดำยาว ขนชั้นนอกชี้ฟู ขนบริเวณตั้งแต่โคนเขาจนถึงหัวไหล่ยาวและฟู อาจมีสีแตกต่างกันไปตั้งแต่ขาวถึงดำ หัวโต หูใหญ่ตั้ง มีเขาเป็นรูปกรวยเรียว โค้งไปทางข้างหลังเล็กน้อย ตัวผู
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องในการศึกษาเรื่องสัตว์ป่าสงวน (สัตว์สงวน) ผู้วิจัยได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างๆ จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้1. ความหมายของสัตว์ป่าสงวน (สัตว์สงวน) 2. พันธุ์ของสัตว์ป่าสงวน (ทุกชนิดของสัตว์ป่า) 3. ข้อห้ามข้อบังคับบางประการจากพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.25354. การอนุรักษ์สัตว์ป่าสงวน (อนุรักษ์สัตว์ป่า)ความหมายของสัตว์ป่าสงวน (สัตว์สงวน) สัตว์ป่าสงวนหมายถึงสัตว์ป่าหายาก 15 สิ่งตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ได้แก่แมวลายหินอ่อนพะยูนเก้งหม้อนกกระเรียนเลียงผากวางผาละองหรือละมั่งสมันกูปรี ควายป่าแรดกระซู่สมเสร็จนกแต้วแล้วท้องดำและนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร พันธุ์ของสัตว์ป่าสงวน (ทุกชนิดของสัตว์ป่า) กระซู่ชื่อสามัญ: แรดสุมาตราชื่อวิทยาศาสตร์: Dicermocerus sumatraensisชื่ออื่น: แรดสุมาตรากระซู่เป็นสัตว์ตระกูลแรดที่มีขนาดเล็กที่สุดในจำนวน 5 ชนิดที่มีอยู่รูปร่างหนาบึกบึนสีลำตัวน้ำตาลแดงลักษณะเด่นที่ต่างจากพวกพ้องตระกูลแรดชนิดอื่นก็คือมีขนสีน้ำตาลแดงยาวทั่วตัวบางครั้งฝรั่งก็เรียกว่าแรดขนสีขนจะเข้มขึ้นตามอายุหนักราว 600-950 กิโลกรัมความสูง 1-1.5 เมตรความยาวลำตัว 2.0-3.0 เมตรหางยาวประมาณ 50 เซนติเมตรขาสั้นม่อต้อริมฝีปากบนแหลมเป็นจงอยใช้หยิบจับได้กระซู่เป็นแรดในเอเชียเพียงชนิดเดียวที่มีสองนอนอหน้ายาวประมาณ 25-79 เซนติเมตรนอในอยู่หว่างคิ้วและเล็กกว่ามากมักยาวไม่ถึง 10 เซนติเมตรส่วนตัวเมียบางตัวอาจไม่มีนอในหนังกระซู่สีน้ำตาลอมเทาเข้มหนาเฉลี่ย 16 มิลลิเมตรหนังรอบตายับย่นมีรอยพับข้ามตัว 2 รอยคือที่หลังขาหน้าและหน้าขาหลังดูเหมือนหุ้มเกราะกระซู่มีสองชนิดย่อยคือกระซู่ตะวันตก (Dicerorhinus sumatrensis sumatrensis) พบในเกาะสุมาตราอินโดจีนและคาบสมุทรมลายูและกระซู่ตะวันออก (Dicerorhinus sumatrensis harrissoni) อาศัยอยู่ในเกาะบอร์เนียวก่อนหน้านี้เคยมีอีกชนิดย่อยหนึ่งคือ (Dicerorhinus sumatrensis lasiotus) พบในอินเดียบังกลาเทศและพม่าแต่ปัจจุบันคาดว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้วแม้จะยังมีความหวังว่าอาจยังมีเหลืออยู่ในพม่าก็ตามอาหารหลักของกระซู่คือใบไม้กิ่งไม้ยอดอ่อนผลไม้เช่นทุเรียนป่ามะม่วงป่าลูกไทรไผ่และพืชที่ขึ้นตามป่าชั้นสองกินอาหารเฉลี่ยวันละ 50 กิโลกรัมกระซู่หากินโดยลำพังตอนเช้ามืดและหัวค่ำเดินทางตอนกลางคืนส่วนตอนกลางวันจะนอนแช่ปลักหรือในบึงเพื่อพักผ่อนกระซู่มักทำปลักส่วนตัวโดยจะถางบริเวณในรัศมี 10-35 เมตรให้ราบเรียบเพื่อเป็นที่พักผ่อนกระซู่มีการย้ายถิ่นตามฤดูกาลโดยในฤดูฝนจะย้ายไปอยู่ที่สูงส่วนในฤดูอื่นจะย้ายลงมาอยู่ในที่ต่ำแม้จะดูอ้วนเทอะทะแต่กระซู่ปีนป่ายหน้าผาชันได้เก่งและว่ายน้ำได้ดีเคยมีผู้พบเห็นกระซู่ว่ายในน้ำทะเลด้วยกระซู่จำเป็นต้องลงกินโป่งอยู่เสมอเคยพบว่าพื้นที่รอบโป่งแห่งหนึ่งมีจำนวนกระซู่มากถึง 13-14 ตัวต่อตารางกิโลเมตรตัวผู้มีพื้นที่หากินประมาณ 30 ตารางกิโลเมตรและซ้อนเหลื่อมกันมากส่วนตัวเมียมีอาณาเขตเล็กกว่าเพียง 10-15 ตารางกิโลเมตรและซ้อนทับกับตัวเมียตัวอื่นเล็กน้อยทั้งตัวผู้และตัวเมียทำเครื่องหมายประกาศอาณาเขตด้วยรอยครูดขี้ละอองเยี่ยวและรอยลู่ของไม้อ่อนกระซู่อาศัยได้ในป่าหลายประเภทแต่ชอบที่สูงที่มีมอสปกคลุมและป่าฝนเขตร้อนมักพบใกล้แหล่งน้ำป่าชั้นสองที่มีความหนาแน่นพอสมควรก็ดึงดูดกระซู่ได้นอกจากนี้ยังเคยพบว่ากระซู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งด้วยฤดูกาลผสมพันธุ์ไม่ทราบแน่ชัดแต่มักพบว่าลูกกระซู่มักเกิดช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงฝนตกชุกแม่กระซู่ตั้งท้องนาน 477 วันออกลูกครั้งละ 1 ตัวลูกกระซู่แรกเกิดหนัก 25 กิโลกรัมสูง 60 เซนติเมตรและยาว 90 เซนติเมตรมีขนแน่นและสีขนออกแดงช่วงวันแรกๆ ลูกกระซู่จะซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ทึบใกล้โป่งขณะที่แม่ออกไปหากินพออายุได้ 2 เดือนจึงออกติดตามแม่ไปได้หย่านมได้เมื่ออายุ 18 เดือนแต่จะยังอยู่กับแม่จนกระทั่งอายุ 2-3 ปีกระซู่วัยเด็กอาจอยู่ร่วมกันแต่เมื่อโตแล้วก็จะแยกย้ายกันไปหากินตามลำพังตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 4 ปีส่วนตัวผู้ต้องรอไปถึงอายุ 7 ปีตัวเมียมีระยะตั้งท้องแต่ละครั้งห่างกัน 3-4 ปีกระซู่ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุขัยประมาณ 35 ปีกระซู่นับเป็นสัตว์ใหญ่ที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลกในต้นศตวรรษที่ 20 กระซู่ยังพบอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่เทือกเขาหิมาลัยภูฏานอินเดียตะวันออกจนถึงมาเลเซียสุมาตราและบอร์เนียวกระซู่ตะวันตกในแผ่นดินใหญ่เหลือเพียงประมาณ 100 ตัวส่วนใหญ่อยู่ในคาบสมุทรมลายูในประเทศไทยอาจเหลือเพียง 10 ตัวและในเกาะสุมาตรามีจำนวนประมาณ 300 ตัวกระซู่ตะวันออกที่เคยพบทั่วเกาะบอร์เนียวเหลือเพียงประมาณ 60 ตัวในรัฐซาบาห์เท่านั้นส่วนในรัฐซาราวักและกาลิมันตันไม่พบอีกแล้วกระซู่ประสบถูกคุกคามเนื่องจากป่าที่อยู่อาศัยถูกบุกรุกอย่างหนักจนเริ่มขาดจากกันเป็นผืนเล็กผืนน้อยยิ่งกว่านั้นทุกพื้นที่ที่พบกระซู่ล้วนแต่มีแนวโน้มประชากรลดลงศัตรูหลักของกระซู่คือมนุษย์และเสือโคร่งโครงการขยายพันธุ์กระซู่ในแหล่งเพาะเลี้ยงที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักนับตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมามีกระซู่ถูกจับมาจากป่าเพื่อมาเข้าโครงการนี้ 40 ตัวแต่ก็ตายไปถึง 19 ตัวการผสมเทียมก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรความล้มเหลวดังกล่าวน่าจะเป็นผลมาจากการขาดความรู้ด้านโภชนาการและการสืบพันธุ์ของกระซู่ปัจจุบันเราทราบแล้วว่ากระซู่ต้องการพื้นที่กว้างกว่าเดิมและมีสภาพเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เคยมีอยู่แม้เวลาจะเหลือน้อยลงทุกทีแต่ความพยายามที่จะรักษาเผ่าพันธุ์กระซู่ยังคงดำเนินต่อไปไอยูซีเอ็นจัดให้กระซู่อยู่ในสภาวะวิกฤตไซเตสจัดไว้ในบัญชีหมายเลข 1Dicerorhinus sumatrensisชื่อไทยกระซู่ชื่อวิทยาศาสตร์ Dicerorhinus sumatrensisชั้น Mammaliaอันดับ Perissodactylaวงศ์ Rhinocerotidaeสกุล Dicerorhinusชื่ออื่นอังกฤษ: แรดสุมาตรา เอเชีย Horned สองแรด แรดขนสถานภาพการคุ้มครองไซเตส: ติดตามบัญชีหมายเลข 1: สัตว์ป่าสงวน เลียงผาชื่อสามัญ: Serowชื่อวิทยาศาสตร์: Capricornis sumatraensisสัตว์กีบรูปร่างคล้ายแพะลำตัวสั้นขายาวขนดำยาวขนชั้นนอกชี้ฟูขนบริเวณตั้งแต่โคนเขาจนถึงหัวไหล่ยาวและฟูอาจมีสีแตกต่างกันไปตั้งแต่ขาวถึงดำหัวโตหูใหญ่ตั้งมีเขาเป็นรูปกรวยเรียวโค้งไปทางข้างหลังเล็กน้อยตัวผู
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ สัตว์ป่าสงวน (สงวนสัตว์) ๆ ความหมายของสัตว์ป่าสงวน (สงวนสัตว์) 2 พันธุ์ของสัตว์ป่าสงวน (ทุกชนิดของสัตว์ป่า) 3 พ.ศ. 2535 4 การอนุรักษ์สัตว์ป่าสงวน (การอนุรักษ์สัตว์ป่า) ความหมายของสัตว์ป่าสงวน (สงวนสัตว์) สัตว์ป่าสงวนหมายถึงสัตว์ป่าหายาก 15 ชนิด 2535 ได้แก่ แมวลายหินอ่อนพะยูนเก้งหม้อนกกระเรียนเลียงผากวางผาละองละมั่งหรือสมันกูปรีควายป่าแรดกระซู่สมเสร็จนกแต้วแล้วท้องดำและ (ทุกชนิดของสัตว์ป่า) กระซู่ชื่อสามัญ: กระซู่ชื่อวิทยาศาสตร์: Dicermocerus sumatraensis ชื่ออื่น: 5 ชนิดที่มีอยู่รูปร่างหนาบึกบึนสีลำตัวน้ำตาลแดง มีขนสีน้ำตาลแดงยาวทั่วตัวบางครั้งฝรั่งก็เรียกว่าแรดขนสีขนจะเข้มขึ้นตามอายุหนักราว 600-950 กิโลกรัมความสูง 1-1.5 เมตรความยาวลำตัว 2.0-3.0 เมตรหางยาวประมาณ 50 เซนติเมตรขาสั้นม่อต้อ นอหน้ายาวประมาณ 25-79 เซนติเมตรนอในอยู่หว่างคิ้วและเล็กกว่ามากมักยาวไม่ถึง 10 เซนติเมตรส่วนตัวเมียบางตัวอาจไม่มีนอในหนังกระซู่สีน้ำตาลอมเทาเข้มหนาเฉลี่ย 16 มิลลิเมตรหนังรอบตายับย่น มีรอยพับข้ามตัว 2 รอยคือที่หลังขาหน้าและหน้าขาหลัง กระซู่ตะวันตก (Dicerorhinus sumatrensis sumatrensis) พบในเกาะสุมาตราอินโดจีนและคาบสมุทรมลายูและกระซู่ตะวันออก (Dicerorhinus sumatrensis harrissoni) อาศัยอยู่ในเกาะบอร์เนียว (Dicerorhinus sumatrensis lasiotus) พบในอินเดียบังกลาเทศและพม่า ใบไม้กิ่งไม้ยอดอ่อนผลไม้เช่นทุเรียนป่ามะม่วงป่าลูกไทรไผ่และพืชที่ขึ้นตามป่าชั้นสองกินอาหารเฉลี่ยวันละ 50 กิโลกรัม เดินทางตอนกลางคืน 10-35 กระซู่มีการย้ายถิ่นตามฤดูกาลโดยในฤดูฝนจะย้ายไปอยู่ที่สูง และว่ายน้ำได้ดี 13-14 ตัวต่อตารางกิโลเมตรตัวผู้มีพื้นที่หากินประมาณ 30 ตารางกิโลเมตรและซ้อนเหลื่อมกันมากส่วนตัวเมียมีอาณาเขตเล็กกว่าเพียง 10-15 ขี้ละอองเยี่ยว มักพบใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งเป็นช่วงฝนตกชุกแม่กระซู่ตั้งท้องนาน 477 วันออกลูกครั้งละ 1 ตัวลูกกระซู่แรกเกิดหนัก 25 กิโลกรัมสูง 60 เซนติเมตรและยาว 90 เซนติเมตรมีขนแน่นและสีขนออกแดงช่วงวันแรก ๆ พออายุได้ 2 เดือนจึงออกติดตามแม่ไปได้หย่านมได้เมื่ออายุ 18 เดือน แต่จะยังอยู่กับแม่จนกระทั่งอายุ 2-3 ปีกระซู่วัยเด็กอาจอยู่ร่วมกัน 4 ปีส่วนตัวผู้ต้องรอไปถึงอายุ 7 ปี 3-4 ปี 35 ในต้นศตวรรษที่ 20 ภูฏานอินเดียตะวันออกจนถึงมาเลเซียสุมาตราและบอร์เนียว 100 ตัวส่วนใหญ่อยู่ในคาบสมุทรมลายูในประเทศไทยอาจเหลือเพียง 10 ตัวและในเกาะสุมาตรามีจำนวนประมาณ 300 ตัว 60 ตัวในรัฐซาบาห์เท่านั้น ยิ่งกว่านั้น นับตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมา 40 ตัว แต่ก็ตายไปถึง 19 ตัว ไซเตสจัดไว้ในบัญชีหมายเลข 1 Dicerorhinus sumatrensis ชื่อไทยกระซู่ชื่อวิทยาศาสตร์ Dicerorhinus sumatrensis ชั้นเลียอันดับ Perissodactyla วงศ์ Rhinocerotidae สกุล Dicerorhinus ชื่ออื่นอังกฤษ: กระซู่เอเชียสองตัวหงอนแรดแรดขนสถานภาพการคุ้มครองไซเตส: บัญชีหมายเลข 1 ไทย: สัตว์ป่าสงวนเลียงผาชื่อสามัญ: Serow ชื่อวิทยาศาสตร์: Capricornis sumatraensis สัตว์กีบรูปร่างคล้ายแพะลำตัวสั้นขายาวขนดำยาวขนชั้นนอกชี้ฟู หัวโตหูใหญ่ตั้งมีเขาเป็นรูปกรวยเรียวโค้งไปทางข้างหลังเล็กน้อยตัวผู











































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 2

ในการศึกษาเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องสัตว์ป่าสงวน ( สัตว์ป่าสงวน ) ผู้วิจัยได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างจะจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1 ความหมายของสัตว์ป่าสงวน ( สัตว์ป่าสงวน )
2พันธุ์ของสัตว์ป่าสงวน ( ทุกชนิดของสัตว์ป่า )
3 ข้อห้ามข้อบังคับบางประการจากพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ . ศ . 2535
4 การอนุรักษ์สัตว์ป่าสงวน ( อนุรักษ์สัตว์ป่า )

ความหมายของสัตว์ป่าสงวน ( สัตว์ป่าสงวน )สัตว์ป่าสงวนหมายถึงสัตว์ป่าหายาก 15 ชนิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
พ . ศ . 2535 ได้แก่แมวลายหินอ่อนพะยูนเก้งหม้อนกกระเรียนเลียงผากวางผาละองหรือละมั่งสมันกูปรี
ควายป่าแรดกระซู่สมเสร็จนกแต้วแล้วท้องดำและนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร
พันธุ์ของสัตว์ป่าสงวน ( ทุกชนิดของสัตว์ป่า )

กระซู่
ชื่อสามัญ : กระซู่
ชื่อวิทยาศาสตร์ : dicermocerus sumatraensis ชื่ออื่นแรดสุมาตรา

:กระซู่เป็นสัตว์ตระกูลแรดที่มีขนาดเล็กที่สุดในจำนวน 5 ชนิดที่มีอยู่รูปร่างหนาบึกบึนสีลำตัวน้ำตาลแดงลักษณะเด่นที่ต่างจากพวกพ้องตระกูลแรดชนิดอื่นก็คือมีขนสีน้ำตาลแดงยาวทั่วตัวบางครั้งฝรั่งก็เรียกว่าสีขนจะเข้มขึ้นตามอายุหนักราว 600-950 กิโลกรัมความสูง 1-15 เมตรความยาวลำตัว 81 ที่เศรษฐกิจเมตรหางยาวประมาณ 50 เซนติเมตรขาสั้นม่อต้อริมฝีปากบนแหลมเป็นจงอยใช้หยิบจับได้
กระซู่เป็นแรดในเอเชียเพียงชนิดเดียวที่มีสองนอนอหน้ายาวประมาณ 25-79 เซนติเมตรนอในอยู่หว่างคิ้วและเล็กกว่ามากมักยาวไม่ถึง 10 เซนติเมตรส่วนตัวเมียบางตัวอาจไม่มีนอในหนังกระซู่สีน้ำตาลอมเทาเข้มหนาเฉลี่ย 16หนังรอบตายับย่นมีรอยพับข้ามตัวรอยคือที่หลังขาหน้าและหน้าขาหลังดูเหมือนหุ้มเกราะ
2กระซู่มีสองชนิดย่อยคือกระซู่ตะวันตก ( dicerorhinus sumatrensis sumatrensis ) พบในเกาะสุมาตราอินโดจีนและคาบสมุทรมลายูและกระซู่ตะวันออก ( dicerorhinus sumatrensis harrissoni ) อาศัยอยู่ในเกาะบอร์เนียวก่อนหน้านี้เคยมีอีกชนิดย่อยหนึ่งคือsumatrensis lasiotus ) พบในอินเดียบังกลาเทศและพม่าแต่ปัจจุบันคาดว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้วแม้จะยังมีความหวังว่าอาจยังมีเหลืออยู่ในพม่าก็ตาม
อาหารหลักของกระซู่คือใบไม้กิ่งไม้ยอดอ่อนผลไม้เช่นทุเรียนป่ามะม่วงป่าลูกไทรไผ่และพืชที่ขึ้นตามป่าชั้นสองกินอาหารเฉลี่ยวันละ 50 กิโลกรัมกระซู่หากินโดยลำพังตอนเช้ามืดและหัวค่ำเดินทางตอนกลางคืนกระซู่มักทำปลักส่วนตัวโดยจะถางบริเวณในรัศมี 10-35 เมตรให้ราบเรียบเพื่อเป็นที่พักผ่อนกระซู่มีการย้ายถิ่นตามฤดูกาลโดยในฤดูฝนจะย้ายไปอยู่ที่สูงส่วนในฤดูอื่นจะย้ายลงมาอยู่ในที่ต่ำและว่ายน้ำได้ดีเคยมีผู้พบเห็นกระซู่ว่ายในน้ำทะเลด้วย
กระซู่จำเป็นต้องลงกินโป่งอยู่เสมอเคยพบว่าพื้นที่รอบโป่งแห่งหนึ่งมีจำนวนกระซู่มากถึง 13-14 ตัวต่อตารางกิโลเมตรตัวผู้มีพื้นที่หากินประมาณ 30 ตารางกิโลเมตรและซ้อนเหลื่อมกันมากส่วนตัวเมียมีอาณาเขตเล็กกว่า10-15 ตารางกิโลเมตรและซ้อนทับกับตัวเมียตัวอื่นเล็กน้อยทั้งตัวผู้และตัวเมียทำเครื่องหมายประกาศอาณาเขตด้วยรอยครูดขี้ละอองเยี่ยวและรอยลู่ของไม้อ่อน
กระซู่อาศัยได้ในป่าหลายประเภทแต่ชอบที่สูงที่มีมอสปกคลุมและป่าฝนเขตร้อนมักพบใกล้แหล่งน้ำป่าชั้นสองที่มีความหนาแน่นพอสมควรก็ดึงดูดกระซู่ได้นอกจากนี้ยังเคยพบว่ากระซู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งด้วย
ฤดูกาลผสมพันธุ์ไม่ทราบแน่ชัดแต่มักพบว่าลูกกระซู่มักเกิดช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงฝนตกชุกแม่กระซู่ตั้งท้องนาน 477 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าออกลูกครั้งละ 1 ตัวลูกกระซู่แรกเกิดหนัก 25 กิโลกรัมสูง 6090 เซนติเมตรมีขนแน่นและสีขนออกแดงช่วงวันแรกจะลูกกระซู่จะซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ทึบใกล้โป่งขณะที่แม่ออกไปหากินพออายุได้ 2 เดือนจึงออกติดตามแม่ไปได้หย่านมได้เมื่ออายุ 18 เดือนแต่จะยังอยู่กับแม่จนกระทั่งอายุครั้งกระซู่วัยเด็กอาจอยู่ร่วมกันแต่เมื่อโตแล้วก็จะแยกย้ายกันไปหากินตามลำพัง
ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 4 . ส่วนตัวผู้ต้องรอไปถึงอายุ 7 . ตัวเมียมีระยะตั้งท้องแต่ละครั้งห่างกัน 3-4 กระซู่ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุขัยประมาณ 35 .
.กระซู่นับเป็นสัตว์ใหญ่ที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลกในต้นศตวรรษที่ 20 กระซู่ยังพบอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่เทือกเขาหิมาลัยภูฏานอินเดียตะวันออกจนถึงมาเลเซียสุมาตราและบอร์เนียว100 ตัวส่วนใหญ่อยู่ในคาบสมุทรมลายูในประเทศไทยอาจเหลือเพียง 10 ตัวและในเกาะสุมาตรามีจำนวนประมาณ 300 ตัวกระซู่ตะวันออกที่เคยพบทั่วเกาะบอร์เนียวเหลือเพียงประมาณ 60 ตัวในรัฐซาบาห์เท่านั้นกระซู่ประสบถูกคุกคามเนื่องจากป่าที่อยู่อาศัยถูกบุกรุกอย่างหนักจนเริ่มขาดจากกันเป็นผืนเล็กผืนน้อยยิ่งกว่านั้นทุกพื้นที่ที่พบกระซู่ล้วนแต่มีแนวโน้มประชากรลดลงศัตรูหลักของกระซู่คือมนุษย์และเสือโคร่ง
โครงการขยายพันธุ์กระซู่ในแหล่งเพาะเลี้ยงที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักนับตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมามีกระซู่ถูกจับมาจากป่าเพื่อมาเข้าโครงการนี้ 40 ตัวแต่ก็ตายไปถึง 19 ตัวความล้มเหลวดังกล่าวน่าจะเป็นผลมาจากการขาดความรู้ด้านโภชนาการและการสืบพันธุ์ของกระซู่ปัจจุบันเราทราบแล้วว่ากระซู่ต้องการพื้นที่กว้างกว่าเดิมและมีสภาพเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เคยมีอยู่
แม้เวลาจะเหลือน้อยลงทุกทีแต่ความพยายามที่จะรักษาเผ่าพันธุ์กระซู่ยังคงดำเนินต่อไป
ไอยูซีเอ็นจัดให้กระซู่อยู่ในสภาวะวิกฤตไซเตสจัดไว้ในบัญชีหมายเลข 1
dicerorhinus sumatrensis กระซู่

ชื่อไทยชื่อวิทยาศาสตร์ dicerorhinus sumatrensis

อันดับชั้น Mammalia อันดับสัตว์กีบคี่

วงศ์ rhinocerotidae สกุล dicerorhinus
ชื่ออื่นอังกฤษ : กระซู่ , เอเชียสองเขาแรด , แรดขน
สถานภาพการคุ้มครองไซเตส : บัญชีหมายเลข 1 ไทย : สัตว์ป่าสงวน



เลียงผาชื่อสามัญ :กูรำชื่อวิทยาศาสตร์ capricornis sumatraensis

:สัตว์กีบรูปร่างคล้ายแพะลำตัวสั้นขายาวขนดำยาวขนชั้นนอกชี้ฟูขนบริเวณตั้งแต่โคนเขาจนถึงหัวไหล่ยาวและฟูอาจมีสีแตกต่างกันไปตั้งแต่ขาวถึงดำหัวโตหูใหญ่ตั้งมีเขาเป็นรูปกรวยเรียวโค้งไปทางข้างหลังเล็กน้อย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: