4. ConclusionsThe results suggest t

4. Conclusions
The results suggest that soil property distributions on the field scale vary more randomly than the specific intra-field structures. Controversially, higher degrees of structured spatial dependences were found on the catenary scale, and to a slightly lesser degree on the watershed scale. The existence of the relationships between physical and hydrological soil properties on the one hand and topography on the other enables the application of co-regionalization techniques in order to optimize soil sampling/mapping on the watershed scale by using readily available secondary information as terrain variables calculated from digital elevation models. Furthermore, the application of remote sensing data tends to be suitable to indicate different states of water supply and soil hydrological characteristics such as the hydraulic conductivity of the plough pan.

Results obtained from field and laboratory scale investigations revealed the dynamic dual porosity nature of the paddy soils with a macropore network penetrating the plough pan. The plough pan controls vertical water losses towards the subsoil, seems to be less permeable for the older and more developed paddy soils as compared to younger ones. Functioning of plough pans seems to increase with ‘age’ (i.e., duration of paddy management) of the paddy fields. Preferential flow paths indicate a potential for water loss and solute leaching at particular times during flooding the paddy fields. In the plough pan both dynamic (cracks and root channels) and relatively static (i.e., worm burrows) macropore systems could be identified as flow paths. In opposite to earlier, exclusively laboratory-based studies, we could demonstrate that the consolidation of the paddy's plough pan is likely to continue for decades.

Repeated puddling increases sealing and decreases mechanical top soil-swelling potential such that the plough pan grows (sedimentation) in thickness and shrinkage is reduced. However, even field sites that have been under paddy cultivation for centuries significant water and compound losses may occur through the bunds surrounding the field. Dye tracer experiments demonstrated that the bunds are distinctly more vulnerable to preferential water losses to the groundwater than the actual paddy field.

Puddling and the destruction of soil structure directly impacts microhabitats especially the development of intra-aggregate pores as described on the aggregate-scale. The response of microbial dynamics is varying with respect to soil texture and the management-stages of puddling, flooding, and drainage. The combination of micropedological investigations and specific detection of microorganisms is appropriate to achieve a complex description of microhabitats in paddy soils.

The outcome of the conducted research suggests that paddy fields are highly dynamic systems with periodical water and matter losses. Although paddies belong to agricultural systems that are strongly impacted by anthropological activities often over centuries, it is advisable to maintain equilibrium conditions with respect to water status as long as possible. If rice paddies are subjected to regular drying and wetting cycles even within the growing period, the dual porosity nature of the soil is further enhanced and significant water and matter losses may be the consequence. Since many of the rice fields are operated manually, it could even be possible to maintain ponded conditions during harvest in order to decrease the risk of crack formation. The puddling itself (and its regular repetition) may be considered as a consolidation and water conservation measure since it reduces the hydraulic conductivity of the plough pan.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.
สรุปผลการชี้ให้เห็นว่าการกระจายทรัพย์สินดินขนาดสนามที่แตกต่างกันมากขึ้นกว่าการสุ่มเฉพาะโครงสร้างภายในสนาม คัลองศาที่สูงขึ้นของ dependences เชิงพื้นที่ที่มีโครงสร้างที่พบในระดับโซ่และในระดับน้อยเล็กน้อยในระดับลุ่มน้ำ การดำรงอยู่ของความสัมพันธ์ระหว่างคุณสมบัติของดินทางกายภาพและอุทกวิทยาบนมือข้างหนึ่งและภูมิประเทศที่อื่น ๆ จะช่วยให้การประยุกต์ใช้เทคนิคร่วมภูมิภาคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บตัวอย่างดิน / การทำแผนที่ในระดับลุ่มน้ำโดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิพร้อมใช้เป็นตัวแปรภูมิประเทศคำนวณ จากรุ่นสูงดิจิตอล นอกจากนี้การประยุกต์ใช้ข้อมูลการสำรวจระยะไกลมีแนวโน้มที่จะมีความเหมาะสมที่จะบ่งบอกถึงรัฐที่แตกต่างของน้ำประปาและลักษณะทางอุทกวิทยาดินเช่นการนำไฮดรอลิของกระทะไถ. ผลที่ได้รับจากสนามและการตรวจสอบระดับห้องปฏิบัติการเปิดเผยลักษณะพรุนคู่แบบไดนามิกของข้าว ดินที่มีเครือข่าย macropore เจาะกระทะไถ การควบคุมกระทะไถการสูญเสียน้ำในแนวดิ่งไปสู่ชั้นใต้ผิวดินที่ดูเหมือนว่าจะดูดซึมน้อยลงสำหรับพี่และพัฒนามากขึ้นดินนาเมื่อเทียบกับคนที่อายุน้อย การทำงานของกระทะไถดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นตามอายุ '(เช่นระยะเวลาของการจัดการข้าว) ของนาข้าว เส้นทางการไหลพิเศษบ่งบอกถึงความมีศักยภาพสำหรับการสูญเสียน้ำและการชะล้างตัวละลายในบางครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงน้ำท่วมนาข้าว ในกระทะไถทั้งแบบไดนามิก (รอยแตกและช่อง root) และค่อนข้างคงที่ (เช่นโพรงหนอน) ระบบ macropore จะได้รับการระบุว่าเป็นเส้นทางการไหล ในตรงข้ามกับก่อนหน้านี้ศึกษาเฉพาะทางห้องปฏิบัติการตามที่เราจะได้แสดงให้เห็นว่าการควบรวมกิจการของกระทะไถข้าวที่มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในทศวรรษที่ผ่านมา. ซ้ำเพิ่มขึ้น puddling ปิดผนึกและลดลงดินบวมบนกลที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าวว่ากระทะไถเติบโต (ตกตะกอน) ในความหนาและการหดตัวจะลดลง อย่างไรก็ตามแม้กระทั่งเว็บไซต์เขตข้อมูลที่ได้รับภายใต้การเพาะปลูกข้าวที่สำคัญมานานหลายศตวรรษน้ำและการสูญเสียสารอาจเกิดขึ้นผ่านทำนบรอบสนาม ย้อมการทดลองแสดงให้เห็นถึงรอยทำนบว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดการสูญเสียน้ำบาดาลเพื่อให้สิทธิพิเศษกว่านาข้าวที่เกิดขึ้นจริง. puddling และการทำลายโครงสร้างของดินผลกระทบโดยตรงต่อ microhabitats โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาของรูขุมขนภายในรวมตามที่อธิบายไว้ในการรวมขนาด การตอบสนองของการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันเป็นจุลินทรีย์ที่เกี่ยวกับพื้นผิวดินและขั้นตอนการจัดการของ puddling น้ำท่วมและการระบายน้ำ การรวมกันของการตรวจสอบและการตรวจสอบ micropedological เฉพาะของจุลินทรีย์ที่มีความเหมาะสมเพื่อให้บรรลุคำอธิบายที่ซับซ้อนของ microhabitats ในดินนา. ผลของการวิจัยที่ดำเนินการแสดงให้เห็นทุ่งนาที่มีระบบแบบไดนามิกสูงด้วยน้ำช่วงเวลาและความสูญเสียที่สำคัญ แม้ว่านาเป็นระบบการเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากกิจกรรมมานุษยวิทยามักจะตลอดหลายศตวรรษที่จะแนะนำให้เลือกที่จะรักษาสภาพสมดุลที่เกี่ยวกับสถานะของน้ำเป็นเวลานานที่สุด หากนาข้าวจะถูกอบแห้งปกติและรอบเปียกแม้จะอยู่ในระยะเวลาการเจริญเติบโตลักษณะพรุนคู่ของดินจะเพิ่มขึ้นต่อไปและน้ำอย่างมีนัยสำคัญและความสูญเสียที่สำคัญอาจจะเป็นผล เนื่องจากนาข้าวที่มีการดำเนินการด้วยตนเองก็อาจได้เป็นไปได้ที่จะรักษาสภาพ ponded ในระหว่างการเก็บเกี่ยวเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแตก puddling ตัวเอง (และซ้ำปกติ) อาจได้รับการพิจารณาเป็นมาตรการอนุรักษ์การควบรวมกิจการและน้ำเพราะมันจะช่วยลดการนำไฮดรอลิของกระทะไถ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . สรุป
ชี้ให้เห็นว่าดินคุณสมบัติการแจกแจงแบบสุ่มบนสนามแตกต่างกันมากขึ้นกว่าโครงสร้างภายในเขตข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง controversially องศาที่สูงขึ้นของโครงสร้างเชิงพื้นที่ dependences พบบนมาตราส่วนผสมและเล็กน้อยน้อยกว่าระดับในลุ่มน้ำขนาดการดำรงอยู่ของความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติทางกายภาพ และดินอุทกวิทยา ในมือข้างหนึ่งและภูมิประเทศในอื่น ๆช่วยให้การประยุกต์ใช้เทคนิคภูมิภาค จำกัดในการเพิ่มประสิทธิภาพของดินในลุ่มน้ำตัวอย่าง / แผนที่มาตราส่วนโดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิพร้อมที่คำนวณจากแบบจำลองความสูงภูมิประเทศทางดิจิตอล นอกจากนี้การใช้ข้อมูลระยะไกลมีแนวโน้มที่จะเหมาะเพื่อแสดงสถานะที่แตกต่างกันของน้ำ และดิน ลักษณะทางอุทกวิทยา เช่น สภาพนำชลศาสตร์ของไถกระทะ

ผลที่ได้จากภาคสนามและการตรวจสอบระดับห้องปฏิบัติการพบคู่แบบไดนามิกวัสดุธรรมชาติของดินนาที่มี macropore เครือข่ายเจาะไถกระทะไถกระทะการควบคุมแนวการสูญเสียน้ำต่อดิน ดูเหมือนจะซึมผ่านได้น้อยกว่าเก่า และพัฒนาดินนาเมื่อเทียบกับคนน้อง การทำงานของกระทะไถดูเหมือนว่าเพิ่มขึ้นกับอายุ ' ' ( เช่นระยะเวลาของการจัดการข้าวเปลือก ) ในนาข้าวเส้นทางการไหลของนักแสดงศักยภาพสำหรับการสูญเสียน้ำและการชะละลายตัวถูกละลายที่เฉพาะเวลาในระหว่างที่ท่วมนาข้าว ในไถกระทะ ทั้งแบบไดนามิก ( รอยแตกและช่องราก ) และค่อนข้างคงที่ ( เช่น หนอน เบอร์โรวส์ ) ระบบ macropore อาจจะระบุว่าเป็นเส้นทางไหล อยู่ตรงข้ามกับก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะปฏิบัติการตามการศึกษาเราสามารถแสดงให้เห็นว่าการรวมของพื้นที่ไถพรวนมีแนวโน้มที่จะยังคงมานานหลายทศวรรษ

ซ้ำอาวุธเพิ่มขึ้น และลดอาการบวมเครื่องกลปิดผนึกด้านบนดินที่มีศักยภาพเช่นที่ไถกระทะเติบโต ( ตะกอน ) ความหนาและการหดตัวลดลง อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ที่ได้รับภายใต้การปลูกข้าวมานานหลายศตวรรษและการสูญเสียสารน้ำที่สำคัญอาจเกิดขึ้นผ่าน bunds รอบสนาม ย้อมติดตามการทดลองแสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงที่จะขาดทุน bunds ชัดพิเศษไปกว่าน้ำบาดาลนาข้าวจริง

อาวุธและทำลายโครงสร้างของดินโดยตรงต่อ microhabitats โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาภายในรวมรูตามที่อธิบายไว้ในระดับรวม . การตอบสนองพลวัตของจุลินทรีย์จะเปลี่ยนแปลงด้วยความเคารพ เนื้อดินและการจัดการขั้นตอนของอาวุธ , น้ำท่วมและการระบายน้ำการรวมกันของการสอบสวน และตรวจสอบ micropedological จุลินทรีย์เฉพาะเหมาะสมเพื่อให้ได้รายละเอียดที่ซับซ้อนของ microhabitats ในดินนา

ผลของการบ่งบอกว่านาข้าวเป็นระบบแบบไดนามิกสูงเป็นระยะ น้ำและปัญหาการขาดทุนแม้ว่านาข้าวเป็นของระบบการเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างมากโดยกิจกรรมมานุษยวิทยาบ่อยกว่าศตวรรษ มันสมควรที่จะรักษาสมดุลเงื่อนไขเกี่ยวกับสถานะน้ำให้นานที่สุด ถ้าทุ่งนาจะต้องแห้งและเปียกรอบปกติ แม้แต่ภายในอายุการปลูกสองความธรรมชาติของดินและน้ำ และเพิ่มขึ้นอีกอย่างเรื่องการสูญเสียที่อาจจะตามมา ตั้งแต่มากของข้าวจะดำเนินการด้วยตนเอง และมันก็อาจเป็นไปได้ที่จะรักษา ponded เงื่อนไขในการเก็บเกี่ยว เพื่อที่จะลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแตกร้าวอาวุธที่ตัวเอง ( และซ้ำปกติของมัน ) อาจถือว่าเป็นการอนุรักษ์น้ำวัดเนื่องจากมันช่วยลดสภาพนำชลศาสตร์ของไถกระทะ