วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากมีเสถียรภาพมาระยะหนึ่ง โดยการที่สภาผู้แทนราษฎร ลงมติให้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... ผ่านการพิจารณาในวาระที่สองและสาม ในเวลาเช้ามืดของวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เป็นเหตุสำคัญที่มีประชาชนหลายกลุ่มแสดงการคัดค้าน โดยสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำการชุมนุม รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งต่อต้านด้วยการอ้างว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะช่วยให้พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากความผิดทางการเมือง และสามารถกลับเข้าประเทศไทย ทั้งเชื่อว่า นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรอยู่เบื้องหลังการนี้ สำหรับการคัดค้านของ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มคนเสื้อแดงส่วนหนึ่ง ด้วยเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จะล้างความผิดของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ ให้พ้นจากข้อหาสั่งสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2553 จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ครั้นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 วุฒิสภาลงมติไม่เห็นชอบ กับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ แต่การชุมนุมซึ่งนำโดยสุเทพ ยังคงดำเนินต่อไป โดยเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นการต่อต้านรัฐบาลแทน