In computing, a graphical user inte

In computing, a graphical user interface (GUI,[1] sometimes pronounced "gooey" (or "gee-you-eye"))[2] is a type of interface that allows users to interact with electronic devices through graphical icons and visual indicators such as secondary notation, as opposed to text-based interfaces, typed command labels or text navigation. GUIs were introduced in reaction to the perceived steep learning curve of command-line interfaces (CLIs),[3][4][4] which require commands to be typed on the keyboard.
A precursor to GUIs was invented by researchers at the Stanford Research Institute, led by Douglas Engelbart. They developed the use of text-based hyperlinks manipulated with a mouse for the On-Line System (NLS). The concept of hyperlinks was further refined and extended to graphics by researchers at Xerox PARC and specifically Alan Kay, who went beyond text-based hyperlinks and used a GUI as the primary interface for the Xerox Alto computer, released in 1973. Most modern general-purpose GUIs are derived from this system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการคำนวณ ส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI, [1] บางครั้งออกเสียง "gooey" (หรือ "gee-คุณตา")) [2] เป็นชนิดของอินเทอร์เฟซที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านไอคอนรูปภาพและตัวบ่งชี้ที่ภาพเช่นสัญกรณ์รอง ตรงข้ามกับข้อความเฟซ สั่งพิมพ์ป้าย หรือข้อความนำ GUIs ถูกนำมาใช้ในปฏิกิริยาการเรียนรู้รับรู้สูงชันโค้งของบรรทัดคำสั่งอินเทอร์เฟซ (CLIs), [3] [4] [4] ซึ่งต้องใช้คำสั่งในการพิมพ์บนแป้นพิมพ์สารตั้งต้นการ GUIs ถูกคิดค้น โดยนักวิจัยที่ สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด นำ โดยดักลาส Engelbart พวกเขาพัฒนาใช้มิติข้อความจัดการกับเมาส์สำหรับช่วยระบบ (NLS) แนวคิดของการเชื่อมโยงหลายมิติถูกกลั่นเพิ่มเติม และขยายรูปภาพ โดยนักวิจัยที่ Xerox PARC โดย Alan เคย์ ที่ไปนอกเหนือจากข้อความการเชื่อมโยงหลายมิติ และใช้ GUI เป็นอินเทอร์เฟซหลักเครื่อง Xerox Alto นำออกใช้ใน 1973 GUIs เม็ดน่าจะมาจากระบบนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการใช้คอมพิวเตอร์, อินเตอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI [1] บางครั้งออกเสียง "เหนอะหนะ" (หรือ "Gee คุณตา")) [2] เป็นชนิดของอินเตอร์เฟซที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านไอคอนกราฟิกและภาพ ตัวชี้วัดเช่นสัญกรณ์รองเมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อข้อความที่พิมพ์ฉลากคำสั่งหรือการนำข้อความ GUIs ถูกนำมาใช้ในการตอบสนองต่อการรับรู้ที่สูงชันโค้งการเรียนรู้ของอินเตอร์เฟซบรรทัดคำสั่ง (CLIS) [3] [4] [4] ซึ่งต้องใช้คำสั่งที่จะพิมพ์บนแป้นพิมพ์
ปูชนียบุคคลที่ GUIs ถูกคิดค้นโดยนักวิจัยที่ Stanford สถาบันวิจัยนำโดยดักลาส Engelbart พวกเขาพัฒนาใช้เชื่อมโยงหลายมิติข้อความที่ใช้จัดการกับเมาส์สำหรับระบบ On-Line (NLS) แนวคิดของการเชื่อมโยงหลายมิติคือการกลั่นต่อไปและขยายไปยังกราฟิกโดยนักวิจัยที่ซีร็อกซ์และโดยเฉพาะอลันเคย์ที่ไปเชื่อมโยงหลายมิตินอกเหนือจากข้อความที่ใช้และใช้ GUI เป็นอินเตอร์เฟซหลักสำหรับคอมพิวเตอร์ซีร็อกซ์อัลโตได้รับการปล่อยตัวในปี 1973 งานทั่วไปที่ทันสมัยที่สุด GUIs วัตถุประสงค์จะได้มาจากระบบนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการคำนวณมีอินเตอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก ( GUI , [ 1 ] บางครั้งออกเสียงว่า " นุ่มนวล " ( หรือ " โอท่านตา " ) [ 2 ] เป็นชนิดของอินเตอร์เฟซที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางไอคอนกราฟิกและตัวชี้วัดการมองเห็น เช่น รองโน้ต เป็นนอกคอกการ interfaces , พิมพ์ป้ายคำสั่ง หรือ นำทางข้อความguis ถูกแนะนำในปฏิกิริยาการรับรู้การเรียนรู้โค้งสูงชันของอินเตอร์เฟซบรรทัดคำสั่ง ( clis ) [ 3 ] [ 4 ] [ 4 ] ซึ่งต้องใช้คำสั่งที่จะพิมพ์บนแป้นพิมพ์ .
เป็น precursor guis ถูกคิดค้นโดยนักวิจัยที่สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด นำโดย ดักลาส เ เกลบาร์ต . พวกเขาพัฒนา การใช้ข้อความที่เชื่อมโยงหลายมิติใช้กับเมาส์สำหรับระบบสาย ( NLS )แนวคิดของการเชื่อมโยงเพิ่มเติมการกลั่นและขยายกราฟิกโดยนักวิจัยที่ซีร็อกซ์พาร์ค และโดยเฉพาะอลันเคย์ ที่นอกเหนือไปจากข้อความที่เชื่อมโยงหลายมิติและใช้ GUI เป็นอินเตอร์เฟซหลักสำหรับ Xerox Alto คอมพิวเตอร์ ออกในปี 1973 ที่ทันสมัยที่สุด guis เอนกประสงค์ มีที่มาจากระบบนี้