Background: A number of states in t

Background: A number of states in the United States legally allow the use of cannabis as a medical therapy to treat an illness or to alleviate symptoms. Concern persists as to whether these types of laws are increasing juvenile recreational cannabis use. It is also plausible that medical cannabis laws engender an escalation of illicit non-cannabis drug use among juveniles because cannabis is frequently considered to be a gateway drug.
Methods: This study uses longitudinal data drawn from the National Survey on Drug Use and Health for the 50 U.S. states and a cross-sectional pooled-time series research design to investigate the effect of medical cannabis laws on juvenile cannabis use and on juvenile non-cannabis illicit drug use. Our study period encompasses five measurement periods calibrated in two-year intervals (2002–2003 to 2010– 2011). This research design is advantageous in that it affords us the ability not only to assess the effect of the implementation of medical cannabis laws on juvenile drug use, but also to consider other state- specific factors that may explain variation in drug use that cannot be accounted for using a single time series.
Results: Findings show that medical cannabis laws amplify recreational juvenile cannabis use. Other salient predictors of juvenile cannabis use at the state-level of analysis include perceived availability of cannabis, percent of juveniles skipping school, severity of perceived punishment for cannabis possession, alcohol consumption, percent of respondents with a father residing in household, and percent of families in the state receiving public assistance. There is little empirical evidence to support the view that medical cannabis laws affect juveniles’ use of illicit non-cannabis drugs.
Conclusion: Based on our findings, it seems reasonable to speculate that medical cannabis laws amplify juveniles’ use of cannabis by allaying the social stigma associated with recreational cannabis use and by placating the fear that cannabis use could potentially result in a negative health outcome.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: หลายรัฐในสหรัฐอเมริกาตามกฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาเป็นวิธีการบำบัดทางการแพทย์ เพื่อบำบัด หรือบรรเทาอาการ ยังคงกังวลเกี่ยวกับว่ากฎหมายประเภทนี้จะเพิ่มใช้กัญชาเยาวชนได้ออกกำลังกาย ก็ยังเป็นไปได้ว่า กฎหมายกัญชาทางการแพทย์ engender เลื่อนการใช้ยาเสพติดกัญชาไม่ผิดกฎหมายระหว่าง juveniles เนื่องจากกัญชามักถือเป็นยาเกตเวย์วิธีการ: การศึกษานี้ใช้ระยะยาวข้อมูลสำรวจแห่งชาติใช้ยาและสุขภาพสำหรับสหรัฐอเมริกา 50 และแบบวิจัยเหลวเวลาทางถูกพูชุดการตรวจสอบผลของกฎหมายแพทย์กัญชากัญชาเยาวชนใช้ และในเด็กไม่ใช่กัญชาลักลอบยาเสพติด ระยะเวลาการศึกษาของเราครอบคลุมรอบระยะเวลาห้าวัดการปรับเทียบในช่วง 2 ปี (2002 – 2003 กับ 2010-2011) ออกแบบการวิจัยนี้เป็นข้อได้เปรียบที่มันแล้วเราความสามารถไม่เพียงแต่ การประเมินผลการปฏิบัติตามกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ใช้ยาสลบ แต่ยัง ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เฉพาะรัฐที่อาจอธิบายความผันแปรในการใช้ยาที่ไม่สามารถจะลงบัญชีโดยใช้ชุดเวลาเดียวผล: ผลการวิจัยแสดงว่า กัญชาทางการแพทย์กฎหมายขยายใช้กัญชานันทนาการเยาวชน อื่น ๆ predictors เด่นใช้กัญชาเยาวชนระดับรัฐวิเคราะห์รวมกัญชา เปอร์เซ็นต์ของ juveniles ข้ามโรงเรียน ความรุนแรงของการลงโทษครอบครองกัญชา แอลกอฮอล์ ร้อยละของผู้ตอบกับพ่อในครัวเรือน และร้อยละของครอบครัวในรัฐที่ได้รับความช่วยเหลือประชาชนรับรู้รับรู้ความ มีหลักฐานประจักษ์น้อยสนับสนุนมุมมองที่ว่า กฎหมายกัญชาทางการแพทย์มีผลใช้ของ juveniles กัญชาไม่ใช่ยาผิดกฎหมายสรุป: จากผลการวิจัยของเรา ดูเหมือนเหมาะสมคะเนว่า กัญชาทางการแพทย์กฎหมายขยาย juveniles ผู้ใช้กัญชา โดย allaying สติกมาทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชาหย่อน และ placating กลัวว่า ใช้กัญชาอาจอาจทำให้ผลลัพธ์สุขภาพลบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: จำนวนของรัฐที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาตามกฎหมายที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเป็นยาทางการแพทย์ในการรักษาความเจ็บป่วยหรือเพื่อบรรเทาอาการ ความกังวลยังคงเป็นไปได้ว่าเหล่านี้ประเภทของกฎหมายที่จะเพิ่มการใช้กัญชาที่พักผ่อนหย่อนใจของเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่ากฎหมายกัญชาในทางการแพทย์ทำให้เกิดการเพิ่มของผิดกฎหมายที่ไม่กัญชาใช้ยาเสพติดในหมู่หนุ่มสาวเพราะกัญชาเป็นที่ยอมรับว่าบ่อยครั้งเพื่อเป็นประตูยาเสพติด.
วิธีการ: การศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลระยะยาวมาจากการสำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับการใช้ยาและสุขภาพสำหรับ 50 รัฐของสหรัฐอเมริกาและตัด pooled เวลาการออกแบบการวิจัยชุดเพื่อตรวจสอบผลกระทบของกฎหมายกัญชาในทางการแพทย์เกี่ยวกับการใช้กัญชาเด็กและเยาวชนและเด็กและเยาวชนที่ไม่ได้ใช้ยาเสพติดกัญชาผิดกฎหมาย ระยะเวลาการศึกษาของเราครอบคลุมระยะเวลาห้าวัดสอบเทียบในช่วงเวลาสองปี (2002-2003 เพื่อ 2010- 2011) การออกแบบการวิจัยครั้งนี้เป็นข้อได้เปรียบในการที่จะกำบังเรามีความสามารถไม่เพียง แต่ในการประเมินผลกระทบของการดำเนินการตามกฎหมายกัญชาในทางการแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดของเด็กและเยาวชน แต่ยังจะต้องพิจารณาปัจจัยเฉพาะอื่น ๆ state- ที่อาจอธิบายได้ว่าการเปลี่ยนแปลงในการใช้ยาที่ไม่สามารถนำมาใช้ สำหรับการใช้ชุดเวลาเดียว.
ผลการศึกษา: ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่ากฎหมายกัญชาในทางการแพทย์ขยายสันทนาการกัญชาใช้เด็กและเยาวชน พยากรณ์เด่นอื่น ๆ ของการใช้กัญชาเด็กและเยาวชนในระดับรัฐของการวิเคราะห์รวมถึงการรับรู้พร้อมของกัญชาเปอร์เซ็นต์ของหนุ่มสาวข้ามโรงเรียนระดับความรุนแรงของการลงโทษการรับรู้เพื่อครอบครองกัญชาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามกับพ่อที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนและร้อยละของ ครอบครัวในรัฐที่ได้รับการช่วยเหลือประชาชน มีหลักฐานเชิงประจักษ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะสนับสนุนมุมมองว่ากฎหมายกัญชาในทางการแพทย์มีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนที่ใช้ยาเสพติดที่ไม่กัญชาผิดกฎหมาย.
สรุป: จากผลการวิจัยของเราก็ดูเหมือนว่าเหมาะสมที่จะคาดเดาว่ากฎหมายกัญชาในทางการแพทย์ขยายหนุ่มสาว 'ใช้กัญชาโดยการบรรเทาสังคม จุดเชื่อมโยงกับการใช้กัญชาที่พักผ่อนหย่อนใจและปลอบใจจากความกลัวว่าการใช้กัญชาอาจจะส่งผลให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

She is attracted to everyone in the job.She is attracted to everyone in the job.She is attracted to everyone in the job.She is attracted to everyone in the job.She is attracted to everyone in the job.She is attracted to everyone in the job.She is attracted to everyone in the job.