Atmospheric carbon dioxide concentr

Atmospheric carbon dioxide concentrations have risen by more than 40% since scientists first started recording these levels, from 280 parts per million (ppm) in 1958 to over 400ppm today.

According to NOAA2, over the past 800,000 years, atmospheric carbon dioxide concentrations have fluctuated between 180 ppm during ice ages to 280 ppm during warm interglacial periods.

Trending increase of CO2
Click here for more data on Carbon Dioxide increase
Atmospheric carbon dioxide concentrations are not only higher than they have been in over 800,000 years, the current increase that we are seeing today is more than 100 times faster than that experienced at the end of the last ice age. This is largely due to human activities; primarily the burning of fossil fuels, but also due to deforestation as a result of logging for timber and clearing for agriculture and development.

Human sources of carbon dioxide

Human sources of carbon dioxide include:

Burning Fossil Fuels: burning coal to generate electricity, burning oil to power vehicles and aircraft (vehicle emissions), or burning wood in fires used for cooking or to provide heat, etc. changes the state of stored organic carbon from a liquid (e.g. oil) or solid (e.g. coal/wood) into a gas (carbon dioxide) which is released into the atmosphere.
Deforestation: vegetation absorbs carbon dioxide from the atmosphere during the process of photosynthesis, converting this to carbon which is stored within all plants (i.e it is a carbon sink). When vegetation is burned, this organic carbon is released into the atmosphere in the form of carbon dioxide, and in so doing becomes a carbon source rather than a carbon sink.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บรรยากาศคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้นมีขึ้นมากกว่า 40% เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ครั้งแรกเริ่มบันทึกระดับเหล่านี้ จาก 280 ส่วนต่อล้าน (ppm) ในปี 1958 กว่า 400ppm วันนี้ตาม NOAA2, 800,000 ปีที่ผ่านมา บรรยากาศคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้นมีความผันผวนระหว่าง 180 ppm ในช่วงยุคน้ำแข็งถึง 280 ppm ช่วง interglacial อบอุ่นเพิ่มยอดนิยมของ CO2คลิกที่นี่สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมบนคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นบรรยากาศคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้นไม่สูงกว่าที่พวกเขาได้รับมากกว่า 800,000 ปี การเพิ่มขึ้นของปัจจุบันที่เราเห็นวันนี้คือมากกว่า 100 ครั้งเร็วกว่าที่พบที่สุดของยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย ส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ หลักการเผาไหม้ ของเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่เนื่อง จากการตัดไม้ทำลายป่าเป็นผลมาจากการเข้าสู่ระบบสำหรับไม้ และล้างเพื่อการเกษตรและการพัฒนามนุษย์แหล่งของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มนุษย์แหล่งของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมถึง:เผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล: ไหม้ถ่านหินไฟฟ้า น้ำมันเผาไหม้พลังงานยานพาหนะและเครื่องบิน (รถปล่อย), หรือการเผาไม้ในไฟที่ใช้ สำหรับทำอาหาร หรือ การให้ความร้อน ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงสถานะของคาร์บอนอินทรีย์ที่เก็บจากของแข็งหรือของเหลว (เช่นน้ำมัน) (เช่นถ่านหิน/ไม้) เป็นก๊าซ (คาร์บอนไดออกไซด์) ซึ่งถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศตัดไม้ทำลายป่า: พืชดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แสง การแปลงนี้เป็นคาร์บอนซึ่งถูกเก็บไว้ภายในโรงงานทั้งหมด (ตย.เป็นอ่างล้างคาร์บอน) เมื่อเขียนพืช อินทรีย์คาร์บอนนี้ถูกปล่อยสู่บรรยากาศในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วในนั้นทำกลาย เป็นแหล่งคาร์บอนมากกว่าอ่างล้างคาร์บอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้เกิดขึ้นโดยกว่า 40% ตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์คนแรกที่เริ่มบันทึกระดับเหล่านี้จาก 280 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) ในปี 1958 ถึงกว่า 400ppm วันนี้.

ตามที่ NOAA2 ที่ผ่านมา 800,000 ปีที่ผ่านมาความเข้มข้นของก๊าซในชั้นบรรยากาศคาร์บอนมีความผันผวน ระหว่าง 180 ppm ในช่วงยุคน้ำแข็ง 280 ppm ในช่วงระยะเวลา interglacial อบอุ่น.

เพิ่มขึ้นได้รับความนิยมของ CO2
คลิกที่นี่สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น
ความเข้มข้นของก๊าซในบรรยากาศคาร์บอนไม่เพียง แต่สูงกว่าที่พวกเขาได้รับในกว่า 800,000 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นในปัจจุบันว่าเราเป็น เห็นในวันนี้คือมากกว่า 100 ครั้งเร็วกว่าที่มีประสบการณ์ในตอนท้ายของยุคน้ำแข็งที่ผ่านมา นี้เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์; ส่วนใหญ่การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ยังเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าเป็นผลมาจากการบันทึกสำหรับไม้และสำนักหักบัญชีสำหรับการเกษตรและการพัฒนา.

แหล่งที่มาของมนุษย์ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

มนุษย์แหล่งที่มาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมถึง

เผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล: การเผาไหม้ถ่านหินเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าน้ำมันเผาไหม้ เพื่อพลังงานยานพาหนะและอากาศยาน (ปล่อยมลพิษของรถยนต์) หรือการเผาไหม้ไม้ในไฟที่ใช้สำหรับการปรุงอาหารหรือให้ความร้อน ฯลฯ เปลี่ยนสถานะของสารอินทรีย์คาร์บอนที่เก็บไว้จากของเหลว (เช่นน้ำมัน) หรือของแข็ง (เช่นถ่านหิน / ไม้) ลงไปในก๊าซ (คาร์บอนไดออกไซด์) ซึ่งจะถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ.
ตัดไม้ทำลายป่า: พืชดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศในระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แปลงนี้เพื่อคาร์บอนที่ถูกเก็บไว้ภายในโรงงานทั้งหมด (คือมันเป็นคาร์บอน) เมื่อพืชถูกเผานี้อินทรีย์คาร์บอนจะถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศในรูปแบบของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และในการทำเช่นนั้นจะกลายเป็นแหล่งคาร์บอนมากกว่าอ่างคาร์บอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศเพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อนักวิทยาศาสตร์เริ่มอัดเสียงระดับเหล่านี้จาก 280 ส่วนต่อล้านส่วน ( ppm ) ในปี 1958 เพื่อวันนี้กว่า 400ppm .ตาม noaa2 ที่ผ่านมา 800000 ปีบรรยากาศความเข้มข้นคาร์บอนไดออกไซด์ได้ผันแปรระหว่าง 180 ppm ในยุคน้ำแข็ง 280 ppm ในช่วงอบอุ่น interglacial ครั้งแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของคาร์บอนไดออกไซด์คลิกที่นี่สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มคาร์บอนไดความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศจะไม่เพียง แต่สูงกว่าที่พวกเขาได้รับในกว่า 800000 ปี ปัจจุบันเพิ่มที่เราเห็นวันนี้มีมากกว่า 100 ครั้งเร็วกว่าที่เจอตอนสิ้นสุดยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย นี้เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ยังเนื่องจากการทำลายป่า ผลของไม้สำหรับไม้และล้างเพื่อการเกษตรและการพัฒนาแหล่งมนุษย์ของคาร์บอนไดออกไซด์แหล่งมนุษย์ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมถึง :การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล : การเผาไหม้ถ่านหินเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า การเผาน้ำมันเพื่อยานพาหนะไฟฟ้าและเครื่องบิน ( ปล่อยรถ ) , หรือไม้การเผาไหม้ในไฟ ใช้ปรุงอาหารหรือให้ความร้อน ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงสภาพการเก็บรักษาของอินทรีย์คาร์บอนจากของเหลว ( เช่นน้ำมัน ) หรือของแข็ง ( เช่นถ่านหินไม้ ) เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ) ซึ่งถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศการทำลายป่า : พืชดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศในระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แสง แปลงนี้คาร์บอนซึ่งถูกเก็บไว้ภายในโรงงานทั้งหมด ( คือมันเป็นกักคาร์บอน ) เมื่อพืชเป็นเผา คาร์บอนอินทรีย์นี้ถูกปล่อยสู่บรรยากาศในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้กลายเป็นแหล่งคาร์บอนมากกว่าคาร์บอนซิงค์