Frederickson (2008) draws on eviden

Frederickson (2008) draws on evidence from a study conducted
by White, Milne and Rosen et al. (2006), which
found that 20% of individuals with dyslexia did not have a
phonological deficit. This may explain why phonics is ineffective
for this group of dyslexic individuals. Furthermore,
Nicolson and Fawcett (2004) highlight the difficulties experienced
by some individuals with dyslexia in using a
phonics strategy. Frederickson (2008) advises that other
possible causes of dyslexia must be considered if psychologists
are to be effective when intervening with children who
do not demonstrate phonological difficulties.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Frederickson (2008) วาดบนหลักฐานจากการศึกษาที่ดำเนินการสีขาว Milne และโร et al. (2006), ซึ่งพบว่า 20% ของบุคคลที่มี dyslexia ไม่มีการดุลคำโครงสร้างประโยค นี้อาจอธิบายเหตุผลซึ่งเป็นผลสำหรับกลุ่มนี้ dyslexic บุคคล นอกจากนี้Nicolson และ Fawcett (2004) เน้นประสบการณ์ความยากลำบากโดยบางคนมี dyslexia ใช้เป็นซึ่งกลยุทธ์การ แนะ Frederickson (2008) ที่อื่นต้องพิจารณาสาเหตุของ dyslexia ถ้านักจิตวิทยาจะมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ระหว่างกลางกับเด็กที่แสดงให้เห็นความยากลำบากคำโครงสร้างประโยค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Frederickson (2008)
ดึงหลักฐานจากการศึกษาดำเนินการโดยสีขาว, มิลน์และโรเซ็น et al, (2006)
ซึ่งพบว่า20%
ของบุคคลที่มีดิสไม่ได้มีการขาดดุลเสียง นี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมการออกเสียงไม่ได้ผลสำหรับกลุ่มบุคคล dyslexic นี้
นอกจากนี้
Nicolson และ Fawcett (2004) เน้นความยากลำบากมีประสบการณ์โดยบุคคลบางคนที่มีดิสในการใช้กลยุทธ์การออกเสียง Frederickson (2008) แนะนำว่าอื่น ๆสาเหตุที่เป็นไปได้ของดิสต้องพิจารณาถ้านักจิตวิทยาจะมีผลเมื่อแทรกแซงกับเด็กที่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากเสียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เฟรเดอริกสัน ( 2008 ) ดึงหลักฐานจากการศึกษา
โดยสีขาวและมิลโรเซน et al . ( 2006 ) ซึ่ง
พบว่า 20% ของบุคคลที่มีดิสไม่มี
ขาดระบบเสียง . นี้อาจอธิบายว่าทำไมออกเสียงเป็นไม่ได้ผล
สำหรับคนกลุ่มนี้ความจำไม่ค่อยดีอะ นอกจากนี้
นิโคลสันฟอว์เซตต์ ( 2004 ) และเน้นปัญหาที่ประสบโดยบุคคลบางคนที่มีดิส

ในใช้กลยุทธ์ออกเสียง . เฟรเดอริกสัน ( 2008 ) แนะอีก
สาเหตุที่เป็นไปได้ของประเทศอิตาลีต้องพิจารณาถ้านักจิตวิทยา
จะมีผลบังคับใช้เมื่อเข้าไปแทรกแซงกับเด็ก
ไม่แสดงปัญหาระบบเสียง .