A total of 36 rice breeding lines i

A total of 36 rice breeding lines including checks were evaluated for resistance to blast at
Rampur during 2000-2001. The experiments were conducted under both field condition and
greenhouse inoculated condition. Qualitative resistance in rice to blast was assessed based on
lesion type, whereas quantitative resistance was assessed based on area under disease progress
curve (AUDPC) in the upland field condition. The number of sporulating lesions and the number
of leaves with at least one sporulating lesion per plant were considered as measures for
evaluation of quantitative resistance in the greenhouse assay. The lesion type, neck blast
percentage and AUDPC data suggest that most of the rice lines possess higher level of resistance
to leaf and neck blast. The rice lines varied for the number of sporulating lesions and the number
of leaves with sporulating lesion per plant. Some lines were incompatible to virulent blast
isolates, showing major resistance genes. NR 1558, NR 601-1-1-9, BW306-2 and CN 836-3-10
were promising lines for quantitative resistance to both leaf and neck blast. Radha 12, Sabitri,
Janaki possess higher level of quantitative resistance to blast, hence these could be promoted for
cultivation in blast-prone environments. These genotypes could also be utilized as donor parents
for breeding durable blast resistant varieties. The most virulent blast isolate could be used for
evaluation of both qualitative and quantitative resistance to blast in early generation in the
greenhouse so that workload could be cut down in future works.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำนวน 36 สายพันธุ์ข้าวรวมทั้งการตรวจสอบได้รับการประเมินสำหรับความต้านทานที่จะระเบิดที่
Rampur ระหว่าง 2,000-2,001 การทดลองที่ได้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่ทั้งภาคสนามและ
เรือนกระจกเชื้อสภาพ ต้านทานคุณภาพในข้าวที่จะระเบิดได้รับการประเมินตามประเภท
แผลในขณะที่ปริมาณความต้านทานการประเมินขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่อยู่ภายใต้ความคืบหน้าโรค
เส้นโค้ง (audpc) อยู่ในสภาพที่สนามดอน จำนวนของแผลและสร้างสปอร์จำนวน
ของใบที่มีแผลสร้างสปอร์อย่างน้อยหนึ่งต่อพืชถูกถือเป็นมาตรการในการประเมินผลการ
ความต้านทานเชิงปริมาณในการวิเคราะห์เรือนกระจก ประเภทแผลคอระเบิด
ร้อยละและข้อมูล audpc แนะนำว่าส่วนใหญ่ของสายพันธุ์ข้าวที่มีระดับที่สูงขึ้นของความต้านทาน
ใบและลำคอระเบิดสายพันธุ์ข้าวที่แตกต่างกันสำหรับจำนวนแผลสร้างสปอร์และจำนวน
ของใบสร้างสปอร์ที่มีแผลต่อพืช เส้นบางคนที่เข้ากันไม่ระเบิดรุนแรง
ไอโซเลตแสดงยีนต้านทานที่สำคัญ 1558 ถิ่นถิ่น 601-1-1-9, bw306-2 และ CN 836-3-10
ถูกสัญญาว่าสายสำหรับความต้านทานเชิงปริมาณทั้งใบและลำคอระเบิด Radha 12 sabitri
Janaki มีระดับที่สูงขึ้นของความต้านทานเชิงปริมาณเพื่อการระเบิดจึงเหล่านี้อาจได้รับการส่งเสริมการเพาะปลูก
ในสภาพแวดล้อมที่ระเบิดได้ง่าย ยีนเหล่านี้อาจจะนำมาใช้เป็นพ่อแม่ของผู้บริจาคเพื่อการปรับปรุงพันธุ์
ระเบิดคงทนพันธุ์ต้านทาน แยกการระเบิดรุนแรงมากที่สุดที่สามารถใช้สำหรับการประเมินผลการ
ต้านทานทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณที่จะระเบิดในการผลิตในช่วงต้น
เรือนกระจกเพื่อให้ภาระงานที่สามารถลดลงในการทำงานในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลรวมของบรรทัดพันธุ์ข้าว 36 รวมถึงตรวจสอบได้ประเมินความต้านทานการระเบิดที่
Rampur ระหว่าง 2000-2001 การทดลองได้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขทั้งสองฟิลด์ และ
เรือนกระจก inoculated เงื่อนไขการ มีประเมินความต้านทานเชิงคุณภาพข้าวจะระเบิดตาม
แผลชนิด ในขณะที่มีประเมินความต้านทานเชิงปริมาณตามพื้นที่ความคืบหน้าโรค
โค้ง (AUDPC) ในสภาพทุ่ง จำนวนได้ที่ sporulating และหมายเลข
ใบไม้กับแผลน้อย sporulating ต่อพืชถือว่าเป็นมาตรการ
ประเมินความต้านทานเชิงปริมาณในวิเคราะห์เรือนกระจก ชนิดของรอยโรค คอระเบิด
เปอร์เซ็นต์และ AUDPC ข้อมูลแนะนำว่า ส่วนใหญ่ของใบข้าวมีความต้านทานในระดับสูงขึ้น
จะระเบิดใบและลำคอ ใบข้าวแตกต่างกันสำหรับหมายเลข sporulating ได้และหมายเลข
ใบไม้กับแผล sporulating ต่อพืช บางรายการก็เข้ากันไม่ได้จะระเบิด virulent
isolates แสดงยีนต้านทานหลัก NR 1558, NR 601-1-1-9, BW306-2 และ CN 836-3-10
มีบรรทัดสัญญาสำหรับความต้านทานเชิงปริมาณจะระเบิดทั้งใบและลำคอ ราดาห์ 12, Sabitri,
จานากิมีความต้านทานเชิงปริมาณการระเบิดในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้น เหล่านี้อาจถูกเลื่อนขั้นสำหรับ
ปลูกในสภาพแวดล้อมเสี่ยงระเบิด ยังสามารถใช้ศึกษาจีโนไทป์เหล่านี้เป็นผู้ปกครองบริจาค
สำหรับพันธุ์พันธุ์ทนทานทนระเบิดได้ สามารถใช้ isolate ระเบิดสุด virulent
การประเมินเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพทนต่อระเบิดในรุ่นแรก ๆ ในการ
เรือนกระจกเพื่อให้ปริมาณงานที่สามารถถูกตัดในอนาคตการทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยอดรวมของสายพันธุ์ข้าว 36 รวมถึงตรวจสอบเป็นการประเมินเพื่อความทนทานต่อการระเบิดที่
rampur ในระหว่าง 2000-2001 การทดลองที่ได้ทำตาม สภาพ inoculated ทั้ง สภาพ สนามและ
โรงเรือน การต่อต้านในเชิง คุณภาพ ข้าวเพื่อการระเบิดเป็นการประเมินผลการปฏิบัติขึ้นอยู่กับ ประเภท
แผลฟกช้ำในขณะที่การต่อต้านในเชิงปริมาณซึ่งใช้เป็นการประเมินผลการปฏิบัติในพื้นที่ตามความคืบหน้าโรค
ปรับตามความโค้งมนของรูปหน้า( audpc )อยู่ใน สภาพ สนามที่ดอน. จำนวนของ lesions sporulating และจำนวน
ของใบที่มีอย่างน้อยหนึ่งแผลฟกช้ำ sporulating ต่อโรงงานมีการพิจารณาให้เป็นมาตรการสำหรับ
ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านการประเมินผลเชิงปริมาณในโรงเรือนที่สอบ ข้อมูล audpc และคอระเบิด
เปอร์เซ็นต์ ประเภท แผลฟกช้ำที่แนะนำว่าข้าวที่ส่วนใหญ่มีระดับสูงกว่าของการต่อต้าน
ซึ่งจะช่วยในการใบและคอระเบิดสายข้าวที่หลากหลายสำหรับหมายเลขของ lesions sporulating และจำนวน
ของใบมีแผลฟกช้ำ sporulating ต่อโรงงาน สายบางคนไม่สามารถใช้ร่วมกันได้กับระเบิดร้ายกาจ
แยกยีนแสดงการต่อต้านที่สำคัญ หมายเลข 1558 NR 601-1-1-9 BW 306-2 และ CN 836-3-10
มีสายดาวรุ่งอนาคตไกลสำหรับการต่อต้านเชิงปริมาณในการระเบิดและคอทั้งสองใบ Radha Madhav Dutta Garden 12 sabitri
janaki มีระดับสูงขึ้นในการต่อต้านเชิงปริมาณในการระเบิดดังนั้นจึงจะมีการส่งเสริมให้ปลูกสำหรับ
ใน สภาพแวดล้อม การใช้งานลมเป่า - คว่ำ genotypes เหล่านี้สามารถใช้งานเหมือนกับที่พ่อแม่ผู้บริจาค
ซึ่งจะช่วยในการผสมพันธุ์ความหลากหลายการระเบิดและทนทานต่อแรงกระแทกได้ ระเบิดความมันส์มากที่สุดร้ายกาจที่แยกสามารถใช้สำหรับการประเมินผล
ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านทั้งในเชิง คุณภาพ และเชิงปริมาณในการระเบิดเกิดขึ้นในยุคที่ในช่วงเช้าตรู่
เรือนกระจกสำหรับปลูกต้นไม้เพื่อให้ปริมาณงานไม่สามารถถูกตัดลงในการทำงานในอนาคต.