IPHENOMENISTIC THEORY one impressiv

IPHENOMENISTIC THEORY
one impressive amount of research into convincing theory 4ighiights role of mediating variables in the mass communication process 3. Persuasively refutes lingering mass society and propaganda notions
Weakneuft
1. Overetattoe kilkiecx* (41 #001;wof *wit. 2. Is too acrApting 0-444 3, DownpforA -44 407 ittIV"Tf cfrofekc effect 4. Is too spec& 49 liks toot tor*-1‘10,r_.o.4 411-it nutria environment ko
everyone made rational informed deasions using infonnation from media. For example, there would be tragic- consequenc if many people based their vote decisions on bad or biased mf- ormation from media_ Nor could our political system handle the high levels of politica- 1 activism that would occur if everyone took a strong interest in politics. These arguments reject Libertarian theory (Chapter 5). If voters don't need to be informed, or if informing them might actually lead to political disorder, then there is no need for media to deliver information. Research findings demonstrated that uncensored and independent media typically failed to diffuse political information to most people. If so, what political role should media be expected to play? To reinforce the status quo except in times of crisis? Was there really a need for media to serve as a public forum as Libertarian theory had assumed? Or as Dewey had advocated, to systematically educate the people so they could be critical thinkers as well as informed voters? If so, how should this forum operate and what resources would be necessary to make it work effectively? Limited-effects research findings were quite pessimistic concerning the effective-ness of such a forum. They implied that such a public forum would serve little purpose except for the handful of people who were already well informed about and engaged in politics. These conclusions directed researchers away from the study of mass media and the formation of media policy and toward political parties, political socialization, and the institutions of government such as legislatures, political executives such as the president, and the legal system. These topics soon dominated the research agenda in political science. The political perspective implicit in these arguments became known as elite pluralism. During the 1960s, elite pluralism strongly challenged traditional forms of democratic theory and was widely debated in politi-cal science. Elite pluralism claimed to be scientific because, unlike classi-cal democratic theory, it was based on empirical data. V. O. Key provided one of its best formulations in Public Opinion and American Democracy (1961). Like Lazarsfeld, Key was optimistic in the face of

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎี IPHENOMENISTIC ยอดประทับใจหนึ่งในเชื่อทฤษฎี 4ighiights บทบาทของตัวแปรในกระบวนการสื่อสารมวลชน 3 การเป็นสื่อกลาง เกลี้ยกล่อม refutes ท่าความเข้าใจสังคมและการโฆษณาชวนเชื่อจำนวนมาก Weakneuft 1. Overetattoe kilkiecx * (41 #001; wof * ปัญญา 2. เป็นเกินไป acrApting 3 0-444, DownpforA-44 407 ittIV "Tf cfrofekc ผล 4 มีเกินสเปคและ 49 liks toot ทอร์ * -1'10, r_.o.4 nutria 411-มันแวดล้อมเกาะ ทุกคนทำ deasions ทราบเหตุผลที่ใช้ infonnation จากสื่อ เช่น จะมีเศร้า consequenc ถ้าคนใช้พวกเขาตัดสินใจออกเสียงไม่ถูกต้อง หรือ biased mf-ormation จาก media_ หรือสามารถจัดการระบบทางการเมืองระดับสูงของ politica 1 กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นถ้าทุกคนเอาความสนใจการเมืองแข็งแกร่ง อาร์กิวเมนต์เหล่านี้ปฏิเสธทฤษฎี Libertarian (5 บท) ถ้าผู้ลงคะแนนไม่จำเป็นต้องทราบ หรือ ถ้าโดยอาจนำไปสู่ความผิดปกติทางการเมืองจริง มีเป็นไม่ต้องใช้สื่อส่งข้อมูล วิจัยแสดงให้เห็นว่า สื่อแอบ และอิสระโดยทั่วไปไม่สามารถกระจายข้อมูลทางการเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่ ถ้าดังนั้น บทบาททางการเมืองอะไรควรสื่อ ต้องเล่น เพื่อเสริมสร้างสภาพยกเว้นในช่วงวิกฤต มีจริง ๆ ต้องการสื่อเพื่อเป็นเวทีสาธารณะ ตามทฤษฎี Libertarian ได้สันนิษฐานหรือเปล่า หรือ เป็น Dewey ได้ สนับสนุน ให้ความรู้แก่คนอย่างเป็นระบบเพื่อให้พวกเขาอาจเป็นนักคิดที่สำคัญเป็นสมใน ถ้าเป็นเช่นนั้น อย่างไรควรฟอรั่มนี้ทำงาน และทรัพยากรใดบ้างที่จะจำเป็นเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำกัดผลวิจัยในเชิงลบค่อนข้างเกี่ยวกับสบาย ๆ ผลของเวทีดังกล่าวได้ พวกเขานัยว่า เวทีสาธารณะจะประสงค์น้อยยกเว้นกำมือของคนที่ได้ทราบดีเกี่ยวกับ และมีส่วนร่วมทางการเมือง ข้อสรุปนี้นำนักวิจัยจากการศึกษาของสื่อมวลชนและการก่อตัว ของนโยบายสื่อ และ ต่อพรรคการเมือง การขัดเกลาทางสังคมทางการเมือง และสถาบันของรัฐบาลเช่น legislatures ผู้บริหารทางการเมืองเช่นประธานาธิบดี และระบบกฎหมาย หัวข้อเหล่านี้เร็ว ๆ นี้ครอบงำวาระวิจัยในรัฐศาสตร์ มุมมองทางการเมืองที่มีนัยในอาร์กิวเมนต์เหล่านี้กลายเป็นยอด pluralism ในช่วงทศวรรษ 1960, pluralism ยอดขอท้าทายรูปแบบดั้งเดิมของทฤษฎีประชาธิปไตย และถูกถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในวิทยาศาสตร์ politi-cal ยอด pluralism ที่อ้างว่า เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะ ซึ่งแตกต่างจากทฤษฎีประชาธิปไตย classi cal เป็นพื้นฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ V. คีย์โอให้เป็นสูตรที่ดีที่สุดในความเห็นของประชาชนและประชาธิปไตยอเมริกัน (1961) อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น Lazarsfeld คีย์ถูกในเชิงบวกใน face ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

IPHENOMENISTIC ทฤษฎี
จำนวนหนึ่งที่น่าประทับใจของการวิจัยในบทบาททฤษฎีเชื่อ 4ighiights ของไกล่เกลี่ยตัวแปรในกระบวนการสื่อสารมวล 3. เชิญชวนอาร์คิเมเอ้อระเหยสังคมมวลและการโฆษณาชวนเชื่อพัฒนาการ
Weakneuft
1 Overetattoe kilkiecx * (41 # 001;. wof * ปัญญา 2. เกินไป acrApting 0-444 3 DownpforA -44 407 ittIV "Tf cfrofekc ผล 4. ข้อมูลจำเพาะเกินไปและ 49 liks Tor ตุ๊ด * -1'10, r_.o 4 411 มันสภาพแวดล้อม nutria Ko
ทุกคนทำ deasions แจ้งเหตุผลใช้ infonnation จากสื่อ. ตัวอย่างเช่นจะมี tragic- consequenc ถ้าหลาย ๆ คนตามการตัดสินใจของพวกเขาในการออกเสียงลงคะแนนไม่ดีหรือลำเอียง ormation mf- จาก media_ หรือระบบการเมืองของเราสามารถจัดการสูง ระดับของ politica- 1 การเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นถ้าทุกคนเข้ามามีความสนใจที่แข็งแกร่งในทางการเมือง. ขัดแย้งเหล่านี้ปฏิเสธทฤษฎีเสรีนิยม (บทที่ 5). หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องได้รับการแจ้งหรือถ้าแจ้งให้จริงอาจนำไปสู่ความผิดปกติทางการเมืองแล้ว ไม่มีความจำเป็นสำหรับสื่อที่จะส่งมอบข้อมูล. ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าสื่อวาบและเป็นอิสระมักจะล้มเหลวในการกระจายข่าวสารทางการเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่. ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งที่มีบทบาททางการเมืองควรสื่อคาดว่าจะเล่นหรือไม่? เพื่อเสริมสร้างสถานะเดิมยกเว้นในช่วงเวลาของ วิกฤตอย่างไรจริงๆมีความจำเป็นในการสื่อเพื่อทำหน้าที่เป็นเวทีสาธารณะทฤษฎีเสรีนิยมสันนิษฐานว่า? หรือเป็นดิวอี้ได้สนับสนุนเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างเป็นระบบเพื่อให้พวกเขาสามารถเป็นนักคิดที่สำคัญเช่นเดียวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งแจ้ง? ถ้าเป็นเช่นนั้นวิธีการที่ฟอรั่มนี้ควรดำเนินการและสิ่งที่ทรัพยากรที่จำเป็นจะต้องทำให้มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ? จำกัด ผลการวิจัยพบค่อนข้างมองโลกในแง่ที่เกี่ยวกับการที่มีประสิทธิภาพ-Ness เช่นฟอรั่ม ส่อให้เห็นว่าพวกเขาเช่นเวทีสาธารณะจะตอบสนองวัตถุประสงค์ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ยกเว้นกำมือของคนที่มีอยู่แล้วทราบดีเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในทางการเมือง ข้อสรุปเหล่านี้ผู้กำกับนักวิจัยออกไปจากการศึกษาของสื่อมวลชนและการก่อตัวของนโยบายสื่อและต่อพรรคการเมืองการขัดเกลาทางสังคมการเมืองและสถาบันการศึกษาของรัฐบาลเช่นสภานิติบัญญัติบริหารทางการเมืองดังกล่าวเป็นประธานและระบบกฎหมาย หัวข้อเหล่านี้เร็ว ๆ นี้ครอบงำวาระการวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์ทางการเมือง มุมมองทางการเมืองโดยปริยายในการขัดแย้งเหล่านี้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะฝ่ายชนชั้นนำ ในช่วงทศวรรษที่ 1960, ฝ่ายชนชั้นท้าทายอย่างยิ่งรูปแบบดั้งเดิมของทฤษฎีประชาธิปไตยและเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในด้านวิทยาศาสตร์ทางการเมือง-Cal ฝ่ายชนชั้นนำอ้างว่าเป็นวิทยาศาสตร์เพราะไม่เหมือนจัดประเภท-Cal ทฤษฎีประชาธิปไตยมันก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลเชิงประจักษ์ VO ที่สำคัญที่จัดไว้ให้อย่างใดอย่างหนึ่งของสูตรที่ดีที่สุดในความคิดเห็นของประชาชนและอเมริกาประชาธิปไตย (1961) เช่น Lazarsfeld, ที่สำคัญคือในแง่ดีในใบหน้าของ