This article presents an investigat

This article presents an investigation of the properties of natural fiber based composite building materials that is applicable for hot and humid climatic regions. These materials were made of cement mortar containing coconut coir fiber and oil palm fiber, both waste products from agricultural manufacturing in Thailand. They are intended to be used as roof sheet and siding to reduce heat transfer through buildings and energy conservation. The investigation focused mainly on the effects of both cellulose fibers on the physical, mechanical and thermal properties of products. Test results showed that increasing the percentage replacement of natural fibers tends to reduce the density, compressive strength and flexural strength of the materials. Fiber cement products mixed with coconut fiber yielded lower density than that of oil palm fiber. The mixtures of fiber cement products containing up to 15% of both natural fibers by weight of binder yielded the acceptable physical and mechanical properties. Furthermore, the thermal conductivity of the natural fiber cement sheets was 60% less than that of the control specimen. The results of this research can be used as a guideline for using agricultural residues to develop fiber cement products for residential building applications

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความนี้นำเสนอการตรวจสอบคุณสมบัติของวัสดุก่อสร้างที่ผสมเส้นใยธรรมชาติที่ใช้ที่ใช้ได้สำหรับภูมิภาค climatic ร้อน และความชื้น วัสดุเหล่านี้ถูกทำจากปูนซีเมนต์ที่ประกอบด้วยเส้นใยมะพร้าว coir และเส้นใยปาล์ม เสียทั้งจากการผลิตทางการเกษตรในประเทศไทย พวกเขามีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นหลังคาแผ่นและ siding เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนผ่านอาคารและอนุรักษ์พลังงาน การสอบสวนมุ่งเน้นส่วนใหญ่ในลักษณะของเส้นใยเซลลูโลสทั้งสมบัติทางกายภาพ เครื่องจักรกล และความร้อนของผลิตภัณฑ์ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า เพิ่มเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์ของเส้นใยธรรมชาติมีแนวโน้มที่จะ ลดความหนาแน่น แรง compressive และ flexural ความแข็งแรงของวัสดุ ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ผสมกับใยมะพร้าวหาความหนาแน่นน้อยกว่าของเส้นใยปาล์ม น้ำยาผสมของผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ใยประกอบด้วยถึง 15% ของทั้งเส้นใยธรรมชาติ โดยน้ำหนักของ binder หาคุณสมบัติทางกายภาพ และทางกลเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ การนำความร้อนของแผ่นซีเมนต์เส้นใยธรรมชาติถูก 60% น้อยกว่าที่ของการควบคุม ผลการวิจัยนี้สามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับการใช้ตกค้างทางการเกษตรพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์สำหรับอาคารที่อยู่อาศัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความนี้นำเสนอการตรวจสอบคุณสมบัติของเส้นใยธรรมชาติตามวัสดุก่อสร้างคอมโพสิตที่มีผลบังคับใช้สำหรับภูมิภาคภูมิอากาศร้อนและชื้น วัสดุเหล่านี้ทำจากปูนที่มีไฟเบอร์ใยมะพร้าวและน้ำมันปาล์มเส้นใยทั้งของเสียจากการผลิตทางการเกษตรในประเทศไทย พวกเขามีความตั้งใจที่จะใช้เป็นแผ่นหลังคาและผนังเพื่อลดการถ่ายเทความร้อนผ่านอาคารและการอนุรักษ์พลังงาน การสืบสวนมุ่งเน้นเกี่ยวกับผลกระทบของทั้งสองเส้นใยเซลลูโลสในทางกายภาพสมบัติเชิงกลและความร้อนของผลิตภัณฑ์ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มการเปลี่ยนอัตราร้อยละของเส้นใยธรรมชาติมีแนวโน้มที่จะลดความหนาแน่นแรงอัดและความแข็งแรงดัดของวัสดุ ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ผสมกับใยมะพร้าวผลความหนาแน่นต่ำกว่าที่ของเส้นใยปาล์มน้ำมัน ผสมของผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ที่มีถึง 15% ของเส้นใยธรรมชาติทั้งโดยน้ำหนักของวัสดุประสานผลคุณสมบัติทางกายภาพและทางกลที่ยอมรับ นอกจากนี้การนำความร้อนของแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ธรรมชาติ 60% น้อยกว่าตัวอย่างควบคุม ผลการวิจัยนี้สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการใช้สารตกค้างทางการเกษตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์สำหรับการใช้งานอาคารที่อยู่อาศัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความนี้นำเสนอการศึกษาสมบัติของเส้นใยธรรมชาติที่ใช้ประกอบอาคารวัสดุที่ใช้ได้สำหรับภูมิภาคร้อนชื้นภูมิอากาศ . วัสดุเหล่านี้ถูกทำของมอร์ต้าร์ซีเมนต์ผสมเส้นใยมะพร้าวและเส้นใยมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ทั้งของเสียจากการผลิตทางการเกษตรในประเทศไทยพวกเขามีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้เป็นแผ่นหลังคาและผนังเพื่อลดการถ่ายเทความร้อนผ่านอาคารและการอนุรักษ์พลังงาน การสอบสวน เพื่อเน้นผลของเส้นใยเซลลูโลสต่อสมบัติทางกายภาพ ทางกลและสมบัติทางความร้อนของผลิตภัณฑ์ ผลการทดสอบ พบว่าเพิ่มขึ้นร้อยละการเปลี่ยนของเส้นใยธรรมชาติมีแนวโน้มที่จะลดความหนาแน่นกำลังรับแรงอัดและแรงดัดของวัสดุ ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ ผสมกับเส้นใยมะพร้าวที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าของเส้นใยปาล์มน้ํามัน ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ที่มีถึง 15 % ของทั้งเส้นใยธรรมชาติโดยน้ำหนักของวัสดุประสานและยอมรับสมบัติทางกายภาพและเชิงกล . นอกจากนี้การนำความร้อนของเส้นใยซีเมนต์แผ่น 60% น้อยกว่าของตัวควบคุม ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์สำหรับงานอาคาร