Apple currently air freights most o

Apple currently air freights most of their products between Asia and the US [2]. Approximately 70%-90% of a finished product's bulk and weight is in packaging, plastic and the bare boards. Importing IC components by airfreight is much less expensive than importing finished and packaged product by airfreight [2]. Moreover, while it is desirable to have suppliers geographically close, it is not necessary. Toyota, for example, imported many components from Japan when they first started assembly in the USA.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แอปเปิ้ลอยู่ในขณะนี้อากาศ freights ที่สุดของผลิตภัณฑ์ของพวกเขาระหว่างเอเชียและสหรัฐอเมริกา [2] ประมาณ 70% - 90% จำนวนมากและน้ำหนักของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ พลาสติก และแผงเปลือย นำเข้าส่วนประกอบ IC โดยการขนส่งทางอากาศมีราคาแพงมากน้อยกว่าการนำเข้าเสร็จแล้ว และบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ โดยการขนส่งทางอากาศ [2] นอกจากนี้ ในขณะที่น่าจะมีซัพพลายเออร์ที่ปิดทางภูมิศาสตร์ ไม่จำเป็น โตโยต้า นำเข้าส่วนประกอบมากมายจากญี่ปุ่นเช่น แรกเริ่มประกอบในสหรัฐอเมริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แอปเปิ้ลในขณะนี้ค่าระวางอากาศส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์ของพวกเขาระหว่างเอเชียและสหรัฐอเมริกา [2] ประมาณ 70% -90% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและน้ำหนักอยู่ในบรรจุภัณฑ์พลาสติกและแผงเปลือย การนำเข้าชิ้นส่วน IC โดยการขนส่งทางอากาศมีมากน้อยราคาแพงกว่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและบรรจุโดยการขนส่งทางอากาศ [2] นอกจากนี้ในขณะที่มันเป็นที่พึงปรารถนาที่จะมีซัพพลายเออร์ทางภูมิศาสตร์ใกล้ชิดก็ไม่จำเป็น โตโยต้าเช่นนำเข้าชิ้นส่วนจากประเทศญี่ปุ่นจำนวนมากเมื่อพวกเขาเริ่มการชุมนุมในประเทศสหรัฐอเมริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แอปเปิ้ลในปัจจุบันอากาศบรรทุกสินค้าได้มากที่สุดของผลิตภัณฑ์ของพวกเขาระหว่างเอเชียและสหรัฐอเมริกา [ 2 ] ประมาณ 70% - 90% ของผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและน้ำหนักในบรรจุภัณฑ์ พลาสติก และแผ่นเปล่า การนำเข้าชิ้นส่วน IC โดยการขนส่งทางอากาศมีมากน้อยราคาแพงกว่าการนำเข้าเสร็จสิ้นและบรรจุภัณฑ์ โดยการขนส่งทางอากาศ [ 2 ] นอกจากนี้ในขณะที่มันเป็นที่พึงปรารถนาที่จะมีซัพพลายเออร์ทางภูมิศาสตร์ใกล้ชิด , ไม่จําเป็น โตโยต้า , ตัวอย่างเช่น , นำเข้าชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นหลายเมื่อพวกเขาก่อนเริ่มประกอบในสหรัฐอเมริกา