The occurrence of three curd defect

The occurrence of three curd defects was evaluated: fuzziness, riciness, and browning. We found that exposing plants at the transplant stage to low temperature did not significantly influence the incidence of these physiological disorders, but some interesting observations were made. It is known that curd defects are related to temperature fluctuations outside of the optimum range for a particular stage of development of cauliflower plants. Riciness may occur when temperature during curd induction is low, especially after a preceding period of high temperature (Grevsen et al., 2003; Dixon, 2007). Present data showed that the LT treatment of the transplants slightly increased the occurrence of riciness, especially in the case of the lower range of applied temperatures. Fuzzy curds bearing developed bracteoles are formed when growing temperature is much higher than the optimum during curd development (Fujime and Okuda, 1996; Dixon, 2007). We observed a slight reduction in the number of curds with fuzziness for plants previously exposed to low temperatures, specifically to 14 and 10 ◦C. Acclimation of the transplants, caused by treatment such as LT, seemed to help improve tolerance to high temperature conditions of June and July (time of harvest). The third defect (i.e., brown discoloration of the curds) is due to boron deficiency, caused by abiotic stresses (i.e., drought, low temperature, etc.) that occur during further plant developmental stages (Ahmad et al., 2012). Boron plays a role in regulating plant tolerance to low temperature (Huang et al., 2005). Thus, we suspected that LT treatments of the transplants may play a role in the occurrence of this physiological disorder. We also observed that low temperature pretreatment of cauliflower (6 and 10 ◦C but not 14 ◦C), applied at a very early stage of development, slightly decreased the number of curds with browning. This could be due to an improvement in plant tolerance to environmental conditions in the field. Thus, this study showed that LT treatments, applied to plants before transplanting, may affect the incidence of curd defects to some extent. However, further studies are needed to confirm our findings and understand more completely the effects of LT treatments of the transplants on appearance of the disorders in mature curds of cauliflower.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีประเมินการเกิดข้อบกพร่องซีอิ้ว 3: fuzziness, riciness และ browning เราพบว่า เปิดเผยพืชที่ปลูกใน ระยะที่อุณหภูมิต่ำได้อย่างมีนัยสำคัญมีผลต่ออุบัติการณ์ของโรคนี้สรีรวิทยา แต่ทำบางข้อสังเกตที่น่าสนใจ มันเรียกว่าซีอิ้วที่บกพร่องเกี่ยวข้องกับความผันผวนของอุณหภูมิภายนอกช่วงเหมาะสมสำหรับขั้นตอนการพัฒนาพืชกะหล่ำ Riciness อาจเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิในระหว่างการเหนี่ยวนำซีอิ้วต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากช่วงอุณหภูมิสูง (Grevsen et al., 2003 ก่อนหน้านี้ นดิกซัน 2007) ข้อมูลปัจจุบันพบว่า การรักษา LT transplants ที่เพิ่มการเกิดขึ้นของ riciness โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของอุณหภูมิที่ใช้ช่วงล่างเล็กน้อย เอิบ curds เรือง bracteoles พัฒนาจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงกว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในระหว่างการพัฒนาซีอิ้ว (Fujime และ Okuda, 1996 นดิกซัน 2007) เราสังเกตจำนวน curds ลดเล็กน้อย ด้วย fuzziness สำหรับพืชที่เคย สัมผัสกับอุณหภูมิต่ำ โดยเฉพาะที่ 14 และ 10 ◦C Acclimation transplants เกิดจากการรักษาเช่น LT ดูเหมือนจะ ช่วยปรับปรุงค่าเผื่อสภาพอุณหภูมิสูงของเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม (เวลาของการเก็บเกี่ยว) เป็นความบกพร่องที่สาม (เช่น น้ำตาลกระการ curds) เนื่องจากขาดโบรอน สาเหตุ abiotic เครียด (เช่น ภัยแล้ง อุณหภูมิต่ำ ฯลฯ) ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเพิ่มเติมพืชพัฒนาขั้น (Ahmad et al., 2012) โบรอนมีบทบาทในการควบคุมการยอมรับพืชอุณหภูมิต่ำ (หวง et al., 2005) ดังนั้น เราสงสัยว่า รักษา LT transplants อาจมีบทบาทในการเกิดโรคนี้สรีรวิทยา เรายัง สังเกตว่า pretreatment อุณหภูมิต่ำของกะหล่ำดอก (◦C 6 และ 10 แต่ไม่ 14 ◦C), ใช้ในขั้นตอนของการพัฒนาเนิ่น ๆ เล็กน้อยลดลงจำนวน curds กับ browning อาจเป็น เพราะการปรับปรุงในโรงงานสภาพแวดล้อมในฟิลด์ค่าเผื่อ ดังนั้น การศึกษานี้พบว่า LT รักษา นำไปใช้กับพืชก่อน transplanting อาจมีผลต่ออุบัติการณ์ของซีอิ้วบกพร่องบ้าง อย่างไรก็ตาม เพิ่มเติมศึกษามีความจำเป็นเพื่อยืนยันผลการวิจัยของเรา และเข้าใจมากขึ้นสมบูรณ์ผลของ LT transplants การรักษาในลักษณะของความผิดปกติในผู้ใหญ่ curds ของกะหล่ำดอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเกิดขึ้นของทั้งสามข้อบกพร่องนมเปรี้ยวที่ไ​​ด้รับการประเมิน: เลือน, riciness และสีน้ำตาล เราพบว่าการเปิดเผยพืชในขั้นตอนการปลูกที่อุณหภูมิต่ำไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเกิดความผิดปกติท​​างสรีรวิทยาเหล่านี้ แต่บางคนสังเกตที่น่าสนใจที่ถูกสร้างขึ้น เป็นที่รู้จักกันว่าข้อบกพร่องเต้าหู้ที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของอุณหภูมิภายนอกในช่วงที่เหมาะสมสำหรับขั้นตอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งของการพัฒนาของพืชดอกกะหล่ำ Riciness อาจเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิในระหว่างการเหนี่ยวนำเต้าหู้อยู่ในระดับต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากช่วงก่อนหน้านี้ของอุณหภูมิสูง (Grevsen et al, 2003;. ดิกซัน 2007) นำเสนอข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการรักษา LT การปลูกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเกิด riciness โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของช่วงล่างของอุณหภูมิประยุกต์ เต้าหู้เลือนแบก bracteoles การพัฒนาที่จะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่เหมาะสมในระหว่างการพัฒนานมเปรี้ยว (Fujime และ Okuda 1996; ดิกสัน, 2007) เราสังเกตเห็นการลดลงเล็กน้อยในจำนวนของเต้าหู้กับเลือนสำหรับพืชเปิดเผยก่อนหน้านี้ที่มีอุณหภูมิต่ำโดยเฉพาะถึง 14 และ 10 ◦C เคยชินกับสภาพการปลูกที่เกิดจากการรักษาเช่น LT, ดูเหมือนจะช่วยปรับปรุงความทนทานต่อสภาพที่มีอุณหภูมิสูงของเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม (เวลาของการเก็บเกี่ยว) ข้อบกพร่องที่สาม (เช่นการเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลของเต้าหู้) เกิดจากการขาดธาตุโบรอนที่เกิดจากความเครียด abiotic (เช่นภัยแล้งอุณหภูมิต่ำ ฯลฯ ) ที่เกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาต่อพืช (Ahmad et al., 2012) โบรอนมีบทบาทในการควบคุมความอดทนพืชอุณหภูมิต่ำ (Huang et al., 2005) ดังนั้นเราจึงสงสัยว่าการรักษา LT การปลูกอาจมีบทบาทสำคัญในการเกิดความผิดปกติท​​างสรีรวิทยาของนี้ นอกจากนี้เรายังตั้งข้อสังเกตว่าการปรับสภาพอุณหภูมิต่ำกะหล่ำ (6 และ 10 ◦C แต่ไม่ 14 ◦C) นำมาใช้ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาลดลงเล็กน้อยจำนวนเต้าหู้ที่มีสีน้ำตาล ซึ่งอาจจะเกิดจากการปรับปรุงในโรงงานความอดทนต่อสภาพแวดล้อมในเขต ดังนั้นการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการรักษา LT, นำไปใช้กับพืชที่ปลูกก่อนที่อาจมีผลต่อการเกิดข้อบกพร่องนมเปรี้ยวที่มีขอบเขต อย่างไรก็ตามการศึกษาต่อที่มีความจำเป็นเพื่อยืนยันการค้นพบของเราและเข้าใจผลกระทบที่สมบูรณ์มากขึ้นของการรักษา LT การปลูกในลักษณะของความผิดปกติในเต้าหู้ผู้ใหญ่กะหล่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเกิดข้อบกพร่องสามเต้าหู้ประเมิน : fuzziness riciness , และบราวนิ่ง เราพบว่า การปลูกพืชที่ระยะอุณหภูมิต่ำไม่ได้มีอิทธิพลต่ออุบัติการณ์ของความผิดปกติทางสรีรวิทยาเหล่านี้ แต่สังเกตบางอย่างที่น่าสนใจเกิดขึ้นมันเป็นที่รู้จักกันว่า เต้าหู้เป็นข้อบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของอุณหภูมิภายนอกของช่วงที่เหมาะสมสำหรับขั้นตอนใดของการพัฒนาของกะหล่ำดอกพืช riciness อาจเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิระหว่างนำเต้าหู้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเวลาที่ผ่านมาของอุณหภูมิสูง ( grevsen et al . , 2003 ; Dixon , 2007 )ข้อมูลปัจจุบันพบว่ามันการรักษาของการเพิ่มขึ้นของการเกิด riciness โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของช่วงล่างใช้อุณหภูมิ นำเต้าหู้เรืองพัฒนา bracteoles จะเกิดขึ้นเมื่อเติบโต อุณหภูมิจะสูงกว่าที่เหมาะสมในระหว่างการพัฒนาเต้าหู้ ( fujime และโอคุดะ , 1996 ; Dixon , 2007 )เราพบการลดลงเล็กน้อยในหมายเลขของเต้าหู้กับ fuzziness พืชเคยสัมผัสกับอุณหภูมิต่ำ โดยเฉพาะ 14 และ 10 ◦ C ในการ acclimation , ที่เกิดจากการรักษา เช่น มัน ดู จะช่วยเพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูงของเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ( เวลาของการเก็บเกี่ยว ) ข้อบกพร่องที่สาม ( เช่นการเกิดสีน้ำตาลของเต้าหู้ ) เนื่องจากขาดธาตุโบรอน เกิดจากความเครียด เช่น การทดลอง , ภัยแล้ง , อุณหภูมิต่ำ , ฯลฯ ) ที่เกิดขึ้นระหว่างพืชตามขั้นตอนต่อไป ( Ahmad et al . , 2012 ) โบรอนมีบทบาทในการควบคุมพืชทนอุณหภูมิต่ำ ( Huang et al . , 2005 ) ดังนั้นเราสงสัยว่ามันการรักษาของการปลูกถ่ายอาจมีบทบาทในการเกิดโรคทางด้านนี้ เราพบภาวะที่อุณหภูมิต่ำของกะหล่ำดอก ( 6 และ 10 ◦ C แต่ไม่ใช่ 14 ◦ C ) ใช้ในขั้นตอนมากในช่วงต้นของการพัฒนา ลดลงเล็กน้อย จำนวนของเต้าหู้กับบราวนิ่งนี้อาจจะเนื่องจากมีการปรับปรุงในการยอมรับพืชเพื่อสภาพแวดล้อมในเขต ดังนั้นในการศึกษานี้ พบว่า มันรักษาที่ใช้กับพืชก่อนปลูก อาจมีผลต่อการเกิด curd บกพร่องไปบ้าง อย่างไรก็ตามการศึกษาเพิ่มเติมจะต้องยืนยันผลของเราและเข้าใจอย่างสมบูรณ์ ผลของมัน การรักษาของการปลูกถ่ายในลักษณะของความผิดปกติในผู้ใหญ่แหล่งของกะหล่ำ