ends directs or affects actions, on

ends directs or affects actions, one cannot avoid tracing back the effects produced by
action to the point beyond which no analysis of actions can proceed, i.e., to the value
judgments of the individuals and the ends they are aiming at . . . ” Mises (1962)
It is quite telling that the number of government tsars (or czars—U.S. nickname for
special executive branch officials with expanded powers—has increased under Obama
quite considerably: 32 czar positions created so far. (There were 12 such positions
under Roosevelt and only 1 under Reagan or Eisenhower.) The distinction between
macroeconomics and microeconomics reflects modern physics’ distinction between
microscopic physics, which deals with systems on an atomic particles scale, and molar
physics, which deals with systems on a scale appreciable by man’s gross senses. The
evolution that led from macroscopic to microscopic physics progressed from a less
satisfactory to a more satisfactory method of dealing with the phenomena of reality, as
it has been with all other sciences.
In economics the progress has been precisely the opposite. It asserts that microeconomics
is an unsatisfactory way of studying the problems involved and that the substitution
of macroeconomics for microeconomics (ever since Keynes) amounts to the
elimination of an unsatisfactory method by the adoption of a more satisfactory method.
Because the market operates on significantly more extensive information than any participant
can ever possess, a particular economic outcome must depend on vastly more
facts and variables than any scientific observer can ever insert into his models or hypotheses
explaining or predicting the outcomes. Microeconomics therefore accepts
that economists can never achieve a full explanation or an exact prediction of the particular
outcome of a given situation. Microeconomics must be content with only a
pattern prediction. We can only say what kinds of things will not happen and what
kinds of patterns the process will generate, without being able to predict a particular
outcome.
Macroeconomics, contrary to all other sciences of complexity, has replaced indispensable
economic information by statistical figures on aggregates and averages.
These are undoubtedly easier to forecast but also significantly less relevant to scientific
explanation or prediction.4 We cannot validate macroeconomic formulas by simply
filling them with empirical measurements and then using the “results” to explain human
action. Such measurements, if not performed by the very people whose actions
we want to explain, remain wholly uninteresting. All that is relevant in economics is
not how things are or appear to an observer, but how they appear to human beings, to
acting men.
Recall the famous physicist Lord Kelvin insisting: “When you cannot measure,
your knowledge is meager and unsatisfactory.” This may be true for physics—and its
dealing with fundamentally much simpler phenomena—when compared to economics.
Important is not whether one can measure, but if one knows what such measurements
mean and how to interpret them. Striving for pseudo-exactness by imitating methods

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ้นสุดการชักจูง หรือส่งผลกระทบต่อการดำเนินการ หนึ่งไม่กลับไปติดตามผลการผลิตโดยการดำเนินการไปซึ่งการดำเนินการวิเคราะห์ไม่สามารถดำเนินการ เช่น ค่าคำพิพากษาของบุคคลและสิ้นสุดที่พวกเขาจะมุ่งที่... "Mises (1962)มันจะค่อนข้างบอกที่หมายของรัฐบาล tsars (หรือ czars—U.S. ชื่อเล่นสำหรับเจ้าหน้าที่บริหารสาขาพิเศษ มีอำนาจขยายตัวได้เพิ่มขึ้นภายใต้ Obamaค่อนข้างมาก: czar ดูตำแหน่ง 32 ที่สร้างเพื่อให้ห่างไกล (มี 12 ตำแหน่งภายใต้รูสเวลท์และ 1 เท่านั้นเรแกนหรือ Eisenhower) ความแตกต่างระหว่างเศรษฐศาสตร์มหภาคและเศรษฐศาสตร์จุลภาคสะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งแยกของฟิสิกส์สมัยใหม่กล้องจุลทรรศน์ฟิสิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบที่มี ขนาดอนุภาคอะตอม และสบฟิสิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบในระดับที่เห็น ด้วยความรู้สึกรวมของคน ที่วิวัฒนาการที่นำไปด้วยกล้องจุลทรรศน์ฟิสิกส์จาก macroscopic หน้าไปเพียงใดจากน้อยพอใจกับวิธีการน่าพอใจกว่าจัดการมีปรากฏการณ์ของความเป็นจริง เป็นจะได้รับกับศาสตร์อื่น ๆในเศรษฐศาสตร์ ความคืบหน้าได้อย่างแม่นยำตรงข้าม มันยืนยันว่า เศรษฐศาสตร์จุลภาคเป็นวิธีใช้เรียนรู้ปัญหาเกี่ยวข้องและการแทนที่ของเศรษฐศาสตร์มหภาคเศรษฐศาสตร์จุลภาค (ตั้งแต่ลดันเคย์เนส) สำหรับยอดเงินการกำจัดวิธีการใช้วิธีการน่าพอใจกว่ากันเนื่องจากตลาดดำเนินข้อมูลกว้างขวางมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่าร่วมประชุมใด ๆเคยมี เป็นผลทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะต้องพึ่งสำคัญ ๆ เพิ่มเติมข้อเท็จจริงและตัวแปรมากกว่านักการใด ๆ ทางวิทยาศาสตร์สามารถเคยใส่รุ่นหรือสมมุติฐานของเขาอธิบาย หรือคาดการณ์ผล เศรษฐศาสตร์จุลภาคจึงยอมรับว่า นักเศรษฐศาสตร์สามารถไม่เคยให้คำอธิบายทั้งหมดหรือการคาดเดาที่แน่นอนของเฉพาะผลของสถานการณ์ที่กำหนด เศรษฐศาสตร์จุลภาคต้องเป็นเนื้อหาที่มีเฉพาะรูปแบบคาดเดา เราสามารถเพียงพูดอะไรจะไม่เกิดขึ้นและชนิดของรูปแบบกระบวนการจะสร้าง ไม่ มีความสามารถในการคาดการณ์เฉพาะผลที่ได้ของเศรษฐศาสตร์มหภาค ขัดกับศาสตร์อื่น ๆ ทั้งหมดของความซับซ้อน แทนสำคัญข้อมูลเศรษฐกิจจากตัวเลขทางสถิติกับผลรวมและค่าเฉลี่ยเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยการคาดการณ์ แต่ยังมีนัยสำคัญน้อยที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์คำอธิบายหรือ prediction.4 ที่เราไม่สามารถตรวจสอบสูตรเศรษฐกิจมหภาคโดยเพียงบรรจุ มีการวัดผลและการใช้ "ผล" แล้ว อธิบายมนุษย์การดำเนินการ เช่นวัด ถ้าไม่ทำคนดีมีการดำเนินการเราต้องอธิบาย ยังน้อย ๆ ทั้งหมด ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจคือไม่ว่าสิ่งที่มี หรือปรากฏการนักการ แต่พวกเขาเป็นอย่างไรกับมนุษย์ การทำหน้าที่คนเรียกคืน physicist สถานลอร์ดเคลวิน insisting: "เมื่อคุณไม่สามารถวัดความรู้มีไม่เพียงพอ และเฉยๆ" นี้อาจเป็นจริงสำหรับฟิสิกส์ — และdealing with fundamentally much simpler phenomena—when compared to economics.Important is not whether one can measure, but if one knows what such measurementsmean and how to interpret them. Striving for pseudo-exactness by imitating methods

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ้นสุดชี้นำหรือมีผลกระทบต่อการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดตามผลกระทบกลับมาผลิตโดย
การดำเนินการไปยังจุดเกินกว่าที่การวิเคราะห์ของการกระทำที่ไม่สามารถดำเนินการต่อไปคือให้เป็นค่า
ตัดสินของแต่ละคนและสิ้นสุดที่พวกเขามีเป้าหมายในการ . . "คะเน (1962)
มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างบอกว่าจำนวนของซาร์รัฐบาล (หรือ Czars สหรัฐชื่อเล่น
เจ้าหน้าที่บริหารสาขาพิเศษกับการขยายอำนาจได้เพิ่มขึ้นภายใต้โอบามา
ค่อนข้างมาก. 32 ตำแหน่งจักรพรรดิสร้างขึ้นเพื่อให้ห่างไกล (มี 12 ตำแหน่งดังกล่าวได้
ภายใต้โรสเวลต์และเพียง 1 ภายใต้เรแกนหรือไอเซนฮาว.) ความแตกต่างระหว่าง
เศรษฐกิจมหภาคและจุลภาคสะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัยฟิสิกส์ 'ความแตกต่างระหว่าง
ฟิสิกส์กล้องจุลทรรศน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบในระดับอนุภาคอะตอมและกราม
ฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับระบบในระดับที่เห็นได้โดยคนของ ความรู้สึกขั้นต้น.
วิวัฒนาการที่นำมาจากตาเปล่ากับฟิสิกส์กล้องจุลทรรศน์ก้าวหน้าจากน้อย
น่าพอใจให้กับวิธีการที่น่าพอใจมากขึ้นในการจัดการกับปรากฏการณ์ของความเป็นจริงในขณะที่
มันได้รับกับศาสตร์อื่น ๆ ทั้งหมด.
ในทางเศรษฐศาสตร์ความคืบหน้าได้รับได้อย่างแม่นยำตรงข้าม. มัน อ้างว่าเศรษฐศาสตร์จุลภาค
เป็นวิธีที่น่าพอใจในการศึกษาปัญหาที่เกี่ยวข้องและที่ทดแทน
ของเศรษฐศาสตร์มหภาคสำหรับเศรษฐศาสตร์จุลภาค (นับตั้งแต่เคนส์) จำนวนเงินที่จะ
กำจัดของวิธีการที่น่าพอใจโดยการยอมรับของวิธีการที่น่าพอใจมากขึ้น.
เนื่องจากตลาดทำงานบนอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นอย่างกว้างขวาง ข้อมูลผู้เข้าร่วมกว่าใด ๆ ที่
เคยได้มีผลทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องขึ้นอยู่กับอย่างมากมาย
ข้อเท็จจริงและตัวแปรกว่าสังเกตการณ์ทางวิทยาศาสตร์เคยสามารถแทรกลงในรุ่นของเขาหรือสมมติฐานที่
อธิบายหรือทำนายผล เศรษฐศาสตร์จุลภาคจึงยอมรับ
ว่านักเศรษฐศาสตร์ไม่สามารถบรรลุคำอธิบายหรือทำนายแน่นอนของโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผลของสถานการณ์ที่กำหนด เศรษฐศาสตร์จุลภาคจะต้องเป็นเนื้อหาที่มีเพียง
การทำนายรูปแบบ เราสามารถพูดในสิ่งที่ชนิดของสิ่งที่จะไม่เกิดขึ้นและสิ่งที่
ชนิดของรูปแบบกระบวนการที่จะสร้างโดยไม่มีความสามารถที่จะคาดการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผล.
เศรษฐศาสตร์มหภาคตรงกันข้ามกับศาสตร์อื่น ๆ ทั้งหมดของความซับซ้อนที่ขาดไม่ได้เข้ามาแทนที่
ข้อมูลทางเศรษฐกิจโดยตัวเลขสถิติมวลรวม และค่าเฉลี่ย.
เหล่านี้ไม่ต้องสงสัยที่ง่ายต่อการคาดการณ์ แต่ยังมีนัยสำคัญน้อยที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์
ชี้แจงหรือ prediction.4 เราไม่สามารถตรวจสอบสูตรเศรษฐกิจมหภาคโดยเพียงแค่
เติมเต็มพวกเขาด้วยการวัดเชิงประจักษ์แล้วใช้ "ผล" ของมนุษย์ที่จะอธิบาย
การกระทำ วัดดังกล่าวหากไม่ได้ดำเนินการโดยคนมากที่มีการดำเนินการที่
เราต้องการที่จะอธิบายยังคงไม่น่าทึ่งในเครือ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในสาขาเศรษฐศาสตร์เป็น
ไม่ได้ว่าสิ่งที่มีหรือปรากฏสังเกตการณ์ แต่วิธีการที่พวกเขาดูเหมือนจะเป็นมนุษย์ที่จะ
ทำหน้าที่คน.
จำฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงลอร์ดเคลวินยืนยัน: "เมื่อคุณไม่สามารถวัด
ความรู้ของคุณเป็นที่น่าพอใจและไม่พอเพียง "นี่อาจจะเป็นจริงสำหรับฟิสิกส์และของ
การรับมือกับปรากฏการณ์เมื่อพื้นฐานง่ายมากเมื่อเทียบกับเศรษฐศาสตร์.
ที่สำคัญคือไม่ว่าหนึ่งสามารถวัด แต่ถ้าใครรู้ว่าวัดดังกล่าว
มีความหมายและวิธีการแปลความหมายได้ มุ่งมั่นในการหลอกถูกต้องโดยเลียนแบบวิธีการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ้นสุดชี้นำ หรือมีผลต่อการกระทำหนึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดตามผลที่ผลิตโดย
กระจุดเกินกว่าที่ไม่มีการวิเคราะห์การกระทำสามารถดำเนินการ ได้แก่ ค่า
พิพากษาของบุคคลและปลายพวกเขาจะมุ่งที่ . . . . . . . " แบบ ( 1962 )
มันค่อนข้างบอกจํานวน tsars รัฐบาล ( หรือชื่อเล่น czars-u.s. สำหรับ
เจ้าหน้าที่สาขาการบริหารพิเศษที่มีพลังขยายได้เพิ่มขึ้นภายใต้โอบามา
ค่อนข้างมาก : ซาร์ 32 ตำแหน่งสร้างขึ้นเพื่อให้ห่างไกล ( มี 12 เช่นตำแหน่ง
ภายใต้ Roosevelt และเพียง 1 ภายใต้ Reagan หรือไอเซนฮาวร์ ) ความแตกต่างระหว่าง
เศรษฐศาสตร์มหภาคและเศรษฐศาสตร์จุลภาค สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างฟิสิกส์ยุคใหม่
ฟิสิกส์ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบในระดับอนุภาคอะตอม , ฟิสิกส์และฟันกราม
ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบในระดับที่ประเมินได้โดยมนุษย์รวมประสาทสัมผัส
วิวัฒนาการ ที่นำสารไปจากกล้องจุลทรรศน์ฟิสิกส์ก้าวหน้าจากน้อย
พอใจกับวิธีการที่น่าพอใจมากขึ้นในการจัดการกับปรากฏการณ์ของความจริง เพราะมันได้กับศาสตร์อื่น ๆ
.
ในทางเศรษฐศาสตร์ ความก้าวหน้ามีแน่นอนตรงข้าม มันยืนยันว่าเศรษฐศาสตร์จุลภาค
เป็นวิธีที่น่าพอใจจากการศึกษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการชดเชย
เศรษฐศาสตร์มหภาคเศรษฐศาสตร์จุลภาค ( สำหรับตั้งแต่ Keynes ) จํานวน
กำจัดวิธีการที่น่าพอใจโดยการยอมรับวิธีการที่น่าพอใจมากขึ้น .
เพราะตลาดการอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มเติมข้อมูลผู้เข้าร่วม
เคยมี ผลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงเป็นอย่างมากมาก
และตัวแปรกว่าสังเกตทางวิทยาศาสตร์ใด ๆที่สามารถแทรกลงในแบบของเขา หรือสมมติฐาน
อธิบายหรือทำนายอนาคต เศรษฐศาสตร์จุลภาคจึงยอมรับ
ที่นักเศรษฐศาสตร์ไม่สามารถบรรลุคำอธิบายเต็มรูปแบบหรือการทำนายที่แน่นอนของผลเฉพาะ
จากสถานการณ์ที่กำหนดให้ . เศรษฐศาสตร์จุลภาคต้องเป็นเนื้อหาที่มีเพียง
แบบพยากรณ์ เราสามารถพูดในสิ่งที่ชนิดของสิ่งที่จะเกิดขึ้นและสิ่งที่
ชนิดของรูปแบบกระบวนการจะสร้างโดยไม่สามารถทำนายผลเฉพาะ
.
เศรษฐศาสตร์มหภาคตรงข้ามกับศาสตร์อื่น ๆทั้งหมดของความซับซ้อนของข้อมูลทางเศรษฐกิจได้เปลี่ยนจากตัวเลขสถิติที่ขาดไม่ได้

มวลรวม และค่าเฉลี่ย เหล่านี้คือไม่ต้องสงสัยที่ง่ายต่อการคาดการณ์ แต่ก็น้อยกว่าที่เกี่ยวข้องกับคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์
หรือคำทำนาย เราไม่สามารถตรวจสอบสูตรโดยเพียงแค่
เศรษฐศาสตร์มหภาคเติมเต็มด้วยการวัดผลเชิงประจักษ์และจากนั้นใช้ " ผล " เพื่ออธิบายการกระทำของมนุษย์

วัดดังกล่าว หากไม่ได้ดำเนินการโดยมากคนที่การกระทำ
เราอยากอธิบาย ยังคงทั้งหมดไม่น่าสนใจ ทุกคนที่เกี่ยวข้องในทางเศรษฐศาสตร์คือ
ไม่ว่าสิ่งที่หรือปรากฏเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่วิธีที่พวกเขาปรากฏให้มนุษย์ทำมนุษย์

.
เรียกคืนชื่อเสียงนักฟิสิกส์ลอร์ดเคลวินยืนยัน :" เมื่อคุณไม่สามารถวัดความรู้ของคุณและ
ปากกัดตีนถีบที่น่าพอใจ . " นี้อาจเป็นจริงสำหรับฟิสิกส์และพื้นฐานที่ง่ายมาก
เผชิญกับปรากฏการณ์เมื่อเทียบกับเศรษฐศาสตร์ .
ที่สำคัญไม่ว่าหนึ่งสามารถวัดได้ แต่หากรู้อะไรเช่นนี้
หมายถึงการวัดและการตีความ . มุ่งมั่นเพื่อความถูกต้องโดยวิธีหลอกเลียนแบบ