The problem is that the city of Jer

The problem is that the city of Jerusalem is holy for the Franks too.
Jesus lived much of his life in the city, and also died there. Jerusalem
is the most important place of pilgrimage for people from Europe, but
when the Turks took it in 1071, it was more difficult for Europeans to
visit. They were angry about that and they decided that they wanted
Jerusalem back. They called their campaign a crusade. They came
from across the sea and in 1099 they took the holy city. They killed
nearly everyone in the place! Now, after almost a hundred years,
many Franks are born in Palestine and they think that it’s their
home.
Of course, as you know, Jerusalem is a holy place for Muslims, too,
because the Prophet Mohammed, peace be on him, travelled from
there up into the sky to meet God and the prophets. Also the Al-Aqsa
Mosque is one of the oldest holy places of Islam. It’s wrong that the
Franks are using the building as a church and praying in it. Nuradin
wanted to bring Muslims together to win it back, and I want to make
his great hope come true!
Planning this new campaign, Saladin remembered Shirkuh
saying, ‘Never waste time. March quickly and take the enemy
by surprise!’ At first, Saladin’s soldiers followed his orders. They
were fast and deadly. The Frankish knights weren’t ready, and
the Muslims won without trying very hard. But then Saladin’s
men slowed down and stopped being careful. They thought that
they could take Jerusalem without any trouble!
King Baldwin the Leper was only sixteen when he learned that
Saladin’s army was attacking Palestine, and that there was noone to stop them. He called all his knights together from their
castles with letters that his soldiers carried secretly through the
Muslim army lines. It was a dangerous plan, but it worked. The
Franks arrived to help their king and they surprised Saladin’s
army at Ramla. Saladin’s soldiers had to run to escape and the
Franks nearly killed Saladin. It was a very bad defeat, and after
it many emirs no longer wanted to be in Saladin’s army.
Saladin told his men, ‘Thinking that Baldwin the Leper is
weak because he’s young and ill was a mistake! We’ll have to
work harder to take Jerusalem. Some of you must ride the fastest
camels to Cairo to tell the Egyptians that we’re safe. We’ve lost a
battle, but we can win the war if we fight together!’
The only good news for Saladin was that, after Ramla,
Baldwin’s army wasn’t ready to keep fighting. ‘But we must do
something to stop him,’ Baldwin said to his knights. ‘Make all
your castles strong and next time we’ll be ready for the enemy!’
The knights decided to build a new castle on the Jordan River.
King Baldwin said, ‘Don’t build at Jacob’s Ford! Franks and
Muslims live on both sides of the river and everyone can cross
the Jordan freely there. We’ll have trouble if we change things.’
But the knights didn’t listen and built the castle there, and
in 1179 there was a fight about the land. During the battle, a
small group of Saladin’s soldiers nearly caught King Baldwin.
Old Humphrey of Toron helped his king escape, but the knight
was badly wounded and died. Saladin, now forty-one, was sad.
‘Humphrey was my good friend in Alexandria after that terrible
siege finished. He was a chivalrous man and a brave knight. I
wish that more Franks could be like him!’
After the battle of Jacob’s Ford, Saladin sent his army in small
groups to attack Palestine. ‘It’ll be easy to catch Saladin’s men
when they come back,’ Baldwin said. ‘They’ll be tired and we
can fight small groups of soldiers and win!’ Near the Litani
River, they met some of Saladin’s men on their way home.
Baldwin’s knights quickly won the battle, but before they knew
it, Saladin and the rest of his army arrived. Saladin’s soldiers
killed hundreds of Franks, and caught many of their important
knights.
Three years later, Baldwin and Saladin agreed to stop fighting
for a while, but the peace was short. One of Baldwin’s knights,
Reynald of Chatillon, was a man who was hungry for gold and
for power. When he married, his wife gave him Kerak Castle
which looked down on the road that ran between Damascus
and Makkah. This castle made it easy for him to attack Muslim
pilgrims and to take their money from them.
‘Reynald, you are breaking the peace,’ King Baldwin told him
angrily. ‘We have promised the Muslims that the pilgrims’ road
will be safe.’
‘Your promise doesn’t worry me. Anyone crossing my land
must pay!’ said Reynald.
Saladin thought that Reynald was a man without honour,
and he decided to stop him. He marched to Kerak with his men.
But when Saladin was just going to attack the castle with siege
engines, he heard that Isabella of Jerusalem was marrying the
grandson of his old friend, Humphrey of Toron, there. ‘Find out
where the party will be,’ he said to his soldiers, ‘I don’t want to
hit that side of the building!’ To thank Saladin for this, Isabella
sent food to the men in his army.
Later, King Baldwin went to help Reynald. Together they
ended the siege and pushed Saladin and his army back. After
this, Reynald went on attacking Muslim pilgrims.
‘We must stop Reynald and the Franks,’ Saladin said to
his generals, ‘But we must make them fight in open country.
They’re too strong in their castles!’

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาคือว่า เมืองเยรูซาเล็มศักดิ์สิทธิ์สำหรับแฟรงค์เกินไปพระเยซูอยู่มากของชีวิตในเมือง และตายมี เยรูซาเลมเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของแสวงบุญคนจากยุโรป แต่เมื่อเติร์กที่เอาใน 1071 มันยากสำหรับชาวยุโรปไปเยี่ยมชม พวกเขาโกรธว่า และพวกเขาตัดสินใจว่า พวกเขาต้องการเยรูซาเลมกลับมา พวกเขาเรียกว่าการส่งเสริมการขายการรณรงค์ พวกเขามาจากทะเล และ ใน 1099 จะเอาเมืองศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาฆ่าเกือบทุกคนใน หลังจากเกือบหนึ่งร้อยปี ตอนนี้แฟรงค์มากจะเกิดในปาเลสไตน์ และพวกเขาคิดว่า มันเป็นของพวกเขาหน้าแรกแน่นอน คุณทราบ เยรูซาเลมเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมุสลิม เกินไปเนื่องจากผู้เผยพระวจนะ Mohammed สันติภาพอยู่บนเขา เดินทางจากมีขึ้นในท้องฟ้าให้ตรงกับพระเจ้าและพระวจนะ นอกจากนี้ในอัล-Aqsaมัสยิดเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ที่สุดของอิสลาม มันผิดที่การแฟรงค์จะใช้อาคารที่เป็นโบสถ์ และอธิษฐานใน Nuradinต้องการที่จะนำมุสลิมด้วยกันจะชนะกลับ และฉันต้องการให้เขาหวังดีที่เป็นจริงวางแผนส่งเสริมการขายนี้ใหม่ ศอลาฮุดดีนจำ Shirkuhบอกว่า, ' ไม่เสียเวลา มีนาคมอย่างรวดเร็ว และมีศัตรูด้วยความประหลาดใจ!' ตอนแรก ทหารของศอลาฮุดดีนตามใบสั่งของเขา พวกเขาได้อย่างรวดเร็ว และอันตราย Frankish ม้าไม่พร้อม และมุสลิมที่ได้รับรางวัลโดยไม่ต้องพยายามอย่างหนักมาก แต่จากนั้นศอลาฮุด ดีนของคนทำงานช้าลง และหยุดการระมัดระวัง พวกเขาคิดว่า ที่สามารถใช้เยรูซาเลมไม่ มีปัญหาใด ๆกษัตริย์บอลด์วิน Leper มีเฉพาะ sixteen เมื่อเขาได้เรียนรู้ว่ากองทัพของศอลาฮุดดีนถูกโจมตีปาเลสไตน์ และว่า มี noone หยุดพวกเขา เขาเรียกว่าอัศวินของเขาทั้งหมดเข้าด้วยกันจากการปราสาท ด้วยตัวอักษรที่ทหารเขาดำเนินการลับ ๆ ผ่านการรายการกองทัพมุสลิม มันเป็นแผนอันตราย แต่ทำงาน ที่แฟรงค์ถึงช่วยกษัตริย์ของพวกเขา และพวกเขาประหลาดใจของศอลาฮุดดีนกองทัพที่รามลา ทหารของศอลาฮุดดีนมีการหลบหนีและแฟรงค์เกือบตายศอลาฮุดดีน มันเป็นความพ่ายแพ้ที่เลวร้ายมาก และหลังจากมัน emirs มากไม่ต้องการอยู่ในกองทัพของศอลาฮุดดีนศอลาฮุดดีนบอกคน, ' คิดบอลด์วิน Leper ว่าอ่อนแอเนื่องจากเขาเป็นเด็ก และไม่มีผิด เราจะต้องทำงานหนักไปเยรูซาเล็ม บางท่านต้องนั่งที่เร็วที่สุดอูฐสู่ไคโรอียิปต์บอกว่า เราปลอดภัย เราได้สูญเสียการต่อสู้ แต่เราสามารถชนะสงครามถ้าเราต่อสู้ร่วมกัน!'ข่าวดีเท่านั้นสำหรับศอลาฮุดดีนถูกที่ หลังรามลากองทัพของบอลด์วินไม่พร้อมที่จะให้การต่อสู้ ' แต่เราต้องทำสิ่งที่จะหยุดเขา บอลด์วินกล่าวว่า ม้าของเขา ' ทำให้ทั้งหมดปราสาทที่แข็งแกร่งของคุณและครั้งต่อไปเราจะพร้อมสำหรับศึก!'อัศวินตัดสินใจที่จะสร้างปราสาทใหม่ในแม่น้ำ Jordanกษัตริย์บอลด์วินกล่าวว่า, ' ไม่สร้างที่ฟอร์ดยาโคบ แฟรงค์ และชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำ และทุกคนสามารถข้ามJordan มีอิสระ เราจะมีปัญหาถ้าเราเปลี่ยนสิ่งนั้น 'แต่อัศวินไม่ฟัง และสร้างปราสาท และใน 1179 มีการต่อสู้เกี่ยวกับที่ดิน ในระหว่างการต่อสู้ การกลุ่มเล็ก ๆ ของทหารของศอลาฮุดดีนเกือบจับกษัตริย์บอลด์วินเก่าฟรีย์ Toron ช่วยเขาหลบหนี แต่อัศวินคิงไม่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ศอลาฮุดดีน ตอนนี้สี่สิบหนึ่ง เศร้าได้' ฟรีย์ได้เพื่อนดีใน Alexandria หลังกลัวล้อมเสร็จ เขาเป็นชาย chivalrous และอัศวินผู้เก่งกล้า ฉันต้องที่ชนแฟรงค์เพิ่มเติมอาจเหมือนเขา!'หลังจากการต่อสู้ของยาโคบฟอร์ด ศอลาฮุดดีนส่งทัพขนาดเล็กกลุ่มโจมตีปาเลสไตน์ ' มันจะง่ายต่อการจับคนของศอลาฮุดดีนเมื่อพวกเขากลับ มา ' บอลด์วินกล่าวว่า การ ' พวกเขาจะเหนื่อย และเราสามารถต่อสู้กับกลุ่มทหาร และชนะ!' ใกล้ Litaniแม่น้ำ พวกเขาได้พบบางคนของศอลาฮุดดีนในบ้านอัศวินของบอลด์วินชนะการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขารู้ก่อนศอลาฮุดดีนและส่วนเหลือของกองทัพของเขามาถึง ทหารของศอลาฮุดดีนร้อยฆ่าแฟรงค์ และจับความสำคัญของพวกเขาอัศวินสามปีหลัง บอลด์วินและศอลาฮุดดีนตกลงหย่าศึกหนึ่ง แต่ความสงบสุขโดยย่อ หนึ่งในอัศวินของบอลด์วินReynald ทิล ถูกคนหิวทอง และพลังงาน เมื่อเขาแต่งงาน ภรรยาของเขาให้เขาปราสาท Kerakซึ่งมองลงไปบนถนนที่วิ่งระหว่างดามัสกัสและมักกะห์ ปราสาทนี้ทำให้มันง่ายสำหรับเขาที่จะโจมตีมุสลิมพิลกริมส์ และใช้เงินของพวกเขาจากพวกเขากษัตริย์บอลด์วิน 'Reynald คุณกำลังทำลายความสงบสุข บอกเขาangrily ' เรามีสัญญาที่มุสลิมที่ถนนของนักแสวงบุญจะเซฟ '' สัญญาคุณไม่ต้องกังวลฉัน ใครข้ามที่ดินของฉันต้องชำระ!' กล่าวว่า Reynaldศอลาฮุดดีนคิดว่า Reynald คือ เป็นคนไม่ มีเกียรติและเขาตัดสินใจที่จะหยุดเขา เขาเดินไป Kerak ด้วยคนแต่ เมื่อศอลาฮุดดีนเพียงไปโจมตีปราสาท ด้วยการปิดล้อมเครื่องยนต์ เขาได้ยินว่า อิซาเบลลาแห่งเยรูซาเล็มได้แต่งตัวหลานของเพื่อนของเขาเก่า ฟรีย์ Toron มี ' ค้นหาซึ่งจะเป็นงานปาร์ตี้ กับทหารของเขา เขาว่า ' ฉันไม่ต้องการตีที่ด้านข้างของอาคาร!' ขอขอบคุณศอลาฮุดดีนนี้ อิซาเบลลาส่งอาหารให้กับกองทัพของเขาภายหลัง กษัตริย์บอลด์วินได้ไปช่วย Reynald กันพวกเขาสิ้นสุดการปิดล้อม และศอลาฮุดดีนแบบผลัก และหลังกองทัพของเขา หลังจากนี้ Reynald ไปในโจมตีมุสลิมพิลกริมส์'เราต้องหยุด Reynald และแฟรงค์ ศอลาฮุดดีนกล่าวว่าทหารของเขา, ' แต่เราต้องทำให้พวกเขาต่อสู้ในประเทศเปิดพวกเขากำลังแข็งแกร่งในปราสาทของพวกเขา!'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาคือกรุงเยรูซาเล็มเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับแฟรงค์เกินไป.
พระเยซูอาศัยอยู่มากในชีวิตของเขาในเมืองและยังเสียชีวิตที่นั่น เยรูซาเล็ม
เป็นสถานที่สำคัญที่สุดของการแสวงบุญสำหรับผู้คนจากยุโรป แต่
เมื่อพวกเติร์กเอาไว้ใน 1071 มันเป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับชาวยุโรปที่จะ
เยี่ยมชม พวกเขาโกรธเกี่ยวกับที่และพวกเขาตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการ
กลับกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาเรียกว่าการรณรงค์หาเสียง พวกเขามา
จากทั่วทะเลและใน 1099 พวกเขาเอาเมืองศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาถูกฆ่าตาย
เกือบทุกคนในสถานที่! ตอนนี้หลังจากที่เกือบร้อยปี
แฟรงค์จำนวนมากจะเกิดในปาเลสไตน์และพวกเขาคิดว่ามันเป็นของพวกเขา
ที่บ้าน.
แน่นอนที่คุณรู้ว่าเยรูซาเล็มเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมุสลิมเกินไป
เพราะท่านศาสดาโมฮัมเหม็สันติภาพบนเขาเดินทาง จาก
มีขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อตอบสนองพระเจ้าและศาสดา นอกจากนี้อัลอักซอ
มัสยิดเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่ที่สุดของศาสนาอิสลาม มันผิดที่
แฟรงค์กำลังใช้อาคารเป็นคริสตจักรและสวดมนต์ในนั้น Nuradin
ต้องการที่จะนำชาวมุสลิมร่วมกันที่จะชนะมันกลับมาและฉันต้องการที่จะทำให้
ความหวังดีของเขาเป็นจริง!
วางแผนแคมเปญใหม่นี้ศอลาฮุดจำ Shirkuh
พูดว่า 'ไม่เคยเสียเวลา เดินได้อย่างรวดเร็วและใช้ศัตรู
ด้วยความประหลาดใจ! ในตอนแรกของศอลาฮุดทหารตามคำสั่งของเขา พวกเขา
ได้อย่างรวดเร็วและร้ายแรง อัศวินส่งยังไม่พร้อมและ
ชาวมุสลิมได้รับรางวัลโดยไม่ต้องพยายามอย่างหนัก แต่แล้วศอลาฮุดของ
ผู้ชายที่ชะลอตัวลงและหยุดการระมัดระวัง พวกเขาคิดว่า
พวกเขาอาจจะใช้เวลาเยรูซาเล็มโดยไม่มีปัญหาใด ๆ !
กษัตริย์บอลด์วินโรคเรื้อนเป็นเพียงสิบหกเมื่อเขารู้ว่า
กองทัพศอลาฮุดถูกโจมตีปาเลสไตน์และว่ามีไม่มีใครจะหยุดพวกเขา เขาเรียกว่าอัศวินของเขาทั้งหมดเข้าด้วยกันของพวกเขาจาก
ปราสาทด้วยตัวอักษรว่าทหารของเขาดำเนินแอบผ่าน
สายกองทัพมุสลิม มันเป็นแผนอันตราย แต่มันทำงาน
แฟรงค์มาถึงเพื่อช่วยให้กษัตริย์ของพวกเขาและพวกเขาประหลาดใจศอลาฮุดของ
กองทัพที่แร็ ทหารของศอลาฮุดต้องวิ่งจะหลบหนีและ
แฟรงค์เกือบจะฆ่าศอลาฮุด มันเป็นความพ่ายแพ้ที่เลวร้ายมากและหลังจากนั้น
มัน Emirs จำนวนมากไม่ต้องการที่จะอยู่ในกองทัพของศอลาฮุด.
ศอลาฮุดบอกคนของเขา 'คิดว่าบอลด์วินโรคเรื้อนเป็น
อ่อนแอเพราะเขาเป็นคนหนุ่มสาวและป่วยเป็นความผิดพลาด! เราจะต้อง
ทำงานหนักขึ้นเพื่อใช้เยรูซาเล็ม บางส่วนของคุณต้องขี่เร็วที่สุด
อูฐไปยังกรุงไคโรอียิปต์ที่จะบอกว่าเรามีความปลอดภัย เราได้สูญเสีย
การต่อสู้ แต่เราสามารถชนะในสงครามถ้าเราสู้ด้วยกัน! '
ข่าวดีสำหรับศอลาฮุดเป็นว่าหลังจากแร็
กองทัพบาลด์วินก็ยังไม่พร้อมที่จะให้การต่อสู้ แต่เราจะต้องทำ
บางสิ่งบางอย่างที่จะหยุดเขา 'บอลด์วินกล่าวว่าอัศวินของเขา 'ทำให้ทุก
ปราสาทของคุณเวลาที่แข็งแกร่งและต่อไปที่เราจะพร้อมสำหรับศัตรู! '
อัศวินตัดสินใจที่จะสร้างปราสาทใหม่บนแม่น้ำจอร์แดน.
กษัตริย์บอลด์วินกล่าวว่า 'อย่าสร้างฟอร์ดของจาค็อบ! แฟรงค์และ
ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ทั้งสองข้างของแม่น้ำและทุกคนสามารถข้าม
แม่น้ำจอร์แดนได้อย่างอิสระมี เราจะมีปัญหาถ้าเราเปลี่ยนสิ่ง. '
แต่อัศวินไม่ได้ฟังและสร้างปราสาทมีและ
ใน 1179 มีการต่อสู้เกี่ยวกับที่ดิน ระหว่างการสู้รบ
กลุ่มเล็ก ๆ ของทหารศอลาฮุดเกือบจับกษัตริย์บอลด์วิน.
เก่าฮัมฟรีย์ Toron ช่วยหลบหนีกษัตริย์ของเขา แต่อัศวิน
ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ศอลาฮุดตอนนี้สี่สิบเอ็ด, เศร้า.
'ฮัมฟรีย์เป็นเพื่อนที่ดีของฉันในซานเดรียหลังจากนั้นน่ากลัว
ล้อมเสร็จ เขาเป็นคนกล้าหาญและอัศวินผู้กล้าหาญ ฉัน
หวังว่าแฟรงค์มากขึ้นอาจจะเป็นเหมือนเขา! '
หลังจากการรบของจาค็อบฟอร์ด, ศอลาฮุดส่งกองทัพของเขาในขนาดเล็ก
กลุ่มที่จะถูกโจมตีปาเลสไตน์ 'มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะจับคนของศอลาฮุด
เมื่อพวกเขากลับมา 'บอลด์วินกล่าวว่า 'พวกเขาจะเหนื่อยและเรา
สามารถต่อสู้กับกลุ่มเล็ก ๆ ของทหารและชนะ! ' ใกล้ Litani
แม่น้ำที่พวกเขาได้พบกับคนของศอลาฮุดในทางกลับบ้านของพวกเขา.
อัศวินบาลด์วินได้อย่างรวดเร็วได้รับรางวัลการต่อสู้ แต่ก่อนที่พวกเขารู้ว่า
มันศอลาฮุดและส่วนที่เหลือของกองทัพของเขามาถึง ทหารของศอลาฮุด
ฆ่าตายหลายร้อยแฟรงค์และจับหลายคนสำคัญของพวกเขา
อัศวิน.
สามปีต่อมาบอลด์วินและศอลาฮุดตกลงที่จะหยุดการต่อสู้
ในขณะที่ แต่ความสงบสุขสั้น หนึ่งในอัศวินบาลด์วิน,
Reynald ของ Chatillon เป็นคนที่หิวทองและ
อำนาจ เมื่อเขาแต่งงานกับภรรยาของเขาทำให้เขาปราสาทเคอแร็ค
ซึ่งมองลงไปบนถนนที่วิ่งระหว่างดามัสกัส
และนครเมกกะห์ ปราสาทแห่งนี้ทำให้มันง่ายสำหรับเขาที่จะโจมตีชาวมุสลิม
ผู้แสวงบุญและจะใช้เงินของพวกเขาจากพวกเขา.
'Reynald คุณจะทำลายความสงบสุข,' พระมหากษัตริย์บอลด์วินบอกเขา
ด้วยความโกรธ "เรามีสัญญาว่าชาวมุสลิมผู้แสวงบุญที่ 'ถนน
จะปลอดภัย. '
'สัญญาของคุณจะไม่ต้องกังวลฉัน ทุกคนข้ามแผ่นดินของเรา
จะต้องจ่าย! กล่าวว่า Reynald.
ศอลาฮุดคิดว่า Reynald เป็นคนโดยไม่ต้องให้เกียรติ,
และเขาตัดสินใจที่จะหยุดเขา เขาเดินไปเคอแร็คกับคนของเขา.
แต่เมื่อศอลาฮุดก็จะโจมตีปราสาทล้อมด้วย
เครื่องยนต์ที่เขาได้ยินมาว่า Isabella เยรูซาเล็มถูกแต่งงานกับ
หลานชายของเพื่อนเก่าของเขา, ฮัมฟรีย์ Toron มี 'หา
ที่บุคคลที่จะเป็น "เขาพูดกับทหารของเขาว่า 'ผมไม่ต้องการที่จะ
ตีด้านข้างของอาคารที่! ' เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับศอลาฮุดนี้ Isabella
ส่งอาหารให้กับคนที่อยู่ในกองทัพของเขา.
ต่อมากษัตริย์บอลด์วินไปช่วย Reynald ร่วมกันพวกเขา
สิ้นสุดวันที่ล้อมและผลักดันให้ศอลาฮุดและกองทัพของเขากลับมา หลังจาก
นี้ Reynald ไปในการโจมตีผู้แสวงบุญชาวมุสลิม.
'เราต้องหยุด Reynald และแฟรงค์' ศอลาฮุดกล่าวว่า
นายพลของเขา 'แต่เราต้องทำให้พวกเขาต่อสู้ในประเทศเปิด.
พวกเขากำลังที่แข็งแกร่งเกินไปในปราสาทของพวกเขา! '

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญหาอยู่ที่เมืองเยรูซาเล็มเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับแฟรงค์ด้วย
พระเยซูอยู่มากในชีวิตของเขาในเมือง และก็ตายที่นั่น เยรูซาเล็ม
เป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดของการจาริกแสวงบุญสำหรับผู้คนจากยุโรป แต่
เมื่อเติร์กเอาไปในสัดส่วน มันก็ยากสำหรับชาวยุโรป

เยี่ยม พวกเขาโกรธเรื่องนั้น และพวกเขาตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการ
เยรูซาเล็มกลับคืนมาพวกเขาเรียกว่าการรณรงค์ของสงคราม . พวกเขามา
จากในทะเลและในแต่พวกเขายึดเมืองศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาฆ่า
เกือบทุกคนในสถานที่ ! ตอนนี้ หลังจากเกือบร้อยปี
หลายแฟรงค์เกิดในปาเลสไตน์ และพวกเขาคิดว่ามันเป็นบ้านของพวกเขา
.
แน่นอน อย่างที่คุณรู้ , เยรูซาเล็มเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมด้วย
เพราะศาสดามุฮัมมัดสันติภาพเป็นเขาเดินทางจาก
มันขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อพบกับพระเจ้าและศาสดา ยังมัสยิดอัล aqsa
เป็นหนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม มันผิดที่
แฟรงค์จะใช้อาคารเป็นโบสถ์และสวดภาวนาใน nuradin
ต้องการให้มุสลิมด้วยกันชนะมันกลับ และฉันต้องการให้
ของเขามาก หวังว่าจะเป็นจริง !
วางแผนแคมเปญใหม่ ซาลาดิน จำได้
เชอร์คูว่า ไม่ต้องเสียเวลามีนาคมรวดเร็วและพาศัตรู
แปลกใจ ! ' ตอนแรกทหารของซาลาดินตามคำสั่งของเขา พวกเขา
เร็ว และมรณะ อัศวินส่งยังไม่พร้อม
มุสลิมจะไม่พยายามอย่างหนัก แต่แล้วของซาลาดิน
ผู้ชายชะลอความเร็วลงและหยุดได้ ระวัง พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถใช้เยรูซาเล็ม
โดยไม่มีปัญหาใด ๆ !
กษัตริย์บอลด์วินคนเป็นโรคเรื้อนอายุแค่สิบหก เมื่อเขาได้รู้ว่า
กองทัพของซาลาดินถูกโจมตีปาเลสไตน์ และก็ไม่มีใครที่จะหยุดพวกเขา เขาเรียกอัศวินของเขาทั้งหมดเข้าด้วยกันจากปราสาทของพวกเขา
ด้วยตัวอักษรที่ทหารอย่างลับๆผ่าน
มุสลิมสายกองทัพ มันเป็นแผนที่อันตราย แต่มันได้ผล
แฟรงค์มาช่วยกษัตริย์ของพวกเขาและพวกเขาประหลาดใจที่กองทัพของซาลาดิน
ในการก่อตั้งสหภาพโซเวียต . ทหารของซาลาดินต้องหนีและ
แฟรงก์เกือบจะฆ่าซาลาดิน . มันเป็นความพ่ายแพ้ที่เลวมาก และหลังจาก
หลาย emirs ไม่อยากจะอยู่ในกองทัพของซาลาดิน .
ซาลาดินบอกคนของเขา ' คิดว่าวินผู้เป็นโรคเรื้อนคือ
อ่อนแอเพราะเขายังหนุ่ม และป่วยมันผิด ! เราต้องทำงานให้หนัก เพื่อเอา

" บางท่านต้องขี่อูฐเร็ว
ไปไคโรเพื่อบอกคนอียิปต์ที่เราปลอดภัย เราสูญเสีย
สงครามแต่เราสามารถชนะสงคราม ถ้าเราต่อสู้ด้วยกัน '
ข่าวดีเท่านั้นสำหรับซาลาดินที่หลังจากการก่อตั้งสหภาพโซเวียต
, กองทัพวินยังไม่พร้อมที่จะสู้ แต่เราต้องทำ
บางอย่างที่จะหยุดเขา " วินพูดกับเหล่าอัศวินของเขา ' ให้คุณแข็งแรง และคราวหน้า
ปราสาทเราจะพร้อมสำหรับศัตรู '
อัศวินตัดสินใจที่จะสร้างปราสาทใหม่ในแม่น้ำจอร์แดน .
กษัตริย์บอลด์วินกล่าว' อย่าสร้างที่เจคอบเป็นฟอร์ด แฟรงค์และ
มุสลิมอยู่ทั้งสองด้านของแม่น้ำ และทุกคนสามารถข้าม
จอร์แดนได้อย่างอิสระมี เราจะมีปัญหาถ้าเราเปลี่ยนสิ่ง '
แต่อัศวินไม่ฟังและสร้างปราสาทแล้ว
ใน 921 มีการต่อสู้เรื่องที่ดิน ในระหว่างการต่อสู้ , กลุ่มเล็ก ๆของทหารของซาลาดิน

เกือบจะจับกษัตริย์บอลด์วินเก่า ฮัมฟรีย์ของ toron ช่วยพระราชาหนี แต่อัศวิน
บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ซาลาดิน ตอนนี้คือ เศร้า
'humphrey คือเพื่อนที่แสนดีของฉัน ใน อเล็กซานเดรีย หลังจากล้อมน่ากลัว
เสร็จแล้ว เขาคือผู้ชายที่กล้าหาญ และอัศวินผู้กล้าหาญ ผม
หวังว่ามากขึ้นอาจจะชอบเขา แฟรงค์ ! '
หลังจากการต่อสู้ของยาโคบ ฟอร์ด ซาลาดินส่งกองทัพของเขาในกลุ่มเล็ก
โจมตีปาเลสไตน์' มันง่ายที่จะจับผู้ชายของซาลาดิน
เมื่อพวกเขากลับมา " วินกล่าว ' พวกเขาจะเหนื่อยและเรา
สู้กลุ่มเล็ก ๆของทหาร และชนะ ' ใกล้แม่น้ำลิตานี
, พวกเขาได้พบบางส่วนของซาลาดิน คนเดินทางกลับบ้าน
Baldwin อัศวินได้อย่างรวดเร็วจะต่อสู้ แต่ก่อนที่พวกเขารู้ว่า
, ซาลาดินและส่วนที่เหลือของกองทัพของเขามาถึง ทหารของซาลาดิน
หลายร้อยฆ่าแฟรงค์ ,และจับมากของอัศวินที่สำคัญ
.
3 ปีต่อมา บอลด์วิน กับซาลาดินตกลงที่จะหยุดการต่อสู้
สักพัก แต่ความสงบก็สั้น หนึ่งของวินคืออัศวิน
เรโนลด์ ของ chatillon เป็นคนที่หิวทองและ
เพื่ออำนาจ เมื่อเขาแต่งงานกับภรรยาของเขาให้เขาปราสาทเครัค
ซึ่งมองลงบนถนนที่วิ่งระหว่างเมืองดามัสกัส และมักกะฮฺ
.ปราสาทนี้ทำให้มันง่ายสำหรับเขาที่จะโจมตีผู้แสวงบุญมุสลิม
และเอาเงินจากพวกเขา .
'reynald คุณกำลังทำลายสันติภาพ ' กษัตริย์บอลด์วินบอก
อย่างโกรธเกรี้ยว ' เราได้สัญญากับชาวมุสลิมที่ผู้แสวงบุญ ' ถนน '

จะปลอดภัย มีสัญญาไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ใครข้าม
ที่ดินจะต้องจ่าย ! ' เรโนลด์ .
ซาลาดินคิดว่า เรโนลด์ เป็นคนไม่มีเกียรติ
และเขาก็ตัดสินใจที่จะหยุดเขา เขาเดินมาที่ คารัคกับคนของเขา .
แต่เมื่อซาลาดินก็จะโจมตีปราสาทล้อม
เครื่องยนต์ เขาได้ยินว่าอิสซาเบลลาแห่งเยรูซาเล็มถูกแต่งงาน
หลานชายของเพื่อนเก่าของเขา ฮัมฟรีย์ของ toron ตรงนั้น ' หา
ที่พรรคจะเป็น ' เขากล่าวกับทหารของเขา , ' ฉันไม่ต้องการ
กดปุ่มที่ด้านข้างของอาคาร ! ' ขอบคุณซาลาดินนี้ Isabella
ส่งอาหารไปให้ทหารในกองทัพของเขา
ต่อมากษัตริย์ Baldwin ไปช่วยเรโนลด์ . ร่วมกันพวกเขา
สิ้นสุดล้อมและผลักซาลาดินและกองทัพของเขากลับมา หลังจาก
นี้ เรโนลด์ ไปโจมตีผู้แสวงบุญชาวมุสลิม
เราต้องหยุด เรโนลด์ และแฟรงค์ ' ซาลาดินกล่าวว่านายพลของเขา

' แต่เราต้องทำให้พวกเขาต่อสู้ในการเปิดประเทศ .
มันแรงเกินไป ในปราสาท ! '