Soil moisture is the land surface h

Soil moisture is the land surface hydrologic variable that most strongly affects land-atmosphere moisture and energy fluxes such as evaporative heat flux, and phase change in freezing or thawing of wet soil. Field measurementsofsoilmoisturehavebeencollectedontheNorthSlope of Alaska, with emphasis on establishing macroscale and microscale topographic influences. Sites were installed in the foothill regions and on the coastal plain of the Kuparuk River basin. Preliminary results indicate that macrotopographic gradients greatly influence the importance of lateral versus vertical fluxes. Microtopographic differences affect the small-scale spatial differences in soil moisture but have less impact on flux direction. Soil moisture dynamics are controlledprimarily byrecent weather, topographicposition,and presence or absence of permafrost; however, these dynamics are also markedly influenced by temperature and soil type [Luthin and Guymon, 1974]. [12] In relatively flat areas, where the ice-rich frozen layer is near the surface, soil moisture content is usually quite high. These areas have relatively high evapotranspiration and sensible heat transfer but low conductive heat transfer owing to the insulating properties of thick organic soils. As the active layer thickens throughout the summer, its capacity to store water increases, resulting in a time-varying basin response to storm events [Bolton et al., 2000]. In some cases, the surficial soil may become drier when permafrost degrades and subsurface drainage improves. Thermokarst formation can lead to very high soil moisture levels in the bottom of the thermokarst structure and can cause drastic drying at the surface of the adjacent land.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความชื้นของดินเป็นดินผิวอุทกวิทยาตัวแปรที่มีผลต่อความชื้นที่ดินบรรยากาศสุดอย่างยิ่ง และพลังงาน fluxes เช่นฟลักซ์ความร้อนที่ทำลม และขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงในการแช่แข็ง หรือ thawing ของดินเปียก ฟิลด์การ measurementsofsoilmoisturehavebeencollectedontheNorthSlope ของอลาสก้า โดยเน้นในการสร้างอิทธิพล topographic macroscale และ microscale ไซต์ถูกติดตั้ง ในภูมิภาค foothill และราบชายฝั่งของลุ่มแม่น้ำ Kuparuk ผลเบื้องต้นบ่งชี้ว่า macrotopographic ไล่ระดับสีอย่างมีอิทธิพลต่อความสำคัญของด้านข้างเทียบกับ fluxes แนวตั้ง Microtopographic ความแตกต่างมีผลต่อความชื้นดินต่างพื้นที่ที่ระบุ แต่มีผลน้อยต่อทิศทางการไหล Dynamics ความชื้นของดินมีสภาพอากาศ byrecent controlledprimarily, topographicposition และ หรือ permafrost อย่างไรก็ตาม นี้อย่างเด่นชัดนอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากอุณหภูมิ และดินชนิด [Luthin และ Guymon, 1974] [12] ในพื้นที่ค่อนข้างราบ ชั้นน้ำแข็งที่อุดมไปด้วยน้ำแข็งอยู่ใกล้พื้นผิว ดินชื้นเป็นปกติค่อนข้างสูง พื้นที่เหล่านี้มีราคาค่อนข้างสูง evapotranspiration และถ่ายเทความร้อนที่เหมาะสมแต่ความร้อนไฟฟ้าต่ำที่โอนย้ายเนื่องจากคุณสมบัติของดินเนื้อปูนอินทรีย์หนาฉนวน เป็นเลเยอร์ใช้งานงวดตลอดฤดูร้อน ความจุของการเก็บน้ำเพิ่มขึ้น เกิดเหตุการณ์พายุ [โบลตันและ al., 2000] การตอบสนองอ่างเวลาแตกต่างกัน ในบางกรณี ดิน surficial อาจแห้งเมื่อ permafrost เสื่อม และปรับปรุงการระบายของ subsurface Thermokarst กำเนิดอาจทำให้ระดับความชื้นของดินสูงมากด้านล่างของโครงสร้าง thermokarst และทำให้แห้งรุนแรงที่พื้นผิวของที่ดินอยู่ติดกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความชื้นในดินเป็นพื้นผิวที่ดินตัวแปรอุทกวิทยาที่มากที่สุดส่งผลกระทบต่อความชื้นบรรยากาศที่ดินและฟลักซ์พลังงานเช่นการไหลของความร้อนระเหยและการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนในการแช่แข็งหรือการละลายของดินเปียก สนาม measurementsofsoilmoisturehavebeencollectedontheNorthSlope อลาสก้าที่มีความสำคัญในการสร้าง macroscale และอิทธิพลภูมิประเทศไมโคร เว็บไซต์ที่มีการติดตั้งในพื้นที่เชิงเขาและที่ราบชายฝั่งของลุ่มน้ำ Kuparuk ผลการศึกษาเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าการไล่ระดับสี macrotopographic อิทธิพลอย่างมากถึงความสำคัญของด้านข้างเมื่อเทียบกับฟลักซ์ในแนวตั้ง ความแตกต่าง Microtopographic ส่งผลกระทบต่อขนาดเล็กแตกต่างในเชิงพื้นที่ความชื้นในดิน แต่มีผลกระทบน้อยลงในทิศทางการไหลของ การเปลี่ยนแปลงความชื้นในดินมีสภาพอากาศ controlledprimarily byrecent, topographicposition และมีหรือไม่มี permafrost; แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะยังได้รับอิทธิพลอย่างเห็นได้ชัดจากอุณหภูมิและชนิดของดิน [Luthin และมอน 1974] [12] ในพื้นที่ค่อนข้างราบที่อุดมไปด้วยน้ำแข็งแช่แข็งชั้นอยู่ใกล้ผิวดินมีความชื้นมักจะค่อนข้างสูง พื้นที่เหล่านี้มีการคายระเหยที่ค่อนข้างสูงและการถ่ายเทความร้อนที่เหมาะสม แต่การถ่ายเทความร้อนเป็นสื่อกระแสไฟฟ้าต่ำเนื่องจากคุณสมบัติของฉนวนของดินอินทรีย์หนา เป็นชั้นที่ใช้งานอยู่ข้นตลอดฤดูร้อน, ความสามารถในการจัดเก็บเพิ่มขึ้นของน้ำที่มีผลในการตอบสนองลุ่มน้ำเวลาที่แตกต่างกันกับเหตุการณ์พายุ [โบลตัน et al., 2000] ในบางกรณีดิน surficial อาจจะกลายเป็นแห้งเมื่อ degrades permafrost และการระบายน้ำใต้ผิวดินช่วยเพิ่ม ก่อ Thermokarst สามารถนำไปสู่​​ดินสูงมากระดับความชุ่มชื้นในด้านล่างของโครงสร้าง thermokarst และอาจทำให้เกิดการอบแห้งรุนแรงที่พื้นผิวของที่ดินที่อยู่ติดกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความชื้นในดินเป็นดินอุทกวิทยาตัวแปรที่มีผลต่อความชื้นมากที่สุดขอที่ดินบรรยากาศ และพลังงาน เช่น ค่าฟลักซ์ความร้อนระเหย และการเปลี่ยนเฟสในการแช่แข็งหรือละลายดินเปียก สนาม measurementsofsoilmoisturehavebeencollectedonthenorthslope อลาสก้า โดยเน้นการสร้าง macroscale จุลภาคภูมิประเทศและอิทธิพลเว็บไซต์ที่ถูกติดตั้งในพื้นที่เชิงเขาและที่ราบชายฝั่งของ kuparuk ลุ่มน้ำ ผลจากการทดลองเบื้องต้นพบว่า macrotopographic ไล่สีมากอิทธิพลสำคัญต่อขนานกับแนวตั้ง ความแตกต่าง microtopographic มีผลต่อความแตกต่างทางพื้นที่ขนาดเล็กในดิน แต่มีผลกระทบน้อยลงในทิศทาง ฟลักซ์พลศาสตร์ดินมีสภาพอากาศ controlledprimarily byrecent topographicposition และการแสดงตนหรือขาดของ permafrost ; อย่างไรก็ตาม , พลวัตเหล่านี้ยังได้รับอิทธิพลอย่างชัดเจน โดยอุณหภูมิและ luthin ชนิดดินและ guymon [ 1974 ] [ 12 ] ในพื้นที่ค่อนข้างราบ ที่น้ำแข็งแช่แข็งรวยชั้นใกล้ผิวดินมีความชื้นมักจะค่อนข้างสูงพื้นที่เหล่านี้มีน้ำค่อนข้างสูง และมีเหตุผล แต่การถ่ายโอนความร้อนต่ำการถ่ายเทความร้อนเนื่องจากฉนวนสมบัติของดินอินทรีย์หนา เป็นชั้นที่ใช้งานข้นตลอดฤดูร้อน ขีดความสามารถในการจัดเก็บเพิ่มน้ำ ส่งผลให้เกิดการตอบสนองต่อเหตุการณ์พายุอ่าง [ โบลตัน et al . , 2000 ) ในบางกรณีเกี่ยวกับพื้นผิวดินดินอาจกลายเป็นแห้งเมื่อ permafrost และบั่นทอนการระบายน้ำใต้ผิวดินด้วย thermokarst การพัฒนาสามารถนำสูงมาก ดินระดับความชื้นในด้านล่างของโครงสร้าง thermokarst และสามารถทำให้รุนแรงอุณหภูมิพื้นผิวของที่ดินข้างเคียง .